“ออกจากห้องอัด กระโดดขึ้นรถ แล้วออกไปทั่วโลกสร้างประสบการณ์สุดยอดแก่แฟนเพลง”
ลองนึกภาพจินตนาการหากคุณเป็นแฟนเพลงตัวของของวงดนตรีชื่อดังระดับโลกสักวงแล้วได้มีโอกาสใกล้ชิดกับศิลปิน พร้อมเห็นภาพเบื้องหลังทุกอิริยาบถ ขณะอยู่บนรถแวนส่วนตัวที่ใช้สำหรับเดินทางทัวร์ทำการแสดง เพียงแค่นี้ก็แทบจะทำให้ตาลุกวาวเนื้อเต้นยินดีได้แบบไม่ต้องสงสัย ในความเป็นจริง เรื่องแบบนี้มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ แต่กับภาพยนตร์สารคดีนี้ อาจทำให้บรรดาแฟนเพลงได้สัมผัสกับบรรยากาศสุดพิเศษข้างต้นนี้ได้ไม่มากก็น้อย
What Drives Us (2021) ภาพยนตร์สารคดีความยาวราวหนึ่งชั่วโมงครึ่ง จากฝีมือการกำกับของ เดฟ โกรล (Dave Grohl) ฟรอนต์แมนแห่งวงร็อกอัลเทอร์เนทีฟชื่อดัง Foo Fighter และอดีตมือกลองวงกรันจ์ระดับตำนานอย่าง Nirvana ที่จะพาผู้ชมดำดิ่งไปสัมผัสกับเรื่องราวชีวิตและประสบการณ์ทัวร์คอนเสิร์ตของนักดนตรีร็อกระดับตำนานตั้งแต่รุ่นยุค 80s จนถึงปัจจุบัน ผ่านบทสัมภาษณ์ที่ออกจากปากพวกเขาโดยตรงและหาฟังที่ไหนไม่ได้บนโลก ซึ่งแต่ละเรื่องราวนั้นมีพาหนะที่เรียกกันว่า ‘รถแวน’ เหนี่ยวนำมิตรภาพเอาไว้
เปิดเรื่องมาเราจะได้เห็น เดฟ โกรล อยู่บนรถแวนสีแดงสดคู่ใจ ที่อดีตเคยเป็นรถประจำวงไว้ใช้สำหรับทัวร์คอนเสิร์ต แต่ ณ เวลานี้กลับถูกปลดประจำการเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งรถแวนคันดังกล่าวยังคงวิ่งแล่นได้ดี ทว่าในยุคที่เต็มไปด้วยความรวดเร็วแบบนี้ มันจึงไม่ใช่ยานพาหนะตัวเลือกอันดับต้นๆ ของเหล่าร็อกสตาร์อีกต่อไป และครั้งนี้ เดฟเลือกที่จะใช้มันเป็นพาหนะย้อนความทรงจำแก่บรรดาวงดนตรีร็อกระดับโลก ด้วยการขับตรงไปถึงบ้าน พร้อมให้พวกเขาเล่าถึงอดีตการทัวร์คอนเสิร์ตอันหอมหวาน
ฟลี (Flea) มือเบสสุดเพี้ยนแห่งวง Red Hot Chili Pepper, ลาร์ส อุลริก (Lars Ulrich) มือกลองวงร็อกระดับตำนานอย่าง Metallica, ไบรอัน จอห์นสัน (Brian Johnson) ฟรอนต์แมนเสียงแหบเสน่ห์สุดเก๋าจากวง AC/DC, สแลช (Slash) อดีตมือกีต้าระดับพระกาฬแห่งวงปืนและกุหลาบ Gun N’Roses และริงโก สตาร์ (Ringo Starr) ที่ทั่วทั้งโลกต่างรู้จัก และยกย่องเขาในฐานะมือกลองจากวงดนตรีคณะสี่เต่าทอง หรือ The Beatles
เพียงแค่ไม่กี่ชื่อที่เอ่ยมาก็แทบจะชูโรงให้ภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้น่าสนใจยิ่งกว่าเดิม หากแต่ว่าความคุ้มค่าของผู้ชมคือ ยังมีสมาชิกวงดนตรีระดับโลกรายอื่นให้ได้ติดตามอีกมากมายจนจบ ใครจะรู้ล่ะ ว่ากว่าพวกเขาจะโด่งดังมีชื่อเสียง นอกจากกระบวนการเข้าห้องอัดเพื่อทำเพลงออกสู่ตลาดโลกดนตรีแล้ว พวกเขาต้องขยับตัวเองเข้าไปเบียดเสียดในรถแวนประจำวงที่ขนเครื่องดนตรีทำมากิน ที่นอน อาหาร ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ต่างกับบ้านหลังที่สองเพื่อตระเวนรัฐสู่รัฐ โดยมีจุดหมายปลายทางคือสร้างความสุขด้วยเสียงเพลงร็อกแด่แฟนๆ ที่รออยู่
Dave Grohl ตัวดำเนินเรื่องหลักและฟรอนต์แมนวง Foo Fighter ที่มาภาพ NME.COM
สำหรับเนื้อหาส่วนใหญ่ที่อยู่ใน What Drives Us ปฎิเสธไม่ได้ว่าส่วนใหญ่เป็นการเผยให้เห็นถึงวัฒนธรรมการใช้ชีวิตทัวร์คอนเสิร์ตแบบนักดนตรีฉบับโลกยุโรปและตะวันตกเสียส่วนใหญ่ ซึ่งนั่นเป็นเพียงเปลือกนอกเพียงส่วนเดียวเท่านั้น
นัยสำคัญอีกอย่างที่ทางเดฟ โกรลต้องการหยิบสื่อออกมาให้ผู้ชมได้สัมผัสนั้น เป็นประเด็นการใช้ชีวิตโดยมีสิ่งที่เรียกว่า ‘ความฝัน’ เป็นชนวนขับเคลื่อน และส่งต่อความรู้สึกนั้นแก่คนที่เห็นคุณเป็นแรงบันดาลใจแก่เขาเช่นกัน เพราะไม่ว่าคุณจะมีชื่อเสียงโด่งดังคับฟ้าขนาดไหนย่อมต้องมีแรงบันดาลใจเป็นของตัวเอง อย่างไบรอัน จอห์นสันแห่ง AC/DC วัยเด็กก็เคยมี ลิตเทิล ริชาร์ด (Little Richard) นักร้องผิวสีผู้ทรงอิทธิพลในวงการดนตรีริทึมแอนด์บลูส์ และร็อกแอนด์โรล เป็นผู้จุดประกายให้เดินทางสายนักดนตรี หรือจะเป็นประเด็นที่พูดถึงเรื่องความมุ่งมั่นสู่จุดเป้าหมายจากวง Red Hot Chili Pepper ที่ถือเป็นเรื่องพื้นฐานของวงดนตรีที่มีต่อกันในกลุ่มเพื่อนก็ถูกเล่าออกมาซึ่งน้อยคนนักจะได้เห็นถึงมุมนี้ของพวกเขา
Flea มือเบสแห่งวง Red Hot Chili Pepper ที่มา: Bass Magazine
จุดที่น่าเสียดายของภาพยนตร์สารคดีเรื่อง What Drives Us คือแอร์ไทม์การเล่าเรื่องราวของศิลปินแต่ละราย ที่ดูเฉลี่ยออกมามากน้อยไม่เท่ากันเสียเท่าไหร่ รวมถึงฟุตเทจเล่าเรื่องราวที่อาจะเคยพบเห็นผ่านบนโลกอินเทอร์เน็ตกันมาบ้าง แต่ก็ถือว่ายังมีฟุตเทจบางภาพที่เราไม่เคยได้เห็น และสามารถช่วยเพิ่มอรรถรสระหว่างเรื่องไม่ให้น่าเบื่อเสียเกินไป
จึงถือได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ที่นับว่าเป็นเรื่องที่สองในฐานะผู้กำกับของ เดรฟ โกรล ต่อจากเรื่อง Sound City เมื่อปี 2013 ยังคงอยู่ในมาตรฐานดี และไม่ได้แย่เท่าไหร่ โดยเฉพาะหากคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้ของวง Foo Fighters หรือวงร็อกยุค 80s เป็นต้นมา การได้เห็นพวกเขาโลดแล่นบนจอภาพยนตร์ ย่อมช่วยให้หายคิดถึงบรรยากาศทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลกดีๆ ได้ในระหว่างที่โลกยังต้องปราศจากเสียงดนตรีสดเพราะถูกโควิด-19 กลบจนหมดในเวลานี้
Fact Box
สำหรับผู้ที่สนใจภาพยนตร์สารคดีเรื่อง What Drives Us สามารถรับชมได้ผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิง Amazon Prime Video และ The Coda Collection จากทางฝั่งประเทศอเมริกาตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ซึ่งในฝั่งบ้านเราอาจจะต้องอดใจรอฟังข่าวดีว่าจะมีการนำเข้ามาฉายหรือไม่นั้น ยังคงต้องลุ้นต่อไป