สมมติว่าวันหนึ่งคุณกำลังเดินเล่นในห้างสรรพสินค้าแถวบ้าน แล้วมีคนเดินเข้ามาบอกกับคุณว่า

“อืม ผมว่าหน้าตาของคุณมันช่างดูไม่เป็นมงคลเอาเสียเลยนะ หน้าตาอย่างคุณนี่ผมว่าถ้าไม่เปลี่ยนจะทำให้พ่อคุณตาย เมียคุณจะทิ้งคุณในอีกไม่ช้านี้ แถมลูกสาวของคุณก็จะต้องโตไปเป็นเมียน้อยคนอื่นอีกด้วย มีทางแก้อยู่แค่ทางเดียว นั่นก็คือการเปลี่ยนใบหน้าใหม่ซะ เอาที่มันดูมีศิริมงคลหน่อย คลินิกศัลยกรรมที่ผมเป็นเจ้าของอยู่สามารถช่วยคุณได้นะครับ ปกติผมคิดห้าแสน แต่เพราะผมถูกชะตากับคุณผมลดให้เหลือสองแสนห้า สนใจไหมครับ”

คุณจะยอมทำศัลยกรรมเพื่อเปลี่ยนใบหน้าของคุณ (พร้อมกันกับห้ามตัวเองไม่ให้ชกหน้าของชายแปลกหน้าคนนี้ภายในหนึ่งนาทีแรกที่เจอเขาได้) ไหมครับ

ผมว่าเกือบร้อยทั้งร้อยของคุณผู้อ่านทั้งหมดก็คงจะไม่ยอมเปลี่ยนหน้าของตัวเองที่ตัวเองเกิดมาแน่ๆ เพียงเพราะว่ามีคนแปลกหน้าหนึ่งคนมาทักกับเราว่า หน้าตาของเราที่อยู่กับเรามาตั้งแต่วันที่เราเกิด จะทำให้เกิดเรื่องร้ายต่างๆ นานาในชีวิตของเรา

ก็แหม หน้าของเรามันอยู่กับเรามาตั้งแต่เกิดนี่นา ถ้าปกติเราพอใจกับมันอยู่ เราจะไปเปลี่ยนมันทำไม จริงไหมครับ

แล้วถ้างั้นคุณเคยสงสัยไหมครับว่า ทำไมจึงมีคนเราหลายคนพร้อมที่จะยอมเปลี่ยนชื่อของตัวเองที่เราใช้มาตั้งแต่เกิดเพียงเพราะมีหมอดูบอกให้เราเปลี่ยน ซึ่งหมอดูส่วนใหญ่ก็คือคนแปลกหน้าดีๆ นี่แหละ

หมอดูคู่หมอเดา?

เป็นเรื่องธรรมดานะครับที่คนเราเกือบทุกๆ คนต่างก็อยากจะรู้อนาคตของตัวเองกันทั้งนั้น ทั้งนี้ก็เป็นเพราะว่ามนุษย์เป็นสัตว์ชนิดเดียวบนโลกที่ ‘คิดถึงอนาคต’ ของตนเองและคนรอบข้าง และคิดถึงอยู่เกือบตลอดเวลาด้วย (ถึงแม้ว่าจะมีสัตว์หลายชนิดที่มีพฤติกรรมคล้ายๆ กันกับว่า มันกำลังคิดถึงอนาคตอยู่ อย่างเช่นกระรอกที่เก็บของกินตุนไว้มากขึ้นในฤดูใบไม้ร่วง หรือหมีที่เริ่มจำศีลก่อนที่ฤดูหนาวจะเริ่มขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้วพฤติกรรมของสัตว์พวกนี้แค่เปลี่ยนไปเพราะสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติที่กำลังเปลี่ยนไป ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกันกับการคิดถึงอนาคตเลย ถ้าคุณผู้อ่านไม่เชื่อ ก็ลองนึกดูเองนะครับว่าเราเคยเห็นสัตว์ชนิดไหนบ้างที่นั่งเครียดนอนเครียด เพราะไม่อยากจะต้องแก่ตายอยู่ตัวเดียวในอนาคต หรือนั่งอมยิ้มอยู่ตัวเดียว เพราะกำลังคิดถึงอากาศในช่วงของหน้าร้อนที่ยังมาไม่ถึง)

จึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจเลยที่คนเรายอมเต็มใจที่จะเสียทั้งเงินและเวลามากมายไปกับการค้นหาคำตอบที่เกี่ยวกับอนาคตของตนเองและคนรอบข้าง แต่ปัญหาก็คือว่าเราควรจะยอมจ่ายเงินมากน้อยแค่ไหนให้กับคำทำนายอนาคตเหล่านี้

ตามหลักเศรษฐศาสตร์แล้ว ถ้าสิ่งใดยิ่งมีค่ามาก เราก็พร้อมที่จะยินยอมจ่ายเงินเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้ได้ซึ่งมันมา ซึ่งถ้านำหลักนี้มาประยุกต์ใช้กับคำทำนายอนาคตของอาชีพหมอดู ก็จะหมายความว่ายิ่งหมอดูทำนายอนาคตแม่นขึ้นเท่าไหร่ เราก็ยินยอมที่จะจ่ายเงินให้กับหมอดูคนนั้นเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น แต่ติดอยู่ตรงที่อาชีพหมอดูเป็นอาชีพที่ไม่เหมือนกับอาชีพอื่นๆ ตรงที่คุณไม่สามารถที่จะไปหยั่งรู้ได้ก่อนที่จะจ่ายเงินเลยว่าตัวสินค้าที่คุณกำลังจะซื้อมา ซึ่งก็คือคำทำนาย เป็นสินค้าคุณภาพดี (คำทำนายอนาคตที่แม่น) หรือไม่ดี (คำทำนายอนาคตที่ไม่แม่น) มีอยู่เพียงสิ่งเดียวที่คุณสามารถใช้เป็น ‘สัญญาณ’ คุณภาพของหมอดูที่ดีและไม่ดีได้ก็คือ ประวัติการทำนายและชื่อเสียงของหมอดูนั่นเอง

คำถามสองข้อที่ต้องตอบให้ได้ก่อนใช้บริการหมอดู

มาถึงตอนนี้ผมมีคำถามให้กับคุณผู้อ่านสองข้อ

ข้อที่หนึ่ง เป็นคำถามสำหรับคนที่เคยไปใช้บริการหมอดูมาก่อน คุณเคยขอดูประวัติของหมอดูไหมครับว่า ในจำนวนการทำนายทั้งหมดของเขามีกี่ครั้งที่เขาทำนายถูก และมีกี่ครั้งที่เขาทำนายผิด และเวลาที่เขาทำนายเขามักจะทำนายในสิ่งที่เป็นไปไม่ค่อยจะได้ หรือเขามักทำนายในสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้สูงกว่ากัน

ถ้าให้ผมเดาละก็คงจะไม่มีคนไหนเคยขอดูประวัติความสำเร็จและผิดพลาดในการทำนายของหมอดูมาก่อน นั่นก็เป็นเพราะว่าคงจะไม่มีหมอดูคนไหนในโลกที่เก็บประวัติการทำนายของตนเองเอาไว้ หรือถ้าเก็บก็คงจะไม่เอามาโชว์ให้ลูกค้าดูง่ายๆเพราะเปอร์เซ็นต์ของการทำนายอนาคตที่ไม่แน่นอนถูกต้องตรงเผงนั้น มันคงจะเป็นตัวเลขที่น้อยเสียเหลือเกิน

ข้อที่สองก็คือ คุณคิดว่าการทำนายผิดของหมอดูในแต่ละครั้งมีผลร้ายกับชื่อเสียงของหมอดูมากน้อยขนาดไหน เมื่อเทียบกันกับชื่อเสียงที่พวกเขาจะได้มาจากการทำนายถูกในแต่ละครั้ง น้อยกว่า มากกว่า หรือเท่าๆ กัน?

ด้วยเหตุผลที่ว่าหมอดูทุกคนมีแรงจูงใจ (incentives) ที่สูงในการที่จะตอกย้ำความสำเร็จในการทำนายของตัวเองให้กับคนอื่นๆ รู้ แต่แรงจูงใจของคนที่จับได้ว่าหมอดูทำนายผิดและสมควรได้รับการเปิดโปงนั้นมีอยู่น้อยกว่ามาก

ส่วนหนึ่งก็เพราะเรามักจะเจอคำพูดกรอกหูอยู่บ่อยๆ ว่า ‘ไม่เชื่ออย่าลบหลู่’ ซึ่งเป็นขบวนการอย่างหนึ่งที่ทำให้เราหลายๆ คนไม่อยากจะจับคำทำนายผิดๆ ของหมอดูมาจำและเปิดโปง เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนเราส่วนใหญ่มักจะได้ยินแต่ชื่อเสียงมากกว่าชื่อเสียของหมอดู ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ราคาที่เราจ่ายให้กับหมอดูส่วนใหญ่มักจะมีค่าที่สูงมาก และไม่สะท้อนความสามารถที่แท้จริงของหมอดูสักเท่าไหร่

แล้วอนาคตทำนายได้จริงๆ ไหม

มาถึงตรงนี้ผมคงต้องบอกก่อนว่า คนเราสามารถทำนายอนาคตได้จริงๆ นะครับ แต่ความสามารถในการทำนายอนาคตของคนเรานั้นแย่ถึงแย่มากๆ ถ้าอนาคตที่เราต้องการจะทำนายนั้นไม่ได้มีตัวแปรสำคัญเป็นอดีตของมันเอง (พูดง่ายๆ คือถ้าผมทำงานกลับบ้านห้าโมงเย็นทุกวันเป็นเวลากว่าสิบปี ถ้าผมไม่ได้เปลี่ยนงานหรือต้องทำโอที ผมสามารถที่จะใช้อดีตการทำงานของผมทำนายได้ว่า วันพรุ่งนี้ผมก็จะกลับบ้านห้าโมงเย็นเหมือนเดิม)

แต่ปัญหาก็คือสิ่งที่เราอยากจะให้หมอดูทำนายส่วนใหญ่นั้นไม่ได้มีอดีตเป็นตัวแปรที่สำคัญ อย่างเช่น เมื่อไหร่จะพบเนื้อคู่ ถ้าฉันเลือกจะออกจากงานของฉัน ฉันจะมีความสุขไหม แล้วทำยังไงถึงรวย เป็นต้น (เพราะถ้าสิ่งเหล่านี้มีอดีตของตัวมันเองเป็นตัวแปรอนาคตละก็ เราก็คงจะไม่ไปพึ่งหมอดูหรอก) ซึ่งก็หมายความว่ามันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คนเราจะมีความสามารถในการทำนายอนาคตเหล่านี้ได้อย่างถูกต้องตรงเผงนอกจากจะฟลุกเท่านั้น

แล้วถ้าอย่างนี้แล้วการดูหมอมันให้อะไรที่ๆ ดีกับคนที่ไปดูได้ไหม

จะว่ามีข้อดีในการใช้บริการหมอดูไหมมันก็มีนะครับ แต่ว่าเราต้องรู้ตัวก่อนว่าเงินที่เรากำลังจะจ่ายให้กับหมอดูนั้นเราไม่ได้จ่ายให้กับสินค้าจริงๆ ที่หมอดูอยากจะขายให้กับเรา ซึ่งก็คือคำทำนายนั่นเอง แต่เป็นอย่างอื่น

อย่างแรกก็คือ การใช้บริการหมอดูนั้นทำให้เรารู้สึกว่าเรากำลังมี control ในสิ่งที่เรามี control ไม่ได้ (เราเรียกความต้องการทางจิตวิทยาตัวนี้ว่า illusion of control) ซึ่งการมี illusion of control นั้นก็เหมือนกับการหลอกตัวเองว่า ‘ถ้าเราเชื่อหมอดู เราสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตของตัวเองได้นะ’ ซึ่งถึงแม้ว่าการกระทำตามหมอดูจะไม่ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในชีวิตของเรา เราก็อาจจะรู้สึกดีที่ได้ทำ เพราะการกระทำทำให้เรารู้สึกว่าเรามี control ในสิ่งที่เราไม่สามารถ control ได้

อีกอย่างหนึ่งก็คือ การได้ไปดูหมอทำให้เราได้ลุ้นว่าสิ่งที่หมอดูทำนายนั้นมันจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ อันนี้ก็คล้ายๆ กันกับงานวิจัยที่ว่าคนที่ซื้อล็อตเตอรี่ส่วนใหญ่นั้นจะมีความสุขมากที่สุดก็ตอนวันที่เลขจะออก เพราะว่าจะได้ลุ้นว่าตัวเองจะถูกล็อตเตอรี่หรือไม่ การได้คำทำนายของหมอดูก็คือ การได้เสพความสุขที่มาจาก ‘ความหวัง’ ที่หมอดูได้ให้เรามา ถึงแม้ว่าคำทำนายที่ให้มาอาจจะถูกหรือไม่ถูกก็ได้

แล้วคุณผู้อ่านล่ะครับ เมื่อทราบเช่นนี้แล้วยังอยากจะยอมจ่ายเงินแพงๆ ให้กับหมอดูอยู่ไหมล่ะครับ

ภาพประกอบ: NOLA NOLEE

Tags: , , ,