ระหว่างที่หลายคนเป็นห่วงว่ามรดกวัฒนธรรมเก่าๆ จะโดนฝุ่นจับเหงาๆ อยู่ในพิพิธภัณฑ์ อาลีบาบาแก้ปัญหาด้วยการทำให้เป็นสินค้ามวลชน

เถาเป่า แพลตฟอร์มขายสินค้าในเครืออาลีบาบาจะจับมือร่วมกับบรรดาพิพิธภัณฑ์และโบราณสถานในจีน ออกแบบสินค้า สร้างแบรนด์ และส่งเสริมการขาย เพื่อทำให้ผลงานสร้างสรรค์จากอดีตได้เข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มใหม่ล่าสุด คือกลุ่มมิลเลนเนียลส์ชาวจีน โดยมองว่า สิ่งที่จะอนุรักษ์วัฒนธรรมได้ดีก็คือการนำมาทำเป็นสินค้าที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันเสียเลย

เว็บไซต์อาลีซิลาของอาลีบาบากรุ๊ป เผยว่า เถาเป่าและกลุ่มพาร์ทเนอร์ ‘สมบัติของชาติ’ เหล่านี้ จะเริ่มเปิดตัวผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ร่วมกันนี้ทุกๆ สัปดาห์ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 29 พ.ค.นี้

ในจำนวนนี้มีพิพิณฑ์ตุนหวง พิพิธภัณฑ์สุสานของจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ (สุสานฉินสื่อหวง) ซึ่งเป็นที่รู้จักจากกองทัพทหารดินเผา รวมทั้งสถานที่สำคัญต่างๆ อย่างกำแพงเมืองจีนด้วย

อาลีบาบากรุ๊ปจะทำหน้าที่จับคู่สถาบันทางวัฒนธรรมต่างๆ เข้ากับนักออกแบบและผู้ผลิตที่อยู่ในเครือข่ายธุรกิจของอาลีบาบา เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคชาวจีนรุ่นใหม่ โดยนำเอางานศิลปะและศิลปวัตถุ รวมทั้งงานทรัพย์ทางปัญญาอื่นๆ ที่สถาบันเหล่านั้นถือครองอยู่มาประยุกต์สร้างสรรค์

เถาเป่ายังนำเสนอข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคและให้คำปรึกษาในการเลือกผู้ผลิต และช่วยส่งเสริมการตลาด เช่นนำไปเสนอในงานเฉลิมฉลองประจำปี Taobao Maker Festival ซึ่งเข้าถึงกลุ่มนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่

เจิ้ง จง (Zheng Zhong) ผู้อำนวยการเถาเป่ามาร์เกตติ้ง กล่าวว่าโครงการนี้มุ่ง “ใช้จินตนาการสร้างสรรค์มาช่วยธำรงมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติไว้ให้ยังอยู่ในใจของผู้บริโภค เราทำให้สิ่งเหล่านี้ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนจริงๆ เพื่อให้สามารถเป็นสิ่งที่ถูกรัก หวงแหน และส่งต่อกันไปได้”

เถาเป่าวางแผนจะขยายโครงการไปสู่พาร์ทเนอร์มากกว่า 100 รายภายในสามปีข้างหน้า ซึ่งจะลองสร้างผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นๆ เช่น อาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องใช้ในบ้าน

จาง จินเทา (Zhang Jintao) ผู้อำนวยการหน่วยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์แห่ง พิพิธภัณฑ์สุสานของจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ กล่าวว่า พวกเขามองว่าร้านกิฟต์ช็อปกองทหารดินเผาเป็นเสมือนพื้นที่แสดงนิทรรศการส่วนสุดท้ายของพิพิธภัณฑ์

“เราอยากให้ผู้เข้าชมได้เพลิดเพลินและเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรม ทั้งตอนที่ชมพิพิธภัณฑ์และตอนเลือกซื้อสินค้า”   

ส่วน เหลย หยิง (Lei Ying) ประธานโรงอุปรากรเสฉวนแห่งเฉิงตู กล่าวว่าผลิตภัณฑ์มาส์กใบหน้า ที่ร่วมออกแบบกับเถาเป่านั้นทำให้พวกเขาสื่อสารไปถึงคนในวงกว้าง ขยายไปไกลกว่ากลุ่มฐานแฟนอุปรากรของพวกเขาเอง  

“สิ่งที่สร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์มาส์กหน้าเหล่านี้ก็คือ มันไม่ใช่แค่ของที่ระลึก แต่เป็นสินค้าเพื่อการบริโภคจริงๆ คุณอาจจะซื้อของที่ระลึกแค่ครั้งเดียวในชีวิต แต่สินค้าบริโภคนั้นเป็นสิ่งที่ใช้แล้วหมดไป”

ที่มา:

https://www.alizila.com/chinas-museums-target-millennials-where-they-live-taobao/