วันนี้ (9 กรกฎาคม 2568) ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์พิเศษผ่านทาง  NationTV ในงาน 55 ปี NATION ผ่าทางตันประเทศไทย พร้อมกับกล่าวถึง ‘ความขัดแย้ง’ ไทย – กัมพูชา หลังกรณีคลิปเสียง สมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภา องคมนตรี และอดีตนายกฯ กัมพูชา โดยเริ่มจากการที่พิธีกรถามถึงความสัมพันธ์ที่มียาวนานว่าถึงวันนี้ ยังเป็นพี่น้องกันหรือไม่ และความสัมพันธ์ 33 ปี เป็นอย่างไร โดยทักษิณตอบคำถามนี้ว่า “เคยเป็น” และ “ทำกัลบลูกผมถึงขนาดนี้ ผมช็อกเลย” ด้วยสีหน้าโกรธ ตาแดง

1.ทักษิณเล่าถึงวันที่เกิดเหตุการณ์ ‘อัดคลิปเสียง’ ว่า เดิมทีทางฮุน เซน ต้องการพูดคุยกับแพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ทำให้แพทองธารนัดเคลียง ฮวด ล่ามแปลภาษา และคนสนิทของ ฮุน เซน มายังโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ​ เพื่อทำการติดต่อพูดคุย แต่ทางฝ่ายกัมพูชากลับล่าช้ากว่า 3 ชั่วโมง โดยอ้างว่าฮุน เซน ‘หลับ’ ทำให้แพทองธาร รวมทั้งภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (ณ เวลานั้น), มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายแพทย์ พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ตัดสินใจแยกย้ายกันกลับไป

2.หลังจากนั้น 2 ชั่วโมงเศษ แพทองธารได้รับการติดต่อโดยตรงเข้ามายังโทรศัพท์มือถือของแพทองธาร จึงเกิดเหตุการณ์อัดคลิปเสียงเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามทักษิณย้ำว่า เดิมทีการพูดคุยจะเป็นการพูดคุยที่เป็นทางการมากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม ทักษิณวิเคราะห์ว่าที่หายไปหลายชั่วโมง อาจเพราะฮุน เซน ต้องการเตรียมอัดเทป

3.ในประเด็นอัดคลิปเสียง ทักษิณได้ส่งข้อความไปยังฮุน เซน พร้อมทั้งบอกว่า การกระทำเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ทำลายประเทศไทยเท่านั้น แต่หากเป็นการทำลายประเทศกัมพูชาไปพร้อมกันด้วย เนื่องจากหลังจากนี้จะไม่มีประเทศใดกล้าคบค้ากับกัมพูชาด้วยอีกแล้ว เพราะไม่รู้ว่าจะโดนอัดคลิปเสียงเช่นนี้อีกหรือไม่

4.ขณะที่สาเหตุของการอัดและเปิดเผยคลิปเสียง ทักษิณมองว่า สาเหตุเป็นเพราะ ประเทศไทยเหยียบเข้ากับ ‘ตาปลา’ ของกัมพูชาเข้า จึงทำให้เกิดความไม่พอใจ โดยทักษิณเคยกล่าวถึงกรณี ‘ตึก 25 ชั้น’ บนเวทีหาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์​ 2567 ว่าเป็นแหล่งซ่องสุมของแกงค์คอลเซนเตอร์

5.ขณะเดียวกัน ปัจจุบันต่างทราบกันดีว่า บริษัท ฮุ่ยวัน (Huione) ซึ่งมีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นชาวจีน รับฟอกเงิน และมีหลานชายของฮุน เซน คือ ฮุน โต เป็นผู้ถือหุ้นร่วมด้วย ทักษิณจึงมองว่า ที่กัมพูชาโกรธจนเรื่องบานปลายมาถึงจุดนี้อาจเป็นเพราะ ‘การทลาย’ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นแหล่งรายได้กว่า 60% ของ GDP กัมพูชาตามรายงานของสหประชาชาติ (United Nations: UN)

6.ทักษิณยังเล่าย้อนกลับไปด้วยว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อมีข่าวกัมพูชาส่งทหารประชิดชายแดน ทักษิณ ได้ส่งข้อความไปยังฮุน เซน ว่า ลูกเราทั้ง 2 คน ต่างก็เป็นผู้นำประเทศทั้งคู่ จะทำสงครามกันจริงหรือ และในเวลาต่อมา ไทยได้เพิ่มมาตรการการจำกัดการปิด-เปิดด่านชายแดน ขณะเดียวกัน แพทองธารได้โพสต์วิจารณ์ความไม่เป็นมืออาชีพ (Non Professional) ของฝั่งกัมพูชา ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจให้กับกัมพูชา จนอาจเป็นสาเหตุให้มีการปล่อยคลิป

7.เมื่อผู้สัมภาษณ์สอบถามกรณีความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชามีความเกี่ยวข้องกับ ‘การเมืองภายใน’ ของไทยหรือไม่ ทักษิณกล่าวสั้นๆ ว่า “ไม่ทราบ” แต่เรื่องที่ตนทราบมีอยู่ 1 เรื่องคือ พบเส้นเงินจากไทยของบุคคลที่ทำงานด้านแรงงานโอนไปยังที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานของกัมพูชากว่า 100 ล้านบาท

8.ทั้งนี้ ทักษิณยังกล่าวด้วยว่า ยืนยันว่าสถานะทั้ง 2 ประเทศยังไม่ใช่ ‘คู่สงคราม’ ทุกอย่างยังคงเดินหน้าเจรจาอย่างสันติผ่านกลไกทวิภาคีได้อยู่ แต่หากทางกัมพูชาไม่เจรจา ทักษิณกล่าวว่า “ก็ให้ดำน้ำแข่งกันว่าใครอึดกว่าก็ชนะ”

“ยืนยันว่าเรื่องประเทศสำคัญกว่าความเป็นเพื่อน สมัยยุทธการโปเชนตงเมื่อปี 2546 ก็สั่งการให้กองทัพการันตีความปลอดภัยของคนไทย” อดีตนายกฯ กล่าว

นอกจากนั้น ทักษิณทิ้งท้ายว่า ขอให้คนไทยไม่ต้องเป็นห่วงถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าเรื่องนี้จะไม่บานปลายถึงขั้นสงครามอย่างแน่นอน

Tags: , , , ,