คุณอยากเป็นเพื่อนร่วมงานแบบไหน

ในชีวิตการทำงาน เราคงมีโอกาสได้เจอผู้คนหลายแบบ ทั้งนักแก้ปัญหาที่มองปัญหาแล้วพุ่งเข้าชนเพราะเห็นเป็นเรื่องท้าทายที่อยากจะฝ่าฟันไป หรือคนที่เห็นปัญหาแล้วได้แต่ท้อ มองเห็นเพียงอุปสรรค และมีความเชื่อว่าคงแก้ไขอะไรไม่ได้

คนกลุ่มแรก นักวิทยาศาสตร์ด้านสมองเรียกว่าเป็นกลุ่มที่มี Growth Mindset คือคนที่เชื่อมั่นว่าคนเราสามารถเปลี่ยนแปลงและพัฒนาได้ หากได้ทุ่มเทและพยายามอย่างเต็มที่ ไม่กลัวที่จะล้มหรือพลาดเพราะว่าทุกสิ่งคือการเรียนรู้

ส่วนคนกลุ่มหลังคือกลุ่ม Fixed Mindset คนกลุ่มนี้มักยึดติดอยู่กับความสำเร็จในอดีต เวลาที่เจอกับความล้มเหลวก็จะทดท้อ มองปัญหาเป็นเรื่องใหญ่โต โดยไม่เชื่อว่าความพยายามหรือการปรับตัวจะช่วยทำให้สถานการณ์ดีขึ้นมาได้

ดร. แครอล เดว็ค (Carol Dweck) เป็นผู้นิยามคำทั้งสองคำนี้ จากการศึกษาทดลองมานานกว่า 30 ปี เธอและทีมพบความเชื่อมโยงของเซลล์สมองที่สามารถเปลี่ยนแปลงไปได้ตามประสบการณ์และทักษะทีไ่ด้รับการฝึกฝน ด้วยเหตุนี้ แทนที่จะเชื่อไปว่า พรสวรรค์เป็นเรื่องติดตัวมาแต่เกิดแล้วทดท้อปล่อยไปตามชะตากรรม การพยายามฝึกฝนทักษะต่างๆ อาจนำมาสู่ความคิดและความสามารถใหม่ๆ ได้เสมอ

ต้องยอมรับว่าในโลกนี้ก็มีปัญหาหรืออุปสรรคที่ยากจนเกินรับมือจริงๆ แต่หากบุคลากรคนทำงานมีทัศนคติที่พร้อมปรับตัว ก็ถือว่าองค์กรมีทุนเบิกทางให้รับมือกับความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ที่อาจมาพลิกแพลงและสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ และหากให้คนส่วนใหญ่เลือกหาคนมาเข้าร่วมทีมทำงานด้วย เชื่อว่าย่อมจะอยากทำงานกับคนที่มี Growth Mindset มองอุปสรรคเป็นตัวนำทาง มีทัศนะเชิงแอคทีฟที่จะแก้ปัญหาได้

 

ก้าวไปข้างหน้าอย่างมีเป้าหมาย

แนวทางสำคัญที่นำมาใช้เพื่อปรับตัวสู่การเปลี่ยนแปลงนั้น มีอีกหลักคิดหนึ่งที่นำไปสู่ความสำเร็จของ แจ็ค แคนฟีลด์ (Jack Canfield) ที่กำหนดหลักคิด ผ่านสูตรชีวิตอย่าง  E+R = O

O – Outcome หมายถึงการกำหนดเป้าหมายปลายทางเอาไว้ว่าเราต้องการ ‘ผลลัพธ์’ อะไร และการทำสิ่งต่างๆ เราควรวางแนวทางหรือวิธีการที่จะนำไปสู่จุดนั้นได้ ซึ่งควรเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและทำได้จริง

E – Event ซึ่งอาจเป็นอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น ห้วงอารมณ์หนึ่ง การจราจร ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ดอกไม้บานในซอย หรือกระทั่งฟ้าฝนในวันนั้น ซึ่งหัวใจสำคัญคือ เราต้องมองเข้าไปว่า ตัวเราคิดอย่างไรต่อเรื่องนั้นๆ

จากนั้น ก็ปรับวิธีคิดนั้นไปสู่การกระทำ R – Response คือ เราจะ ‘เลือก’ รับมือต่อเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อให้ไปสู่ผลลัพธ์ที่ต้องการได้อย่างไร

การปรับเปลี่ยนวิธีคิดตรงนี้นี่เองที่จะไปกระตุ้นการทำงานของสมอง ทัศนคติและมุมมองที่มีต่อเรื่องหนึ่งๆ ในชีวิตประจำวันที่เปลี่ยนไป ก็จะไปเสริมพัฒนาการทางสมองให้มีปฏิกิริยาตอบรับแบบใหม่ๆ ได้

อย่างไรก็ดี สูตร E+R=O นี้ไม่ใช่เครื่องมือที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้อย่างเร่งด่วน เพราะต้องอาศัยการเปลี่ยนแปลงที่เริ่มจากวิธีคิด และสูตรนี้ก็ไม่ได้การันตีว่า ถ้าทำได้แล้วจะประสบผลสำเร็จเห็นผลลัพธ์ดังหวัง เพราะโลกนี้ก็มีปัจจัยอีกมากมายที่เราควบคุมไม่ได้ แต่อย่างน้อย มันคือการจัดการสิ่งต่างๆ อย่างมีเป้าหมาย และได้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เท่าที่จะทำได้ ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของความสำเร็จทั้งปวง

 

Growth Mindset มาเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลง

ทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นว่า Growth Mindset ยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นในโลกที่สถาบันดั้งเดิมจำนวนมากกำลังถูกท้าทายด้วยสิ่งใหม่ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันสื่อ สถาบันการเงิน ฯลฯ ที่ต่างอยู่ในภาวะสั่นคลอน เพราะเทคโนโลยีใหม่ๆ คลื่นลูกใหม่ คนใหม่ๆ สามารถเข้ามาแทนที่คุณค่าและความสำคัญแบบเดิมๆ ที่เคยผูกขาดไว้

ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต หรือ SCBLIFE ก็เห็นความสำคัญของเรื่องนี้ จึงพยายามหาวิธีปรับทีมงานและบุคลากรให้ทันกับกระแสการเปลี่ยนแปลง โดยมุ่งพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรให้ก้าวทันกระแส Disruption ได้ โดยปลูกฝังหลักพื้นฐาน 4 ข้อในการพัฒนาคน ว่าจะต้องมีลักษณะคือ 1) สร้างความคล่องตัวและยืดหยุ่นในการทำงาน 2) เรียนรู้เร็ว 3) สามารถนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้เพื่อพัฒนาศักยภาพของตนเอง 4) พร้อมปรับเปลี่ยนตามความต้องการของลูกค้า

เพื่อปรับให้เติบโตไปด้วยกัน ในขวบปีที่ผ่านมา  SCBLIFE จึงเริ่มต้นกระบวนการเรียนรู้เพื่อในพนักงานมี Growth Mindset โดยมีกิจกรรม ‘Let’s Transform’ ที่ชวนให้คนทำงานเน้นที่การเปลี่ยนแปลงตัวเองจากภายใน เพราะเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะเป็นรากฐานสำคัญ

เริ่มจากกิจกรรม Let’s Transform Mindset การปรับวิธีคิดเพื่อให้เกิดความคุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลง โดยยอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมชาติที่เราสามารถสนุก ตื่นเต้น และเห็นความหวังไปกับมันได้ ซึ่งเป็นพื้นฐานขั้นต้นในการเรียนรู้เรื่องการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ที่จะต้องเจอเพิ่มเติมในชีวิต

ตามมาด้วย Let’s Transform Nutrition โดยย้ำว่า เรื่องอาหารการกินถือเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญที่มีผลต่อร่างกายและอารมณ์ เราอาจชอบตามใจปาก แต่หากจำเป็นต้องเปลี่ยนโภชนาการซึ่งเป็นเรื่องที่ได้ประโยชน์แก่ตัวเองล้วนๆ เราจะทำอย่างไร เพราะเรื่องแบบนี้ ลำพังมีความรู้นั้นไม่พอ แต่ต้องมีวิธีคิดที่พร้อมและยอมเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมด้วย

ถัดจากเรื่องโภชนาการ อีกเรื่องสำคัญที่ดีต่อตัวเรา ก็คือ Let’s Transform Physical เราจะยอมลุกขึ้นมา ดูแลสุขภาพของตัวเองให้แข็งแรง และรักษาวินัยในการดูแลตัวเองเพื่อให้มีพลังกายพลังใจได้อย่างไร

จากการปรับวิธีคิด โภชนาการ และการพัฒนาร่างกาย ทั้งหมดนี้บอกว่าการรู้จักใส่ใจดูแลสุขภาพ เป็นพื้นฐานสำคัญที่ไม่เพียงทำให้ร่างกายเราแข็งแรง แต่จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ความแข็งแกร่งทางจิตใจด้วย

ทั้งหมดนี้ สิ่งที่องค์กรไม่ว่าเล็กใหญ่ต้องพากันเดินไป ก็คือการสร้าง Growth Mindset ซึ่งเป็นลักษณะพื้นฐานของคนทำงานที่พร้อมต่อการพัฒนา ปรับตัวสู้กับความเปลี่ยนแปลง และมีลักษณะเป็นนักแก้ปัญหาให้สำเร็จ

วิธีคิดแบบ Growth Mindset ไม่ได้มีแต่เรื่องการเพิ่มพูนและพัฒนาทักษะในการทำงาน เพราะความรู้ต่างๆ นั้นสามารถเติมเต็มมาได้ แต่การพัฒนาที่ดีที่สุดควรเริ่มมาจากภายใน ซึ่งต้องปรับมุมคิดการใช้ชีวิตในแง่มุมเล็กๆ ของชีวิต ในระดับความคิดและปรับพฤติกรรมด้วย

Tags: , , , ,