ประเทศไทยเผชิญกับวิกฤตฝุ่นละออง PM 2.5 มาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ซึ่งเป็นปัญหาต่อการดำเนินชีวิตทั้งในกรุงเทพมหานครฯ นนทบุรี ปทุมธานี เชียงใหม่ และอีกหลายเมืองทั่วประเทศ ในขณะที่ฝุ่นละออง PM2.5 ไม่มีทางจะลดละ และทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน แต่รัฐบาลเองกลับไม่มีการตอบสนองต่อการแก้ปัญหาในเรื่องนี้และไม่มีการประกาศเตือนอย่างเร่งด่วนแก่ประชาชนในวันที่ค่าฝุ่นสูงเกินมาตรฐาน 

อย่างเช่นวันนี้ (14 มกราคม 2563) เวลา 08:00 วัดค่าฝุ่นได้ 155 ไมครอน ซึ่งเกินกว่าค่ามาตรฐาน กลุ่มนิสิตนักศึกษาและนักกิจกรรมหลายสถาบันภายใต้ ‘เครือข่ายชมรมอนุรักษ์จึงออกมารวมตัวตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล จัดแฟลชม็อบเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถึงปัญหาฝุ่นละออง #NotMyPM (2.5) พร้อมยื่นข้อเรียกร้องกดดันต่อรัฐบาลให้ออกมาตรการรับมือปัญหาฝุ่นในระยะเร่งด่วน 3 ด้าน คือ

  1. ด้านการรับมือปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในระยะเร่งด่วน โดยทางภาครัฐต้องกระจายข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนตระหนักรู้อย่างทั่วถึง ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องแจ้งสถานการณ์ฝุ่นละอองผ่าน SMS โทรศัพท์เคลื่อนที่ของประชาชนอย่างรวดเร็วและทันสถานการณ์ระบบขนส่งมวลชน ทั้งรถขนส่งสาธารณะ รถไฟฟ้า ต้องแจ้งเตือนสถานการณ์ฝุ่นละอองให้ผู้ใช้บริการรับทราบ ผ่านโทรทัศน์ที่ติดตั้งบนรถโดยสาร และออกมาควบคุมกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นพิษทุกชนิด รวมถึงให้โรงเรียน สถานประกอบการ โรงงาน หยุดงานชั่วคราว รวมทั้งมีมาตรการรองรับผู้เดือดร้อนหากมีการหยุดงานที่สูญเสียต่อรายได้

  2. ด้านการรับมือปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในระยะสั้น ภาครัฐต้องสนับสนุนและอุดหนุนราคาหน้ากากอนามัยหรืออุปกรณ์ฟอกอากาศเพิ่มขึ้น และสนับสนุนการทำวิจัยเพื่อหาสาเหตุของฝุ่น PM 2.5 อย่างแน่ชัด เพิ่มจุดตรวจ PM2.5 ให้ทั่วประเทศ และมีมาตรฐานเดียวกัน

  3. ด้านการรับมือปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในระยะยาว รัฐบาลต้องออกกฎหมายอากาศสะอาด (clean air act) ที่สามารถใช้ได้จริง และต้องควบคุมวิธีการผลิตของเอกชนอย่างเคร่งครัดพร้อมทั้งสนับสนุนให้ประชาชนใช้บริการขนส่งสาธารณะ โดยการจัดบริการขนส่งสาธารณะให้มีราคาถูกและเข้าถึงได้ทุกกลุ่ม ออกแบบและวางผังเมืองที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และแก้ไขหรือวางผังเมืองใหม่โดยคํานึงถึงการลดปัญหามลพิษทางอากาศ รวมไปถึงต้องจัดตั้งองค์กรดูแลด้านสิ่งแวดล้อมที่มีอํานาจครอบคลุมทั่วถึงในการดูแลและแก้ไขปัญหาทางสิ่งแวดล้อมทั้งหมด 

กลุ่มกลุ่มนิสิตนักศึกษาที่มารวมตัวกันจัดกิจกรรมในครั้งนี้ต่าง สวมหน้ากากอามัย ถือป้ายค่าฝุ่นละอองในอากาศอัตราสูงพร้อมออกมาปราศรัยถึงสถานการณ์สิ่งแวดล้อมที่ต้องเผชิญและไม่อาจทนได้อีกต่อไปพวกผู้ใหญ่บอกให้เราตั้งใจเรียนเพื่อมีอนาคตที่ดี  แต่แล้วเราจะเรียนไปทำไมในเมื่ออนาคตที่ว่ามันไม่มีอยู่แล้ว ปกติแล้วการประท้วงสิ่งแวดล้อมที่นำโดยเกรตา ธันเบิร์ก จะประท้วงกันในทุกวันศุกร์ แต่วันนี้เราต้องออกมาเพราะวิกฤตการณ์ เรารอถึงวันศุกร์ไม่ได้แล้ว”  เกศกนก วงษาภักดี

Tags: , ,