สำรับสำหรับไทย จากพื้นที่ทางความคิดสู่อาหารไทยที่ไม่ใช่แค่ในหนังสือ

          ‘สำรับสำหรับไทย’ เป็นแพลตฟอร์มทางความคิดของคนที่รักในอาหารไทย เริ่มแรกมีเพียงแฟนเพจเฟสบุ๊กในชื่อ ‘สำรับสำหรับไทย’ บอกเล่าเรื่องราวของอาหารไทย ก่อนต่อยอดกลายเป็นป๊อปอัพดินเนอร์ที่มีเวลาว่างกันเมื่อไร ก็ทำดินเนอร์บอกเล่าอาหารไทยในมุมมองของตัวเอง

          หัวเรือใหญ่คือ เชฟปริญญ์ ผลสุข อดีตเชฟใหญ่ของร้านอาหารไทย Nahm ซึ่งนี่คือโปรเจ็กต์ส่วนตัวที่เชฟปริญญ์ทำขึ้นมาเพราะไม่อยากหยุดทำอาหารที่เขารักและกลัวว่ารสมือของตัวเองจะตกไปด้วย

          ครัวสำรับสำหรับไทย เป็นพื้นที่ที่เชฟปริญญ์อยากเจออยากพูดคุยกับคนที่ชอบอาหารไทย ซึ่งเชฟบอกว่าตอนนี้เชฟเทเบิ้ลกำลังเป็นที่นิยม อย่างซีรีส์ Shinya Shokudu หรือ Midnight Diner ก็ใช้พื้นที่ครัวพบปะกับผู้คน แต่ก่อนที่จะมาเป็นครัว ‘สำรับสำหรับไทย’ เริ่มต้นจากการรวมตัวของคุณมิ้น-ธัญญพร จารุกิตติคุณ (นักจัดการความรู้ด้านสังคม อาหารและการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน) เชฟจ๋าย-อรุษ เลอเลิศกุล เชฟแบงค์-วราพันธ์ จันทร์ธง และเชฟมิว-จีราวิชช์ มีแสงนิลวีรกุล นอกจากคุณมิ้นแล้ว ทุกคนคือทีมที่เคยทำอาหารร่วมกันที่ร้าน Nahm

ทีมงานผู้อยู่เบื้องหลังสำรับสำหรับไทย

          ทีมนี้ผ่านป๊อปอัพดินเนอร์มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่ปี 2017 โดยเริ่มที่ร้านแจ๊คบาร์ (Jack’s Bar) ในชื่อ ‘สำรับที่ ๑ : สำรับไทย กับ วิถีริมน้ำชาวกรุง’ และต่อยอดกลายเป็นสำรับที่ ๒ ๓ ๔ ต่อมาเรื่อยๆ จนถึงสำรับล่าสุดสำรับที่ ๘ : สำรับเส้น ที่เล่าอาหารเส้นผ่านความเป็นไทยในแต่ละภูมิภาค ในแต่ละสำรับบอกเล่าเรื่องราวอาหารไทยแบบร่วมสมัย แน่นอนว่าเจือด้วยกลิ่นอายในอดีต

          ส่วนที่ครัวสำรับสำหรับไทยอาจจะต้องใช้เวลารอสักหน่อย เพราะเชฟปริญญ์อาศัยวันว่างจากงานประจำ ซึ่งนอกจากร้านอาหารกลางกรุงแล้วเชฟยังมีโปรเจ็กต์ร้านอาหารของเชฟเดวิด ทอมป์สัน ในฮ่องกง ตอนนี้ก็ล่วงเลยยาวและจะเปิดให้จองอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน

กอและแพะ

ปูซ่า

          ซึ่งปกติก็จะเปิดทุกวันศุกร์ถึงอาทิตย์ วันละ 1 รอบ รองรับเพียง 7 ที่นั่งเท่านั้น เปิดมาตั้งแต่เดือนกันยายนในอาคารเก่าของ Soy Sauce Factory โรงงานซีอิ๊วแถวถนนเจริญกรุง แต่เชฟร้อนใจ เราเลยได้กินก่อนเดือนกันยายน ดวงเรื่องกินของเราดีเสมอ

          เชฟปริญญ์และทีมพร้อมพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเรื่องอาหารไทยแบบเปิดใจ ทุกครั้งที่เราถามกลับก็มีความคิดแลกเปลี่ยนกลับมา จึงเป็นอาหารมื้อหนึ่งที่พาเราเรียนรู้อาหารไทยผ่านโสตประสาทการรับรส กลิ่น เสียง สัมผัส และกระบวนการคิด มากกว่าการอ่านตำราอาหารไทยแล้วมาปรุงให้เรากิน

ไก่ตะนาวศรีต้มส้มจี๊ดดอง

ยำส้มซ่า

          อาหาร 1 มื้อ เชฟจะเตรียมแตกต่างกันไปในแต่ละวันในแบบเชฟเทเบิ้ล บางวันเชฟอาจจะอยากทำอาหารไทยจีน บางวันอาหารเส้น ก็ตามชะตากรรมที่เราฝากไว้กับเชฟนั่นแหละ

          แต่ละสำรับอยู่ที่ 8-10 เมนู ราคาประมาณ 1,500-2,200 บาท วันที่เราได้ลองทานมีกอและแพะ จานต่อมาเป็น ปูซ่า คล้ายเมี่ยงมีเนื้อปู น้ำยำ และใบชะพลู กินแนมตัดรสกับกอและ ส่วนจานต่อมาจะมาเป็น ยำส้มซ่า ไก่ตะนาวศรีต้มส้มจี๊ดดอง แกงป่าหมูรมควันใบพริก งบปลากระพง ไข่ดาวลูกเขย และผักผลไม้แนม

งบปลากระพง

แกงป่าหมูรมควันใบพริก และไข่ดาวลูกเขย

          ทุกจานในสำรับเมื่อกินรวมกันจะช่วยบาลานซ์รสชาติ เปรี้ยวไปกินนี่ลดเปรี้ยว เผ็ดไปกินชมพู่สิ เค็มไปกินข้าวเสริม ทำให้อาหารรสจัดจ้านกลมกลืนในแบบที่อาหารไทยควรจะเป็น และมันก็อร่อยมาก

          ใครอ่านจนจบเตรียมส่งข้อความไปที่สำรับสำหรับไทยได้เลย เปิดจองอีกครั้งเดือนพฤศจิกายน  www.facebook.com/samrubforthai/