แบงก์ชาติเป็นองค์กรอิสระ นายกฯ ‘ไม่มีอำนาจ’ กำกับอัตราดอกเบี้ย ยังไม่ได้หารือว่าเศรษฐกิจไทย ‘วิกฤต’ หรือไม่

วันนี้ (10 มกราคม 2567) เวลา 13:00 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เชิญ เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ มาพูดคุยเพื่อหาทางออกเศรษฐกิจของประเทศ หลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ธนาคารแห่งประเทศไทยตั้งอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้สูงถึงร้อยละ 2.50 ทำให้ธนาคารพาณิชย์ทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางเศรษฐกิจที่หลายฝ่ายมองว่าวิกฤต และประชาชนเข้าถึงเงินกู้อย่างยากลำบาก โดยรัฐบาลมองว่าปัจจุบันเงินเฟ้อลดลง ดังนั้น ดอกเบี้ยต้องลดลงตามไปด้วย

ทั้งนี้ มีการคาดหมายว่าภายหลังการหารือทั้งเศรษฐาและเศรษฐพุฒิจะแถลงข่าวร่วมกัน แต่เศรษฐพุฒิเดินทางกลับโดยทันที คงเหลือนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเพียงคนเดียว

เศรษฐาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลังการพูดคุยกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยว่า การพูดคุยครั้งนี้เป็นการพูดถึงเศรษฐกิจในภาพรวมเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นสภาพเศรษฐกิจโดยรวม สถานการณ์ระหว่างประเทศและสถานการณ์เงินเฟ้อ

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า สัญญาณการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นอย่างไรบ้าง นายกฯ ตอบว่า ในการพูดคุยครั้งนี้ไม่ได้มีอำนาจที่จะไปก้าวก่ายอำนาจของแบงก์ชาติที่มีสถานะเป็น ‘องค์กรอิสระ’ ในการสั่งให้ลดอัตราดอกเบี้ยได้ การพูดคุยดังกล่าวจึงเป็นเพียงการอธิบายเหตุผลของแต่ละฝ่ายเท่านั้น

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) กับทางแบงก์ชาติ นายกฯ ตอบว่า ไม่ได้โน้มน้าวแต่มีการพูดคุยในคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ว่า ใครมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง

อย่างไรก็ตาม ในการพูดคุยครั้งนี้ นายกฯ เผยว่า ไม่ได้มีการลงความเห็นว่าสภาพเศรษฐกิจของประเทศไทย ‘วิกฤต’ หรือ ‘ไม่วิกฤต’ เพียงแต่เป็นการพูดคุยถึงสภาพเศรษฐกิจในภาพรวมเท่านั้น

“ไม่มีคำว่าวิกฤตเลยนะครับ ไม่มีการตกลงว่าวิกฤตหรือไม่วิกฤต แต่เป็นการคุยเรื่องเศรษฐกิจโดยรวมมากกว่า” เศรษฐากล่าว