เมื่อคืนที่ผ่านมา (26 เมษายน 2023) สี จิ้นผิง (Xi Jinping) ผู้นำจีนพูดคุยกับ โวโลดีมีร์ เซเลนสกี (Volodymyr Zelenskyy) ประธานาธิบดียูเครน ผ่านทางโทรศัพท์ นับเป็นครั้งแรกของการพูดคุยระหว่างสองผู้นำ ตั้งแต่เกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน
การเจรจานี้เกิดขึ้นประมาณ 1 ชั่วโมงเต็ม โดยเซเลนสกีเล่าเรื่องการสนทนาในครั้งนี้ว่า ‘เป็นสิ่งที่รอคอยมาเนิ่นนานและมีความหมาย’ ซึ่งบรรลุเป้าหมายของคีฟ เป็นอย่างมาก และให้นัยสำคัญถึงการพยายามเปิดความสัมพันธ์ระหว่างมหามิตรของรัสเซียอย่างจีน ผ่านการเสนอชื่ออดีตรัฐมนตรีขึ้นสู่ตำแหน่งเอกอัคราชทูตประจำปักกิ่ง
เซเลนสกีพูดในตอนค่ำที่ผ่านมาว่า “ยูเครนมีโอกาสที่จะใช้อำนาจทางการเมืองของจีนเพื่อเสริมสร้างหลักการและกฎเกณฑ์ไปสู่สันติภาพ
“ยูเครนและจีนเหมือนกับประเทศส่วนใหญ่ในโลก มีความสนใจเรื่องความเข้มแข็งทางอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน” เขากล่าว
นอกเหนือจากนี้ ผู้นำยูเครนยังระบุว่า สี จิ้นผิง สนับสนุนการขยายข้อตกลงเพื่อส่งออกธัญพืชจากท่าเรือในแถบทะเลดำ หลังจากรัสเซียเน้นย้ำว่า ข้อตกลงจะสิ้นสุดในวันที่ 18 พฤษภาคม 2023 เว้นเสียแต่ว่าชาติตะวันจะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อการส่งออกปุ๋ยและธัญพืชของมอสโก
ในขณะเดียวกัน สำนักข่าวซินหัว (Xinhua) รายงานถึงความเคลื่อนไหวของผู้นำสูงสุดแห่งพรรคคอมมิวนิสต์ สี จิ้นผิงบอกกับผู้นำยูเครนว่า ทางการจีนจะส่งผู้แทนพิเศษไปยังคีฟ และจัดการเจรจากับทุกฝ่ายสำหรับการหยุดยิง เพื่อบรรลุสันติภาพ
“จีน ในฐานะสมาชิกถาวรแห่งคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UN Security Council: UNSC) และประเทศใหญ่ที่มีความรับผิดชอบ เราจะไม่นิ่งเฉยและราดน้ำมันบนกองไฟ หรือแม้แต่แสวงหาผลประโยชน์จากเรื่องราวนี้
“ตอนนี้เป็นเวลาที่จะคว้าโอกาสในการแก้ไขวิกฤตทางการเมือง หวังว่าทุกฝ่ายจะสามารถไตร่ตรองอย่างลึกซึ้งจากวิกฤตยูเครน และร่วมกันแสวงหาหนทางสู่สันติภาพอันยืนยงในยุโรปผ่านการเจรจา” เขากล่าว ซึ่งนักวิเคราะห์บางส่วนยังมองว่า ปักกิ่งจะไม่ให้การช่วยเหลือทางทหารโดยตรงต่อ วลาดีมีร์ ปูติน (Vladimir Putin)
อย่างไรก็ตาม นักวิชาการและสื่อหลายสำนักยังเล็งเห็นว่า ความสำเร็จของการเจรจาสันติภาพเป็นไปได้อย่างยากลำบาก นับตั้งแต่สงครามเข้าสู่เดือนที่ 14 และกำลังอยู่ในจุดหัวเลี้ยวหัวต่อ หลังจากยูเครนเตรียมตอบโต้การรุกของรัสเซียในฤดูหนาวที่ผ่านมา ซึ่งไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
บัดนี้ยังไม่มีข้อตกลงที่แน่ชัดระหว่างคีฟกับมอสโก เมื่อฝ่ายผู้ถูกรุกรานเรียกร้องให้ถอนทหารจากประเทศ แต่ฝ่ายผู้รุกรานมองว่า ยูเครนต้องยอมรับการอ้างสิทธิของรัสเซียต่อดินแดนที่ถูกยึด
“ไม่มีสันติภาพเกิดขึ้นต่อการประนีประนอมเรื่องบูรณภาพแห่งดินแดน” ผู้นำคีฟทวีตข้อความในวันพุธที่ผ่านมา
อีกเหตุผลสำคัญที่การเจรจาไม่น่าจะบรรลุผลได้จริง คือจีนและรัสเซียมีข้อตกลง ‘ไร้ขีดจำกัด’ หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตอนนี้ปักกิ่งกลายเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจรายใหญ่ของมอสโกต่อน้ำมันที่ไม่สามารถขายได้ในยุโรป แม้ว่าจะประณามการกระทำของรัสเซียก็ตาม
นักวิเคราะห์และนักการทูตให้เหตุผลว่า การเจรจาดังกล่าวนี้จะไม่ช่วยเปลี่ยนแปลงวิสัยทัศน์ของ สี จิ้นผิง ในเรื่องความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับรัสเซียที่เป็นไปเพื่อป้องกันแรงกดดันจากสหรัฐอเมริกา
ถึงแม้ทางยุโรปบางประเทศมองว่า การพูดคุยครั้งนี้เป็นเค้าลางที่ดีในการแก้ไขปัญหาสงครามรัสเซีย-ยูเครน เซาลี นีนิสเตอ (Sauli Niinistö) ประธานาธิบดีฟินแลนด์ทวีตข้อความว่า “นี่คือข่าวดี”
หรือทางการฝรั่งเศสอ้างว่า ตนเองมีส่วนสำคัญทำให้ สี จิ้นผิงโทรหาเซเลนสกีได้ หลังจากประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง (Emmanuel Macron) วางแผนร่วมกับจีนเพื่อนำรัสเซียและยูเครนเข้าสู่โต๊ะเจรจาในช่วงฤดูร้อน ในการเยือนปักกิ่งครั้งล่าสุดของเขา
แต่ส่วนใหญ่ก็ยังเห็นถึงความคลุมเครือของข้อเสนอสันติภาพของจีน เพราะไม่มีหนทางออกจากสงครามที่เป็นรูปธรรม และปูตินอาจใช้เป็นเครื่องมือในระหว่างการเจรจาสงบศึก โดยปล่อยให้กองกำลังของรัสเซียควบคุมดินแดนที่ถูกยึดครอง ในขณะที่พวกเขามีเวลาวางกำลังใหม่
อ้างอิง
Tags: สี จิ้นผิง, สหภาพยุโรป, เจรจาสันติภาพ, เซเลนสกี, สงครามรัสเซียยูเครน