ในปี 2019 อุตสาหกรรมภาพยนตร์เกาหลียังนับว่ามาแรงอย่างต่อเนื่อง ภาพยนตร์บางเรื่องสามารถสร้างความฮือฮาได้ในระดับสากล จัดเต็มเรื่องชนชั้นและการเสียดสีสังคมจนสามารถเข้าไปครองความชื่นชอบของใครหลายคนได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวก็คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก Parasite (2019) แต่นอกเหนือจากเรื่องนี้แล้วก็ยังมีเรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ทั้งแอ็คชั่น คอมเมดี้ ดราม่า โดยยังคงความแสนสันต์ในแบบของตัวเอง มีประเด็นให้เราได้นำมาขบคิดต่อ และนี่คือบางส่วนจากทั้งหมดที่จะทำให้เราตั้งตารอภาพยนตร์เกาหลีในขวบปี 2020 อย่างคาดหวัง

Extreme Job (2019)

ภาพยนตร์แอ็คชั่นคอมเมดี้สุดป่วงที่จะเรียกเสียงหัวเราะและความหิวออกมาพร้อมๆ กันเรื่องนี้เป็นผลงานที่ทำยอดขายตั๋วทะลุ 10 ล้านใบภายในเวลาเพียง 15 วัน และกลายเป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จด้านรายได้มากที่สุดในเกาหลีใต้แซงหน้า Avengers: Endgame (2019) ไปแบบสบายๆ ทั้งที่ฉายด้วยจำนวนโรงที่น้อยกว่า ภาพยนตร์ใช้ทุนสร้างไปเพียง 5.8 ล้านเหรียญ แต่กวาดเงินไปทั้งสิ้นเกือบ 120 ล้านเหรียญ และกลายเป็นภาพยนตร์ที่มีผู้ชมมากเป็นอันดับสองของประเทศด้วยยอด 14 ล้านคน เป็นรองจาก The Admiral: Roaring Currents (2014) ที่ยังครองอันดับหนึ่งด้วยยอดผู้ชม 17 ล้านคน

Extreme Job เป็นเรื่องราวของทีมตำรวจปราบปรามยาเสพติดที่มีผลงานเข้าขั้นชวนส่ายหน้าหนี ว่าง่ายๆ ว่าเวลาที่พวกเขาทำงานแทบไม่ต่างอะไรจากการขี่ช้างจับตั๊กแตน มันจึงเป็นเหตุให้โดนเจ้านายเรียกไปเฉ่งอยู่ตลอด ซึ่งทีมนี้ประกอบไปด้วย หัวหน้าทีม นักสืบโก, นักสืบจาง, นักสืบมา, นักสืบยองโฮ และนักสืบแจฮุน แล้วในที่สุดพวกเขาก็มีโอกาสที่จะได้แก้ตัวในการทำผลงานด้วยการตามสืบพ่อค้ายารายใหญ่ อีมูแบ

ทีมทั้งห้าคนพยายามที่จะติดตามความเคลื่อนไหวของแก๊งค้ายาอย่างใกล้ชิด โดยอาศัยร้านไก่ทอดฝั่งตรงข้ามเป็นที่ซุ่ม แต่ร้านไก่ทอดดันจะปิดตัวลงเพราะไม่มีลูกค้า พวกเขาจึงตัดสินใจเซ้งร้านมาเป็นของตัวเอง โดยทำทีว่าตัวเองเป็นแค่คนทั่วๆ ไปที่อยากมีกิจการเป็นของตัวเอง ซึ่ง! ร้านไก่ทอดดันขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ภารกิจตามสืบก็ต้องทำ ไก่ทอดก็ต้องขาย ถ้าทำงานนี้ไม่สำเร็จมีหวังพวกเขาได้ออกมาขายไก่ทอดจริงๆ แน่ เอ๊ะหรือว่าลาออกมาขายไก่ทอดไปเลยดีกว่า!? เพราะทำเงินได้ไม่น้อยเลยทีเดียว งานที่รักกับงานที่ทำเงินอันไหนจะมีพลานุภาพมากกว่ากันนะ!!

Kim Ji-young: Born 1982 (2019)

Kim Ji-young: Born 1982 เป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายขายดีของโชนัมจู ซึ่งหนังสือสามารถทำยอดขายไปมากถึงหนึ่งล้านเล่มภายในสองปี และได้รับการแปลเป็นภาษาอื่นๆ อีกมาก ฉบับภาพยนตร์เองก็ได้รับการตอบรับดีไม่แพ้กัน รวมถึงการตอบรับที่ไม่ดีด้วย เนื่องจากมีกระแสต่อต้านบางส่วนจากคนเกาหลีเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่เกิดขึ้นกับไอรีน หนึ่งในสมาชิกวง Red Velvet ที่ออกมาพูดถึงเรื่องของคิมจียอง แต่กลับโดนแฟนคลับชายฉีกและเผารูป พร้อมกับประกาศว่าจะเลิกติดตามเธอ หรือแม้แต่การโต้แย้งว่าผู้ชายเองก็โดนความเหลื่อมล้ำในเรื่องเกณฑ์ทหารเหมือนกัน

เรื่องราวของคิมจียองไม่ได้เป็นแค่เรื่องของเธอเพียงคนเดียว เพราะชีวิตเธอกำลังสะท้อนให้เห็นระบบโครงสร้างทางสังคมที่คงอยู่มาอย่างเนิ่นนาน การยึดโยงอยู่กับลัทธิขงจื้อแทรกซึมเข้าไปในทุกอณูของการใช้ชีวิต ซึ่งมันได้ลิดรอนหลายสิ่งไปจากคนกลุ่มหนึ่ง คนกลุ่มนี้จึงถูกแทนที่ด้วยคิมจียอง

คิมจียอง เติบโตมาในครอบครัวขนาดกลาง พ่อแม่เธอมีลูกสามคน โดยสองคนแรกเป็นผู้หญิงและคนสุดท้องเป็นผู้ชาย ตั้งแต่ยังเล็กเธอในฐานะลูกคนกลางก็สังเกตเห็นแล้วว่าน้องชายมักจะได้ทุกอย่างมากกว่าใครเสมอๆ และมันก็ยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เมื่อโตขึ้น ปัจจุบันเธอกลายเป็นแม่คน ทำงานเป็นแม่บ้านเต็มตัว มีลูกสาวคนเล็กหน้าตาน่ารัก มีสามีที่คอยเป็นห่วงเป็นใย แต่ชีวิตเธอกลับเหี่ยวเฉาจนเกิดอาการป่วย

คิมจียองเริ่มกลายเป็นคนอื่น เธอพูดจาเหมือนถูกใครบางคนสิงโดยที่ไม่รู้ตัว ชองแดฮยอน ผู้เป็นสามีได้แต่เก็บความลับนี้ไว้ในใจ รวมถึงไปปรึกษากับจิตแพทย์ว่าภรรยาของตนกำลังเป็นอะไรหรือเปล่า เขาไม่สามารถบอกคิมจียองออกไปตรงๆ และเจ็บปวดทุกครั้งที่เห็นเธอเป็นแบบนี้ ต่างฝ่ายต่างอัดอั้นด้วยเรื่องที่ไม่สามารถพูดหรือทำ ยิ่งเมื่อโดนกดทับไว้เรื่อยๆ ก็มีแต่จะสร้างบาดแผลเรื้อรังจนหัวใจพังทลาย… เมื่อผู้หญิงได้มองดูคิมจียอง เราจึงเห็นคิมจียองในตัวเอง

Money (2019)

หากจะกล่าวว่าชีวิตเราขับเคลื่อนไปด้วยเงินก็คงไม่ผิดเท่าไรนัก เพราะถึงเงินจะไม่ใช่ทุกสิ่ง แต่ทุกอย่างนั้นหาซื้อมาได้ก็ด้วยเงิน ดังนั้นเราจึงฝันหวานอยู่เสมอว่าถ้าถูกรางวัลที่หนึ่งสักทีก็คงดี ชีวิตของตัวละครในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เช่นกัน อิลฮยอนเป็นโบรกเกอร์หน้าใหม่ที่ทะเยอทะยานอยากจะประสบความสำเร็จในสายอาชีพ และความสำเร็จนั้นก็ควรจะมาพร้อมความมั่นคั่งในรูปแบบของเงิน

Money นำแสดงโดยรยูจุนยอล หนุ่มเกาหลีที่อาจไม่ใช่พิมพ์นิยมของโอปป้า แต่มีเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ และเราก็พร้อมจะตกหลุมรักเขาทันที่เจ้าตัวยิ้มออกมา ผลงานที่ทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักมาจากซีรีส์ Reply 1988 ในบทเด็กหนุ่มมาดนิ่งที่ไม่ได้คว้าหัวใจนางเอกไปได้ แต่สำหรับชีวิตจริงเมื่อถ่ายทำซีรีส์เรื่องนี้จบลง พ่อหนุ่มรยูจุนยอลของเราก็คบกับฮเยริ (นางเอก) จนทำให้แฟนๆ แอบฟินไปตามๆ กัน

Money เล่าเรื่องของอิลฮยอน เด็กใหม่ที่กำลังก้าวเข้าสู่โลกของวัยทำงาน โดยงานที่เขาเลือกได้แก่อาชีพนายหน้าค้าหุ้น หน้าที่รับผิดชอบตั้งอยู่บนการตัดสินใจที่เฉียบขาดและพลาดไม่ได้สักวินาทีเดียว อิลฮยอนเดินทางมายังสถานที่ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น Wall Street ของเกาหลี มันคือเกาะเล็กๆ ที่ชื่อว่ายออิโด ซึ่งคักคักไปด้วยผู้คน เม็ดเงิน และการแข่งขันที่ดุเดือดจนเขาต้องนั่งไม่ติด

แล้วมันก็ทำให้เขาได้รู้ว่าความจริงไม่ง่ายเหมือนความฝัน เขาพยายามแทบตายเพื่อจะทำผลงานให้ออกมาดี แต่เมื่อมองดูตัวเลขก็รู้เลยว่ามันไม่ใช่ ไม่เฉียดไม่ใกล้กับความสำเร็จสักนิด จนอิลฮยอนเองเกือบจะถอดใจ ซึ่งไม่รู้ว่าจะเรียกโชคดีหรือร้ายมากกว่ากัน เมื่อยุนมินจุน โบรคเกอร์รุ่นพี่เกิดความเห็นอกเห็นใจและคิดว่าเขาน่าจะใช้งานได้ รุ่นพี่จึงโยนงานบางอย่างมาให้ แต่เขาก็ต้องยอมรับความเสี่ยงที่จะตามมา เพราะมันคือกลโกงในการปั่นหุ้น โดยคำสั่งจะมาจากตัวการใหญ่อีกทีหนึ่ง แค่ทำตามคำสั่งง่ายๆ เงินก็จะไหลเข้ามาเป็นกอบเป็นกำ ในเมื่ออิลฮยอนเองไม่มีอะไรจะเสียแล้วเขาจึงหาเรื่องใส่ตัวด้วยการตอบตกลง และหลงระเริงอยู่กับเงินที่ได้มา

Exit (2019)

Exit เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์แอ็คชั่นคอมเมดี้ที่มาแรงไม่แพ้กัน โดยทำรายได้มากเป็นอันดับสามของภาพยนตร์เกาหลี (อันดับสองคือ Parasite) ซึ่งรวมแล้วสามารถกวาดเงินไปได้เกือบ 80 ล้านเหรียญจากทุนสร้าง 11 ล้านเหรียญ และนี่ยังเป็นการกลับมาของไอดอลสาวที่หลายคนคิดถึงอีกด้วย ‘อิม ยุนอา’ แห่งวง Girls’ Generation (SNSD) เกิร์ลกรุ๊ปรุ่นบุกเบิกที่ต่างแยกย้ายกันไปมีผลงานเป็นของตัวเอง ซึ่งเธอควงคู่มากับโจ จองซอก นักแสดงชายที่มีผลงานให้เราดูกันอย่างต่อเนื่องทุกปี

ภาพยนตร์นี้เล่าเรื่องภัยพิบัติใหญ่ที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัวในวันคล้ายวันเกิดแม่ของยงนัม อียงนัมเป็นลูกชายคนเล็กของครอบครัวที่นั่งกินนอนกินอยู่บ้าน เพราะตั้งแต่เรียนจบมหาวิทยาลัยมาก็ไม่เคยหางานและเงินได้เลย เขาปล่อยตัวเองให้กลายเป็นคนไร้ความสามารถ หายใจทิ้งไปวันๆ ไม่มีแฟนไม่มีความรัก คนที่เขาเจอหน้าบ่อยสุดก็เห็นจะเป็นแต่พ่อแม่ และพี่สาวที่คอยจ้ำจี้จ้ำไชอยู่บ้าง เดิมทียงนัมเคยเป็นนักปีนเขาอนาคตไกล แต่มาตอนนี้การปีนเขาก็ไร้ความหมาย ซ้ำยังไม่มีใครมองเห็นความสามารถ

วันที่เหตุการณ์ทุกอย่างพลิกผันคือวันครบรอบอายุ 70 ปีของแม่ โดยครอบครัวเลือกไปจัดงานฉลองอย่างยิ่งใหญ่ที่โรงแรม เพื่อรวมญาติสนิทมิตรสหายมาให้ครบถ้วนแล้วปาร์ตี้กันจนสุดเหวี่ยง แต่เซอร์ไพรส์แรกคือยงนัมได้เจอกับหญิงสาวที่เคยชอบอย่างอึยจู เธอเป็นรุ่นน้องที่อยู่ชมรมเดียวกันและปฎิเสธคำสารภาพรักจากเขา มาตอนนี้อึยจูทำงานเป็นผู้ช่วยผู้จัดการ และกำลังจะกลายเป็นผู้ร่วมชะตากรรมในเซอร์ไพรส์ที่สอง นั่นคือ! โรงแรมกำลังถูกก๊าซพิษเล่นงาน ก๊าซกระจายตัวไปทั่วจนกินบริเวณกว้าง ซึ่งพิษของมันร้ายแรงพอจะทำให้คนที่สูดเข้าไปเสียชีวิตได้ ทางรอดเดียวก็คือการขนย้ายคนทั้งหมดไปยังพื้นที่ปลอดภัย แต่มันจะเป็นไปไม่ได้เลยหากไม่อาศัยความสามารถของยงนัมมาเป็นตัวช่วย!

The Divine Fury (2019)

ภาพยนตร์แอ็คชั่นสยองขวัญที่ได้รับคำวิจารณ์ดีไม่แพ้เรื่องอื่น และสามารถทำสถิติยอดขายตั๋วล่วงหน้าเกินหนึ่งแสนใบ ตัวหนังเปิดตัวได้ดีพอสมควร แต่กระแสแผ่วลงไปบ้างเมื่อเข้าสู่สัปดาห์ต่อๆ มา ด้านโปรดักชั่นอลังการงานสร้าง นักแสดงทุ่มทุนฝึกฝนร่างกายเพื่อรับบทกันอย่างเต็มกำลัง โดยได้หนุ่มพัค ซอจุน มารับบทแชมเปี้ยน MMA ที่ต้องฝึกหนักวันละ 8 ชั่วโมง ฝั่งตัวร้ายได้แก่ อู โดฮวาน มารับบทปีศาจที่ต้องติดเกล็ดและเอฟเฟคต์ทั่วร่างกาย

เส้นเรื่องหลักๆ จะเล่าถึงเส้นทางชีวิตของ ยงฮู เขาไร้ศรัทธาในพระเจ้า ภายในใจคุกรุ่นไปด้วยความโกรธแค้น เพราะเขาต้องสูญเสียพ่อแม่ไป และในครั้งที่ยังมีความเชื่อ เขาก็พยายามสวดมนต์อ้อนวอนเพื่อร้องขอให้พ่อกลับคืนมาจากบาดเจ็บโคม่า (ส่วนแม่เสียไปตั้งแต่เขาเกิด) แต่เมื่อทุกอย่างไม่เป็นผล การสวดภาวนาไร้ค่า ยงฮูจึงละทิ้งพระเจ้าไป

ยงฮู เติบโตมาตามมาบนถนนแห่งการต่อสู้ เขาผลักดันตัวเองจนไปสู่การเป็นแชมเปี้ยน MMA และดูเหมือนว่าจะรุ่งโรจน์มากทีเดียว แต่อยู่ๆ เขากลับมีรอยแผลบนฝ่ามือ ซึ่งเป็นสิ่งที่แพทย์ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ว่ามันเกิดจากอะไร โชคชะตาเลยพาเขาไปเจอกับบาทหลวง และนั่นเองที่ทำให้เขาได้พบกับคำตอบ ‘ฝ่ามือ’ นั้นมีพลังพิเศษ มันช่วยขับไล่วิญญาณชั่วร้ายได้ ไปๆ มาๆ ยงฮูเลยต้องร่วมมือกับบาทหลวงอัน แม้จะไม่เต็มใจเท่าไรนัก เพราะเขายังมีความกังขากับทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ ไม่ง่ายเลยที่หัวใจของคนสูญสิ้นศรัทธาจะกลับมามองเห็นแสงสว่างอีกครั้ง ในเมื่อความมืดมิดได้กัดกินเขามานาน จนเขาไม่อยากหวังพึ่งสิ่งใดนอกจากตัวเอง…