ถ้าถามว่า ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะของเรา ดวงไหนแปลกและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หลายๆ คนอาจจะนึกถึงดาวเสาร์ เพราะเป็นดวงเดียวที่มีวงแหวนรอบๆ ตัวเอง แต่วันนี้องค์กรวิจัยดาราศาสตร์ยักษ์ใหญ่อย่าง NASA กลับบอกทุกคนว่า ในวันใดวันหนึ่งดาวเสาร์อาจจะไม่มีวงแหวนนั้นอีกต่อไป

วงแหวนของดาวเสาร์ แท้จริงแล้วเป็นเพียงก้อนน้ำแข็งหรือเศษหินจำนวนมหาศาลโคจรรอบดาวเคราะห์ ซึ่งอาจจะมีขนาดเล็กเพียงฝุ่นหรือใหญ่ราวๆ สนามฟุตบอลเลยทีเดียว โคจรกระจายตัวเป็นชั้นๆ อยู่รอบดาวเคราะห์รวมความกว้างเกือบ 500,000 กิโลเมตรจากศูนย์กลาง (ซึ่งทำให้ดาวเสาร์เป็นดาวเคราะห์วงแหวนที่โดดเด่นฉีกจากดาวเคราะห์วงแหวนดวงอื่นๆ)

ว่าแต่เกิดอะไรขึ้นกับวงแหวนฝุ่นน้อยใหญ่เหล่านี้ วงแหวนรอบดาวเสาร์ถูกชนโดยแสงอัลตราจากดวงอาทิตย์ (Ultra light) หรือ กลุ่มเมฆพลาสม่า (Plasma cloud) ซึ่งจะไปรบกวนให้อนุภาคที่ประกอบเป็นวงแหวนแตกออก และกลายเป็นเม็ดฝุ่นหรือก้อนน้ำแข็งมีประจุเคลื่อนที่ตามเส้นสนามแม่เหล็กของดาวเสาร์ และสลายละลายกลายเป็น ‘ฝนวงแหวน’ (ring rain) จากปรากฏการณ์นี้เอง ทำให้จำนวนของอนุภาคที่ก่อตัวเป็นวงแหวนดาวเสาร์เริ่มลดจำนวนลง ปริมาณของฝนจากการสลายตัวของวงแหวนดาวเสาร์เหล่านี้อาจเติมสระว่ายน้ำขนาดมาตรฐานในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกได้ภายในครึ่งชั่วโมง

จากการคาดคะเนของทีมวิจัยพบว่า ดาวเสาร์จะกลายเป็นดาวที่ไร้วงแหวนในที่สุด ภายใน 100 ล้านปี

หลักฐานจากการตรวจวัดจากกล้องโทรทรรศน์ที่ชื่อว่า ‘KECK’ ซึ่งติดตั้งอยู่ที่ Mauna Kea, Hawaii ประเทศสหรัฐอเมริกา ทำหน้าที่ตรวจวัดแสงอินฟราเรดของการสลายตัวของก้อนน้ำแข็งที่เดินทางเข้าสู่บริเวณสนามแรงโน้มถ่วงของดาวเสาร์และเกิดปฏิกิริยากับชั้นบรรยากาศด้านบนที่ชื่อว่า ‘ionosphere’ พบว่าอัตราการเกิดฝนวงแหวนก็มีอัตราสูงขึ้นด้วยเช่นกัน อีกทั้ง ข้อมูลของการสำรวจภายใต้ภารกิจที่ชื่อว่า Voyager 1 & 2 observations ที่ถูกส่งไปสำรวจดาวเคราะห์วงนอกเมื่อหลายสิบปีก่อน พบว่า อัตราการเกิดฝนวงแหวนไต่ขึ้นสู่ระดับสูงสุด และคาดคะเนว่าวงแหวนเหล่านี้อาจจะสลายตัวหายไปภายใน 300 ล้านปีข้างหน้า

จากการอัตราการเกิดฝนวงแหวนที่เพิ่มขึ้นนี้ ทำให้นักวิจัยคาดว่า แท้จริงแล้ววงแหวนของดาวเคราะห์นี้ไม่ได้ถือกำเนิดมาพร้อมกับดาวเสาร์ที่มีอายุมากกว่า 4 พันล้านปี เพราะอายุของวงแหวนอาจมีเพียง 100 ล้านปีเท่านั้นและจะสลายตัวหายไปหมดในอีก 100 ล้านปีข้างหน้า ซึ่งถือว่าตอนนี้เราอยู่ในยุคที่วงแหวนมีชีวิตมาครึ่งหนึ่งของเวลาที่มันมีทั้งหมดแล้ว ในอนาคตดาวเสาร์อาจจะมีเพียงวงแหวนบางๆ เหมือนดาวพฤหัสบดี ดาวเนปจูน หรือดาวยูเรนัสก็เป็นได้

 

 

ที่มาภาพ: Credits: NASA/JPL-Caltech/Space Science Institute

ที่มา:

Tags: , ,