วันนี้ (25 มีนาคม 2568) ที่อาคารัฐสภา ภายหลัง พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร สั่งยุติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ของ ชยพล สท้อนดี สส.กรุงเทพฯ พรรคประชาชน ในประเด็นปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร ทำให้ทั้งชยพล รวมทั้ง วิโรจน์ ลักขณาอดิศร และ ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.พรรคประชาชนออกมาแถลงต่อสื่อมวลชน
วิโรจน์กล่าวว่า เนื้อหาการอภิปรายช่วงหลังของชยพลเป็นที่น่าเสียดาย หากพรรคเพื่อไทยได้รู้เนื้อหาในการอภิปรายมากขึ้นอาจทราบถึงปัญหาดังกล่าว เพราะการอภิปรายครั้งนี้กำลังชี้ให้เห็นว่า กองทัพบางส่วนกำลังปฏิบัติตัวเป็นรัฐอิสระ ทำให้ประเทศอยู่ในสภาวะที่แม้แต่ตัวของนายกฯ ก็ตกเป็นเป้าโจมตี
“มันสะท้อนชัดเจนว่า ถ้าแพทองธาร ชินวัตร หรือภูมิธรรม เวชยชัย ไม่แก้ไขตรงนี้ ไม่ใช่แค่พรรคฝ่ายค้าน ไม่ใช่แค่นักวิชาการหรือประชาชน ผมอยากจะบอกว่า ถ้าคุณไม่สนใจในเรื่องนี้ แม้แต่ครอบครัวของคุณ ชีวิตของคุณ คุณก็ปกป้องไม่ได้
“มันเป็นการแสดงความขลาดเขลาอย่างมากของพรรคเพื่อไทย ผมในฐานะที่เคยอภิปรายเรื่องนี้มาก่อน เนื้อหาการอภิปรายวันนี้ไม่ได้เสี่ยงไปกว่าผม แต่วันนั้นที่ผมอภิปรายในรัฐบาลที่สืบทอดอำนาจจากเผด็จการ ประธานสภาฯ ที่ทำหน้าที่ในขณะนั้นยังมีความกล้าหาญมากกว่า พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ซึ่ง ณ วันนี้ไม่ได้มีความกล้าหาญ ไม่สมที่จะดำรงตำแหน่งประธานในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรอีกต่อไปเลย สยบยอมแม้กระทั่งกองทัพ นั่งอยู่บนบัลลังก์ทำได้แค่พยักหน้า”
วิโรจน์กล่าวต่อไปว่า วันนี้ต้องถามพรรคเพื่อไทยว่า พร้อมที่จะบริหารประเทศจริงหรือไม่ เหตุผลถึงปล่อยให้ทหารอยู่ในสถานะรัฐซ้อนรัฐ จับครอบครัวและนายกฯ เป็นตัวประกัน นับเป็นความขลาดเขลาที่น่าอดสูอย่างมาก
ด้านปกรณ์วุฒิแถลงต่อสื่อมวลชนว่า การยุติการอภิปรายในวันนี้นับเป็นความพยายามที่จะปิดปากฝ่ายค้านไม่ให้อภิปรายไม่ไว้วางใจได้จนจบ ซึ่งเรื่องที่ชยพลอภิปรายนั้น คือการพูดถึงปฏิบัติการของกองทัพที่คุกคามประชาชน โดยยืนยันว่า เป็นเรื่องที่อยู่ในญัตติไม่ไว้วางใจอย่างแน่นอน
“นับเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ตามญัตติที่บอกว่า นายกฯ ไม่มีความเป็นผู้นำ ไม่มีความสามารถบริหารประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน
“สิ่งนี้ชัดเจนที่สุดว่า สิ่งที่ สส.ชยพลพูดนั้นอยู่ในญัตติ กลับถูกรองประธานสภาฯ ไม่ให้พูด ผมขอให้สื่อมวลชนและประชาชนทุกท่านลองตัดสินกันดูว่า วันนี้เป็นเหตุการณ์ที่อัปยศในสภาผู้แทนราษฎรที่จะปิดกั้นกลไกการตรวจสอบถ่วงดุล”
ปกรณ์วุฒิระบุเพิ่มเติมว่า อีกสิ่งที่เป็นอันตรายมากคือการที่ สส.เพื่อไทยลุกขึ้นประท้วง และบอกในที่ประชุมว่า เรื่องดังกล่าวนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไม่รู้อย่างแน่นอน ซึ่งตนมองว่า เรื่องดังกล่าวน่ากลัวเป็นอย่างมาก เพราะประเทศไทยกำลังมีนายกฯ และรัฐมนตรีที่ไม่รู้เลยว่า กองทัพกำลังคุกคามประชาชนและสอดแนมประชาชน โดยหนึ่งในเป้าหมายคือตัวของนายกฯ เองเสียด้วยซ้ำ
“เรื่องนี้อันตรายมาก และพิสูจน์ให้เห็นว่า ประเทศเรายังอยู่ในสถานะรัฐซ้อนรัฐ ที่กองทัพมีอำนาจเหนือรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง ผมหวังที่จะเห็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หรือนายกรัฐมนตรีเองลุกขึ้นมาตอบว่า ทราบหรือไม่ และถ้าไม่ทราบท่านจะจัดการอย่างไรกับเรื่องนี้” ปกรณ์วุฒิทิ้งท้าย
Tags: ปฏิบัติการไอโอ, พรรคประชาชน, ดีลแลกประเทศ, ชยพล, กองทัพ, นายกรัฐมนตรี, อภิปรายไม่ไว้วางใจ, ประชุมสภา, IO, แพทองธาร, แพทองธาร ชินวัตร