‘สุทิน’ เปิดเป้าหมาย เงินเดือนทหารเกณฑ์ต้องโปร่งใส ลดจำนวนโดยไม่ฟัง ‘กองทัพ’ ไม่ได้

วันนี้ (4 กันยายน 2566) ที่บ้านสุวรรณทัต สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบ พลอากาศเอก สุกำพล สุวรรณทัต อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตอนหนึ่งว่า เรื่องการลดอัตราการเกณฑ์ทหารในขณะนี้สามารถทำได้เลยทันที โดยปลัดกระทรวงกลาโหมยอมรับว่า ได้ศึกษาไว้แล้วและเริ่มรับสมัครอัตรากำลังพลได้ทันทีเมื่อถึงเดือนเมษายน หากคนสมัครเต็ม ก็ไม่จำเป็นต้องรับทหารเกณฑ์เพิ่มเติม

สุทินกล่าวอีกว่า ข้อเท็จจริงที่ต้องยอมรับในเรื่องการเกณฑ์ทหาร คือต้องมีทหารและจำนวนกำลังพลเป็นไปตามที่ทหารประเมินว่าต้องมีเท่าไร จะปรับลดกำลังพลโดยไม่คำนึงความเข้มแข็งกองทัพไม่ได้ เมื่อบอกว่าต้องมี 9 หมื่นถึง 1 แสนนาย ทำอย่างไรจะได้ประมาณนี้ ก็ต้องเปิดรับสมัครก่อน

“จริงๆ กองทัพเขาอยากได้คนที่สมัครนะ เกณฑ์จริงๆ เขาก็ไม่ค่อยอยากได้ ได้สมัครใจเท่าไร เหลือเท่าไร ค่อยเกณฑ์ เขายินดีจะปรับลด ถ้าเยอะไป ก็ปรับลดได้ ต้องลดลงในประเด็นที่จะใกล้ศักยภาพเขา”

ในส่วนของทหารบริการที่รับใช้ตามบ้านนายทหารผู้ใหญ่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า การจะให้คนมาสมัครต้องสร้างแรงจูงใจให้ได้ จึงต้องทำสองปรับ

1. ปรับสวัสดิการ – แก้ไม่ให้ทัศนคติที่สังคมมองเข้ามาเป็นภาพลบเรื่องความทารุณ โหดร้าย เด็กเจ็บ เด็กตาย ซึ่งที่ผ่านมาอาจจะมีเคสไม่ได้มาก แต่เป็นข่าวเยอะ

2. ปรับเรื่อง ‘ความโปร่งใส’ – เพราะก่อนหน้านี้ชาวบ้านในภาคอีสานจำนวนมากระบุว่า ลูกที่เป็นทหารเกณฑ์อาจจะได้เงินจริง แต่เงินที่รับจริงเป็นคนละยอด ไม่ถึงจำนวนที่รับจริง

“ต้องพูดให้ชัดว่าต้องได้รับเงินเดือนจริง ถ้าหักต้องชี้แจงได้ ต้องจ่ายตรงเข้าบัญชี ให้โปร่งใสยิ่งขึ้น ถ้าปรับสองอย่าง คนจะสมัครเยอะ ถ้าสมัครเยอะก็เกินจำนวนด้วย ไม่ต้องเกณฑ์ด้วย”

สุทินยังระบุด้วยว่า ในวันพรุ่งนี้ (5 กันยายน 2566) เตรียมเข้าพบ พลเอก เชษฐา ฐานะจาโร อดีตผู้บัญชาการทหารบก รวมถึงนักวิชาการ ได้แก่ ศาสตราจารย์สุรชาติ บำรุงสุข และรองศาสตราจารย์ปณิธาน วัฒนายากร นอกจากนี้ ยังประสานเข้าพบ พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี และพลเอก วิชิต ยาทิพย์ อดีตรองผู้บัญชาการทหารบก

ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยังตอบคำถามสื่อมวลชนในประเด็น ‘เรือดำน้ำจีน’ ซึ่งรัฐบาลจีนไม่สามารถส่งมอบเครื่องยนต์เยอรมนีและอาจต้องใช้เครื่องยนต์จีนว่า ข้อสรุปในเรื่องดังกล่าวคือกองทัพต้องพอใจ และประชาชนต้องรับได้ แต่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเป็นทางใดทางหนึ่ง อาจต้องรอคุยกันอีกครั้ง

ทั้งนี้ ข้อเสนอที่ดีกว่าเดิม คือกำลังพลของกองทัพเรือที่ใช้เรือดำน้ำ แม่ทัพ และคณะ ต้องพอใจและยอมรับ แต่ ณ วันนี้ ยังคงไม่ยกเลิกเรือดำน้ำจีน อาจจะเดินหน้าต่อและอาจให้คนระดับรัฐบาลไปเจรจาแทนที่กองทัพเรือเป็นผู้เจรจา โดยข้อสรุปสุดท้าย กองทัพต้องไม่เสียหาย สังคมรับได้ และประเทศชาติไม่เสียประโยชน์