PM2.5 ฝุ่นอนุภาคเล็กที่คนไทยเริ่มจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี หลังจากในช่วงสองสามปีหลัง ฝุ่น PM2.5 กลายเป็นอีกหนึ่งปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่วนเวียนกลับมาอยู่เรื่อยๆ ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยเฉพาะตามหัวเมืองใหญ่อย่างเช่นที่เชียงใหม่ เป็นต้น

ปัญหาฝุ่นละอองและมลภาวะที่เกิดจากสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษ ทั้งควันจากการจราจร โรงงานอุตสาหกรรม การเผาไหม้ของเชื้อเพลิง และสภาพแวดล้อมอื่นๆ ที่ส่งผลร้ายต่อสุขภาพก่อให้เกิดผลกระทบต่อร่างกายมากมาย และสร้างปัญหาสุขภาพร้ายแรง

สภาพอากาศที่ไม่บริสุทธิ์เมื่ออยู่นอกพื้นที่อาคาร คงหนีไม่พ้นการ ‘สวมหน้ากากอนามัย N95’ และหลีกเลี่ยงการใช้ชีวิตอยู่นอกอาคารเพื่อป้องกันอันตรายจากการสูดดมมลพิษเข้าสู่ร่างกาย 

หากแต่เวลาอยู่ในบ้านก็ไม่ได้หมายความว่าเราปลอดภัยจากฝุ่นแบบ 100% ยิ่งช่วงฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน เราจะเห็นได้ชัดเจนเลยอากาศภายในบ้านก็ใช่ว่าจะดี ทำให้เครื่องฟอกอากาศ ได้กลายเป็นอีกหนึ่งไอเท็มชิ้นสำคัญที่หลายคนต้องมีติดบ้าน

ซัมซุง ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่คิดค้นนวัตกรรมเครื่องฟอกอากาศหลากหลายรูปแบบออกมา ไม่ว่าจะเป็น ซัมซุง คิวบ์ AX9500 (CUBE) สำหรับผู้ที่ชื่นชอบงานดีไซน์ หรือซัมซุง บลู สกาย (BLUE SKY) เพื่อตอบโจทย์คนรักสุขภาพ ให้สามารถเลือกใช้งานตามขนาดพื้นที่ในบ้านได้อย่างเหมาะสม โดยทุกรุ่นจะมาพร้อมสมาร์ทฟังก์ชัน และการออกแบบที่สวยงามลงตัวไร้ที่ติ 

ไม่ว่าจะเป็น Air Sensing Light ระบบไฟอัจฉริยะ 4 สี ที่แสดงคุณภาพอากาศได้อย่างชัดเจนแม้มองจากระยะไกล ความสามารถในการสั่งการผ่านแอปพลิเคชั่น SmartThings การฟอกอากาศได้รวดเร็วผ่านช่องรับอากาศด้านหน้าที่สามารถกระจายอากาศบริสุทธิ์ได้ 3 ทิศทาง และนวัตกรรมฟอกอากาศบริสุทธิ์หลายขั้นตอน ที่สามารถขจัดฝุ่นอนุภาคเล็ก 0.3 ไมครอน ซึ่งเป็นฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า PM 2.5 ได้มากถึง 99.9 เปอร์เซ็นต์

ซัมซุง คิวบ์ AX9500 สีเมทัลซิลเวอร์ วางจำหน่ายที่ราคา 28,900 บาท และซัมซุง บลู สกาย AX7500 ราคา 29,900 บาท ซัมซุง บลู สกาย AX5500 ราคา 20,900 บาท และ ซัมซุง บลู สกาย AX3300 ราคา 11,900 บาท สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.samsung.com/th/air-purifier/

Tags: