วันนี้ (12 พฤษภาคม 2566) พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเวทีปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งในวันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคมนี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ผู้คนจำนวนมากหลั่งไหลจับจองที่นั่งในงานตั้งแต่เวลา 15.30 น. พร้อมอุปกรณ์ให้กำลังใจอย่างล้นหลาม

มนัสนันท์ ณ นคร และบุญยอด สุขถิ่นไทย ทำหน้าที่พิธีกรกล่าวต้อนรับกองเชียร์ที่มาให้กำลังใจในเวลา 16.30 น. และแนะนำผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานครทั้ง 33 เขต ก่อนจะยืนถวายความเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี เพื่อเปิดการปราศรัยอย่างเป็นทางการ

เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค เป็นผู้เปิดปราศรัยคนแรก กล่าวว่า ผู้สมัครและทีมงานพรรครวมไทยสร้างชาติ ฝ่าฟันอุปสรรคมากมายเพื่อต่อสู้ในวันชี้ชะตาประเทศไทยที่กำลังจะมาถึง โดยทุ่มเททำงานทั้งแรงกายและแรงใจ พร้อมขอให้พลังเงียบของประชาชนช่วยพาขุนศึกและนักรบเข้าเส้นชัยในการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งนับเป็นวันที่สำคัญที่สุดเพื่อรักษาประเทศชาติ โดยเฉพาะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้เสียสละทำงาน ไม่คดโกง ควรได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ

ในขณะเดียวกัน นายแพทย์เหรียญทอง แน่นหนา ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค อธิบายสาเหตุการเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติว่า มาจากจุดประสงค์ที่ต้องการรวมสถาบันหลักของชาติให้กลับมาสู่จุดที่ควรเป็นอีกครั้ง หลังจากสถานการณ์บ้านเมืองอันเลวร้าย โดยเฉพาะการเลือกตั้งกลายเป็นช่องทางของกลุ่มบั่นทอนชาติในการเข้าสู่อำนาจ พร้อมขอให้วิสัยทัศน์ของพลเอกประยุทธ์ ตลอดระยะเวลาเกือบ 9 ปี คงอยู่ต่อไป เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีวุฒิภาวะ เป็นผู้นำที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหาวิกฤตการณ์โลกอย่างโควิด-19 และเหล่าช้างศึกหรือประชาชนที่สนับสนุนพรรครวมไทยสร้างชาติ ต้องออกไปลงคะแนนเสียงเพื่อแสดงให้ทั้งประเทศรับรู้พลัง

สุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรค กล่าวสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ให้เป็นนายกฯ อีกครั้ง โดยเผยความประทับใจหลังได้ร่วมงานกับแคนดิเดตรายนี้ว่า เป็นคนที่จัดการกับปัญหาโควิด-19 และกอบกู้สถานการณ์อันเลวร้ายให้กลายเป็นดีได้ พร้อมกับเสริมว่า พรรครวมไทยสร้างชาติไม่ได้ทำงานเพื่อตระกูลใดตระกูลหนึ่ง พลเอกประยุทธ์ทำงานด้วยความเด็ดขาด เด็ดเดี่ยว แต่หากคนไทยเลือกนายกฯ ที่ไม่สามารถตัดสินใจเองได้ ต้องถามผู้อื่น เมื่อไรจะบริหารประเทศไทยได้

ในขณะที่ขุนพลประจำตัวพลเอกประยุทธ์ อย่าง ธนกร วังคงบุญชนะ รองหัวหน้าพรรค ระบุว่า ประเทศไทยต้องการผู้นำที่เข้มแข็ง และนำพาชาติไปข้างหน้าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่ามกลางพรรคการเมืองอื่นๆ ไม่มีใครสามารถสู้อดีตนายกฯ คนนี้ได้ ที่มีทั้งความสามารถและความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 

ธนกรยังตอบโต้ข้อกล่าวหาพรรครวมไทยสร้างชาติในฐานะพรรคเผด็จการว่า ฝ่ายที่กล่าวหาก็ไม่มีความประชาธิปไตย เพราะยังมีแคนดิเดตนายกฯ คนอื่นที่เหมาะสมกว่า บางครอบครัวยังสืบทอดอำนาจ รวมถึงตัวแทนจากพรรคก้าวไกลที่มักพูดไม่ตรงกัน บริหารบริษัทก็ไปไม่รอด และหากพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล จะสร้างความน่ากลัวและอันตรายให้กับประเทศชาติ โดยกล่าวถึง วิโรจน์ ลักขณาอดิสร ว่าขาดยา จึงต้องไปเป็นรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข และอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ควรอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม เพราะกริยามารยาทดีมาก 

แม้ว่าผลโพลจะเป็นที่น่ากังวล หลังจากรวมไทยสร้างชาติอยู่อันดับที่ 3-4 แต่จากประสบการณ์ส่วนตัว ยังเชื่อมั่นว่า พลเอกประยุทธ์ได้รับความนิยมอยู่เช่นเดิม ธนกรทิ้งท้ายขอให้ประชาชนทั้งประเทศแสดงความรักชาติผ่านการเลือกตั้งครั้งนี้แบบ ‘ทุบหม้อข้าวตนเอง’ ด้วยการเลือกพลเอกประยุทธ์และ ส.ส.เขต 

หม่อมหลวงชโยทิต กฤดากร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจประจำพรรค เผยว่า ตนได้ฝ่าวิกฤตร่วมกับพลเอกประยุทธ์ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวไทย พร้อมทั้งแก้ข้อกล่าวหาเรื่องความล้มเหลวในการทำงานตลอด 8 ปี เพราะรวมไทยสร้างชาติสามารถนำเงินจำนวน 4 ล้านล้านบาท เข้าประเทศมาได้ด้วยอุตสาหกรรมต่างๆ ผ่านการชูผลงานนโยบายต่างประเทศ คือการรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับประเทศซาอุดีอาระเบีย 

หม่อมหลวงชโยทิตตอบโต้นโยบายของบางพรรคว่า แจกจน ‘เจ๊ง’ และบั่นทอนความมั่นคงของชาติ ตอนนี้ประเทศไทยเนื้อหอมที่สุดในอาเซียน เศรษฐกิจเจริญเติบโตติดต่อกัน 2 ไตรมาส ชาติมหาอำนาจมาลงทุนทั่วโลก แม้ว่าบางพรรคจะชักศึกเข้าบ้านก็ตาม ก่อนจะหยุดพักการปราศรัยเพื่อเคารพธงชาติในเวลา 18.00 น.

หลังจากนั้น ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดอุตรดิตถ์ ขึ้นปราศรัยต่อ โดยเผยความในใจว่า เป็น ‘โจรกลับใจ’ หลังพยายามหาเรื่องพลเอกประยุทธ์ในสภาฯ แต่เพราะพลเอกประยุทธ์ไม่มีปัญหาการทุจริต จึงอภิปรายยากที่สุด 

อีกทั้งระบุว่า นายกฯ เป็นคนต่อสู้เพื่อชาวไทยมาตลอด 8 ปี และทำให้บ้านเมืองดีขึ้นท่ามกลางการทำลายบ้านเมืองของบางพรรคการเมืองที่เข้าร่วมกับต่างชาติ นอกเหนือจากนี้ ศรัณย์วุฒิยังโจมตีนโยบายของพรรคการเมืองอื่นๆ ว่าการอัดฉีดเงินไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจฟื้นขึ้นมา ในขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติมีนโยบายต่างๆ ที่ยั่งยืนกว่า เช่น การส่งเสริมนโยบายครัวโลกจากจุดเด่นทรัพยากรด้านเกษตรและผลักดันซอฟต์พาวเวอร์

พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ ฉายา ‘เปาบุ้นจิ้น’ เชิญชวนให้คนไทยทุกภาคส่วน รวมถึงกลุ่มชาติพันธุ์ออกมาใช้สิทธิ โดยระบุจุดเริ่มต้นของพรรครวมไทยสร้างชาติว่า มาจากสถานการณ์การต่อสู้จากโควิด-19 และจะไม่ยอมให้ใครมาเปลี่ยนประเทศไทยไปเป็นของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง โดยเฉพาะวัฒนธรรมอันงดงามและสถาบันหลักของชาติที่เปรียบเสมือนเสาหลักทั้งสามค้ำจุนประเทศ พร้อมสนับสนุนการศึกษาให้เยาวชนเติบโตมารักชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์

และปิดท้ายการปราศรัยด้วยพลเอกประยุทธ์ ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค และแคนดิเดตนายกฯ ซึ่งเปิดตัวด้วยเพลง ‘ลุงตู่อยู่ไหน’ 

“เอาหัวใจมาฝาก เอาความรักมาให้ เอาความจริงใจมาเสมอ” แคนดิเดตนายกฯ รวมไทยสร้างชาติกล่าวกับกองเชียร์ด้วยรอยยิ้ม

พลเอกประยุทธ์เปิดเผยความรู้สึกตื้นตัน หลังได้พบปะประชาชนและบรรยากาศความรักอบอวลไปทั้งห้อง หลังจากกองเชียร์แห่มาให้กำลังใจในการปราศรัยใหญ่ครั้งนี้ โดยระบุว่า ตนเป็นคนนำประชาชนผ่านช่วงเวลายากลำบากไปด้วยกัน และต้องการความรัก ความสามัคคีจากประชาชน ก่อนเปิดวิดีโอ ‘ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม’ ให้ได้ชมกันอีกรอบ

ประยุทธ์เผยความรู้สึกหลังดูวิดีโอว่า เจ็บปวดและยอมรับไม่ได้ที่ประเทศไทยไม่สงบเรียบร้อย และพร้อมแก้ไขปัญหาอย่างมีสติปัญญา ยอมเหนื่อย ยอมเจ็บปวดเพื่อคนไทย ท่ามกลางเสียงปรบมือและโห่ร้องของกองเชียร์

แคนดิเดตนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาติขอบคุณทุกคนอีกครั้ง และกล่าวว่าประเทศไทยเปลี่ยนไปในทางที่ดีมากแล้ว หลังจากเป็นศูนย์กลางของทั่วโลกในการท่องเที่ยวและการลงทุน

“ผมไม่ใช่ศัตรูของใคร ทุกคนไม่ใช่ศัตรูของใคร

“ผมไม่เสียใจที่ได้เป็นทหาร ได้เป็นคนที่ดูแลปกป้องแผ่นดินผืนนี้ เราไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงชนิดที่พลิกแผ่นดิน

“ท่านรับได้ไหม?” ประยุทธ์ชี้นิ้วไปยังผู้ชมพร้อมถาม

พลเอกประยุทธ์หยุดพูดในหลายครั้ง และเผยว่า ตนเองมีอารมณ์ซาบซึ้งเกินไป จนคิดคำพูดไม่ออก เพราะวันนี้คิดมากเป็นพิเศษ และขอให้ประชาชนช่วยเลือกตนเองเพื่อกลับมาเจอกันอีก แม้วันนี้พูดจาไม่ค่อยปลุกระดม แต่ต้องการสร้างความรักให้กับทุกฝ่าย

ก่อนจะปิดท้าย และขอให้ ‘พลังเงียบ’ ร่วมออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในวันอาทิตย์นี้ เพื่อให้ตนเองได้กลับมาพบปะประชาชนอีกครั้ง

Tags: , , , , , , , , , ,