การคลอดลูกในลินโด วิง (Lindo Wing) แผนกผดุงครรภ์ของโรงพยาบาลเซนต์ แมรี ในกรุงลอนดอน ซึ่งสมาชิกราชวงศ์อังกฤษมาใช้บริการ รวมทั้งแคทเธอรีน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ มีค่าใช้จ่ายถูกกว่าค่าคลอดลูกในโรงพยาบาลอเมริกันโดยเฉลี่ย นอกจากห้องพักที่สะดวกสบายแล้ว ลินโด วิง ยังโฆษณาว่ามีไวน์ให้พ่อแม่ได้ฉลองด้วย

ราคาของการคลอดเจ้าชายซึ่งเป็นรัชทายาทลำดับที่ 5 ของราชวงศ์อังกฤษ ดูเหมือนจะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของทารกชาวอเมริกันทั่วไปเล็กน้อย เมื่อดูจากตารางค่าใช้จ่ายในปัจจุบันในเว็บไซต์โรงพยาบาล ราคาของห้องพิเศษซึ่งเป็นห้องหรูที่สุดของแผนกทำคลอดแบบธรรมชาติอยู่ที่ 5,425 ปอนด์ (ราว 240,000 บาท) สำหรับคืนแรก และ 6,855 ปอนด์ (ราว 301,000 บาท) ในกรณีที่ผ่าคลอด คืนต่อไปตกราคาคืนละ 1,155 ปอนด์ (ราว 50,000 บาท)

ลินโด วิง อยู่ภายใต้ระบบประกันสุขภาพของสหราชอาณาจักร (NHS) ซึ่งแปลว่าทั้งแม่และลูกได้รับบริการฟรี และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเฉพาะบริการอื่นๆ ที่ทำให้สะดวกสบายมากขึ้น

ตอนที่ให้กำเนิดลูกคนแรก ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ออกจากโรงพยาบาลในวันรุ่งขึ้นหลังคลอดเสร็จแล้ว ลือกันว่าค่าใช้จ่ายหนึ่งคืน ซึ่งไม่รวมการให้คำปรึกษาของสูตินรีแพทย์ประจำราชวงศ์คือ 6,000 ปอนด์ หรือ ประมาณ 260,000 บาท

เมื่อคิดรวมกันก็เท่ากับว่าสองคืนในโรงพยาบาลบวกกับค่าหมอ มีราคาต่ำกว่า 13,000 ปอนด์ (ราว 570,000 บาท) และตั้งแต่ลูกคนที่ 2 คลอดในโรงพยาบาลเดียวกันนี้ ดัชเชสได้รับส่วนลดอีก 10% ทำให้ค่าใช้จ่ายลดลงเหลือที่ประมาณ 11,700 ปอนด์ แม้ว่าดัชเชสจะอยู่ในห้องที่แพงที่สุด แต่เงินที่ต้องจ่ายรวมๆ แล้วประมาณ 12,300 ปอนด์ ปกติแล้วชาวสหราชอาณาจักรส่วนใหญ่ไม่เลือกให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มจึงไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ

ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยการคลอดลูกในสหรัฐอเมริกาแพงกว่าประมาณ 2,000 เหรียญสหรัฐ จากการสำรวจของ International Federation of Health Plans พบว่า ในปี 2015  ค่าใช้จ่ายสำหรับการคลอดลูกตามธรรมชาติในสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 10,808 เหรียญสหรัฐ (ราว 340,000 บาท) เมื่อรวมค่าดูแลก่อนและหลังตั้งครรภ์อีกจะสูงถึง 30,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 950,000 บาท) และ 50,000 เหรียญสหรัฐในกรณีผ่าคลอด (1.5 ล้านบาท)

แม้ประกันสุขภาพครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด แต่พ่อแม่ก็ยังต้องจ่ายเพิ่มอีกประมาณ 3,000 เหรียญสหรัฐ และบริษัทประกันจะเจรจากับประกันสังคมให้จ่าย 18,000 เหรียญสหรัฐสำหรับการคลอดปกติ และ 28,000 เหรียญสหรัฐ สำหรับการผ่าคลอด ขณะที่ในหลายประเทศของยุโรปจัดให้มีการดูแลสุขภาพแม่ฟรี

ถ้าเป็นการคลอดลูกในโรงพยาบาลเอกชนที่หรูหราแบบเดียวกับราชวงศ์อังกฤษ ครอบครัวชาวอเมริกันก็ยิ่งต้องจ่ายแพงมากกว่า เช่น โรงพยาบาลเลนน็อกซ์ ฮิลล์ ที่นิวยอร์ก บียอนเซ่และเจย์ ซี จ่ายค่าคลอดลูกๆ ของพวกเขาประมาณ 18,000 เหรียญสหรัฐสำหรับการคลอดธรรมชาติ และ 25,000 เหรียญสหรัฐของลูกที่ต้องผ่าคลอด บวกค่าห้องพิเศษอีกคืนละ 2,400 เหรียญสหรัฐ โดยยังไม่รวมค่าหมอ

ค่าบริการที่แพงขึ้นยังไม่ได้หมายความว่าจะได้รับการดูแลที่ดีกว่า อัตราการตายของทารกระหว่างการคลอดและอัตราการตายของแม่ชาวอเมริกันสูงกว่าประเทศร่ำรวยอื่นๆ เช่น  เนเธอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร

ส่วนในประเทศไทย ค่าใช้จ่ายสำหรับการคลอดลูกในโรงพยาบาลรัฐ ค่าคลอดแบบธรรมชาติ ซึ่งรวมค่าห้องพัก 3 คืน ประมาณ 7,000 บาท แบบผ่าตัดคลอดรวมค่าห้องพัก 5 คืน ประมาณ 10,000 บาท หากเป็นห้องเดี่ยวพิเศษ การคลอดแบบธรรมชาติประมาณ 45,000 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายสำหรับการผ่าคลอดประมาณ 60,000 บาท

ค่าใช้จ่ายในการคลอดลูกโรงพยาบาลเอกชนหรูในกรุงเทพฯ ค่าคลอดลูกแบบธรรมชาติ ซึ่งรวมค่าห้องพักเดี่ยว 2 คืน อยู่ที่ 91,000 บาท ค่าผ่าตัดคลอด 144,700 บาท

ส่วนประกันสังคมจ่ายค่าคลอดบุตรแบบเหมาจ่ายไม่เกิน 13,000 บาทต่อครั้ง และการใช้สิทธิบุตรคนที่ 3 จะไม่ได้รับสิทธิเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตร

 

ที่มาภาพ: REUTERS/Hannah Mckay

ที่มา:

Tags: , ,