‘จากนักเรียนแพทย์ สู่การลาออกมาเป็นนักจิตวิทยา และผันตัวมาเป็นช่างภาพในท้ายที่สุด’ นี่คือบทนำในภาพยนตร์ The Worst Person in the World ที่พยายามชวนคนดูมาทำความรู้จัก จูลี (รับบทโดย Renate Reinsve) หญิงสาววัยกลางคนที่กำลังมองหาเส้นทางของชีวิตที่เธอรู้สึกเหมาะสม  

น่าสนใจที่ในช่วงแรกหนังเล่าถึงวิธีการไล่ล่าชีวิตในอุดมคติของ จูลี เป็นการปูบทบาทให้เข้าใจถึงนิสัยใจคอของตัวละครเอก ว่าเป็นคนไม่ยึดโยงกับขนบทางสังคมใดๆ พร้อมจะกระโจนเข้าหาสิ่งที่น่าสนใจกว่า และไม่จำเป็นต้องรู้สึกเสียดายความสำเร็จที่เพิ่งไล่ล่ามาได้ก่อนหน้า ถือเป็นมุมชีวิตที่น่าสนใจ และไม่ค่อยได้เห็นในวิถีชีวิตของคนไทยเท่าไรนัก 

หากมองในเชิงบริบทของตัวละครที่อยู่ในเมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์ ซึ่งมีการจัดสรรรัฐสวัสดิการดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จึงเปิดโอกาสให้คนสามารถหาความท้าทายทางอาชีพได้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะการมีรัฐสวัสดิการที่ดีเป็นต้นทุน จึงไม่จำเป็นต้องคำนึงรายได้ที่จะพอเลี้ยงปากท้องหรือไม่เป็นสำคัญขนาดนั้น เพราะพวกเขามั่นใจได้ว่าภาครัฐยังคอยช่วยเหลืออยู่ หากวันหนึ่งทางเลือกที่ตัดสินใจไม่ประสบความสำเร็จตามที่ใจหวัง 

ทำให้ในช่วงแรกของเรื่อง เราจึงเห็นการใช้ชีวิตของคนที่อยู่ในเมืองคุณภาพ มีทางเลือกให้กับชีวิตของตนเองมากยิ่งขึ้น เป็นมิติของการใช้ชีวิตที่หากมองผ่านเลนส์คนไทยอาจดูแปลกและเป็นไปได้ยาก แต่สามารถเกิดขึ้นได้ในอีกฝั่งของโลก ณ ปัจจุบัน 

 

2

แต่สำหรับเรื่องความสัมพันธ์ ตัวเลือกอาจจะไม่ได้มีมากมายนัก เพราะหลังจากใช้ลูกเล่นเรื่องหน้าที่การงานของจูลี ที่สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดและการใช้ชีวิตของเธอที่ค่อนข้างพเนจร เหมือนกำลังวิ่งตามหาบางอย่าง ไม่ลงหลักปักฐานกับอะไรเป็นการถาวร ทำให้การใช้ชีวิตเช่นนี้ในความสัมพันธ์ร่วมกับบุคคลอื่น จึงสร้างปัญหาตามมาอีกมาก 

อักเซล (รับบทโดย Anders Danielsen Lie) หนุ่มนักวาดการ์ตูนหัวขบถ ดิบห่าม ตามสไตล์งานแบบ Underground คือรักแรกของเธอจากการพบกันในปาร์ตี้ อักเซลเป็นคนที่ฉลาดตามความคิดของจูลี ผ่านวิธีการพูด การรับฟัง ที่เข้าใจถึงตัวตนของเธออย่างชัดแจ้ง ทำให้เธอหลงใหลชายคนนี้เป็นพิเศษ จนถึงขั้นพาไปพบกับพ่อผู้ไม่ลงรอยกัน

ทุกอย่างกำลังไปได้สวย แต่นั่นเป็นเพราะช่วงแรกหนังให้เรารู้จักอักเซล (Aksel) ผ่านสายตาจูลีเท่านั้น เพราะเมื่อเริ่มสลับฝั่งกลับมามองผ่านเลนส์ของอักเซล เราจะพบความแตกต่างของทั้งคู่ที่ชัดเจน และดูเป็นปัญหากับความสัมพันธ์มาก เช่น อักเซลอยากลงหลักปักฐาน พัฒนาเป็นครอบครัว แต่จูลียังอยากอยู่ในสถานะคู่รักที่คล่องตัวและมีอิสระมากกว่า 

ความขัดแย้งดังกล่าวเริ่มส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์มากขึ้นเรื่อยๆ หลายสถานการณ์ตัวละครก็ชวนคนดูชั่งน้ำหนักว่าสุดท้ายแล้ว ใครถูกหรือใครผิดในความสัมพันธ์กันแน่ ซึ่งไม่ว่าผู้ชมจะเลือกเชียร์ฝั่งไหน เชื่อว่าวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมต่อทุกฝ่ายคือการต้องเลิกรา จากกันไป 

แต่แน่นอนว่า หากเราเจอคนที่คลิกกันขนาดนี้ เราจะแยกทางกันเพราะความคิดเห็นไม่ตรงกันเพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวได้จริงหรือ นั่นคือคำถามที่น่าสนใจ

3

เรื่องราวซับซ้อนขึ้นไปอีก เมื่อจูลีได้พบกับ ไอวินด์ (รับบทโดย Herbert Nordrum) หนุ่มบาริสต้าที่ร้านกาแฟ ซึ่งพูดคุยถูกคอได้ดีไม่แพ้กัน และเมื่อความระหองระแหงจากแอกเซลทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น จึงนำไปสู่การตัดสินใจเลิกรา และเริ่มคบหากับไอวินด์ในท้ายที่สุด ซึ่งตรงนี้มีจุดน่าสนใจในช่วงที่จูลีกำลังจะเปลี่ยนความสัมพันธ์ โดยหนังให้เวลาและตั้งใจถ่ายทอดทุกอารมณ์อย่างเต็มที่ 

เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ ผู้เขียนมองว่าตลอดเวลาที่หนังกำลังเล่าถึงความไม่แน่นอน บ่ายเบี่ยงจะตัดสินใจ หรือเลือกทำอะไรบางอย่าง การที่จูลีเลิกกับอักเซลที่ชอบพอกันมากๆ ถือเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งของจูลี ที่มีตัวแปรอื่นนอกจากตัวเองเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็น ‘Turning point’ สำคัญที่ทำให้เธอต้องเลือกอะไรบางอย่าง

แน่นอนว่า ท้ายที่สุดการเลือกไอวินด์อาจจะไม่ถูกต้อง และต้องจบความสัมพันธ์ลง แต่ ณ จุดนั้นเองที่ทำให้จูลีได้รู้จักอีกมิติหนึ่งของชีวิต นอกจากการต้องรับความเสี่ยงและยอมรับผลในการกระทำของตน และเติบโตในการเป็น Someone ของใครบางคนได้ดีมากยิ่งขึ้น 

มิติของชีวิตคู่เป็นเรื่องน่าหลงใหลและพิศวงสุดๆ ไม่มีหลักสูตรที่มาบอกว่าอะไรถูก อะไรผิด แต่มันก็กลับไม่ได้มีเสรีภาพที่จะทำอะไรก็ได้ไปเสียหมด ทุกการตัดสินใจล้วนส่งผลกระทบต่อกัน 

ดังนั้น หากจะให้จบแบบมีข้อคิด The Worst Person in the World อาจจะเป็นการชวนเราตั้งคำถามว่า ความสัมพันธ์เรามีขอบเขตขนาดไหน และสามารถยอมรับผลที่จะตามมาได้มากน้อยเพียงใด จากการกระทำในเส้นเขตเหล่านั้นของแต่ละคน 

และจากเส้นที่กว้าง-แคบในความสัมพันธ์เหล่านั้น เราจึงค่อยมาตัดสินตัวละครจูลีกันอีกทีว่าเธอถูกหรือผิดในเรื่องราวที่เกิดขึ้น 

4

หากจะบอกว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังโรแมนติกก็คงไม่ผิด เพียงแต่ความโรแมนติกที่เกิดขึ้นนั้นคือความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสังคม ที่จะใช้ชีวิตอยู่ในขนบแบบที่ยึดถือกันมาหรือไม่ ต้องหางานที่มั่นคงไหม ต้องมีรักเดียวที่ยั่งยืนหรือเปล่า คำถามเหล่านี้ โยคิม เทรียร์ (Joachim Trier) ผู้กำกับของเรื่องก็ทำได้ยอดเยี่ยมในการถ่ายทอดให้เห็นในหลากหลายแง่มุม และที่สำคัญคือไม่พยายามไปตัดสินว่าอะไรถูกหรือผิด ปล่อยให้เป็นการดำเนินชีวิตของแต่ละตัวละครตามที่พวกเขานึกฝัน

สิ่งเหล่านี้ชวนให้ผู้เขียนแอบคิดไม่น้อยว่า หากการเป็น The Worst Person in the World แต่เรามีความสุข มันฟังดูโอเคมากน้อยแค่ไหน 

ด้วยรสชาติที่สุดแสนพิศวงและแปลกใหม่เช่นนี้ จึงไม่แปลกใจเลยที่หนังจะถูกเสนอชื่อเข้าชิงสาขารางวัลภาพยนตร์นานาชาติและรางวัลบทดั้งเดิมยอดเยี่ยม ในเวทีออสการ์ ปี 2022 (Academy Awards ceremony) ที่กำลังจะมาถึง

Tags: , , , ,