วันนี้ (7 ธันวาคม 2024) สมัชชาแห่งชาติเกาหลีใต้ (National Assembly) ชะลอการถอดถอน ยุน ซอกยอล (Yoon Suk-yeol) ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี หลังพรรครัฐบาล ‘วอล์กเอาต์’ ค้านการลงมติ เป็นเหตุให้คะแนนเสียงไม่เพียงพอต่อการถอดถอน เนื่องจากต้องใช้เสียงเกินกว่า 2 ใน 3 หรือ 200 คะแนนเสียงขึ้นไปจาก 300 ที่นั่ง
สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติจากพรรคพลังประชาชน (People Power Party: PPP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล เกือบทั้งหมด ‘คว่ำบาตร’ การลงมติด้วยการเดินออกจากรัฐสภา เหลือเพียง 3 คน ได้แก่ อัน ชอลซู (Ahn Cheol-soo) อดีตแคนดิเดตท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2017, คิม เยจี (Kim Ye-ji) และคิม ซังอุก (Kim Sang-wook) ขณะที่ ส.ส.ฝ่ายค้านตะโกนใส่พรรครัฐบาลด้วยความโกรธว่า ‘พวกทรยศ’ และขานชื่อให้ ส.ส.ที่ออกไปกลับเข้ารัฐสภา
“นี่คือการละเลยเจตจำนงของประชาชน นี่คือการละทิ้งประชาชน รัฐสภาเกาหลีใต้ ในฐานะผู้แทนของปวงชน คุณไม่ควรทำเช่นนี้” อัน ชอลซูย้ำ
อย่างไรก็ตาม อู วอนชิก (Woo Won-shik) ประธานสมัชชาแห่งชาติเกาหลีใต้ ‘ชะลอ’ การลงมติไปก่อน โดยให้ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านพยายามเกลี้ยกล่อมให้พรรครัฐบาลกลับมาลงมติ ซึ่งคาดว่าน่าจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการในเวลา 24.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย แต่หากมติไม่ผ่าน พรรคฝ่ายค้านจะยื่นถอดถอนอีกภายในสัปดาห์หน้า
เหตุดังกล่าวเติมเชื้อไฟให้ผู้ชุมนุมบนท้องถนนในกรุงโซลที่มีจำนวนราว 1.5 แสนคน โดยสำนักข่าวหลายแห่งยืนยันว่า จำนวนผู้ชุมนุมบริเวณหน้าอาคารรัฐสภามีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แม้อากาศในกรุงโซลจะหนาวเหน็บ และมีอุณหภูมิราว -2 องศาเซลเซียสก็ตาม
ทั้งนี้ ยุน ซอกยอล เพิ่งออกมาขอโทษประชาชนเมื่อเช้าวันนี้ พร้อมกับยืนยันว่า จะไม่ประกาศกฎอัยการศึกซ้ำสองแต่อย่างใด และเขาจะยอมรับผลที่ตามมาทั้งในทางกฎหมายและการเมือง แต่ยังคงไม่ลาออกจากตำแหน่ง ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ของพรรคประชาธิปไตยเกาหลีใต้ (Democratic Party of Korea) หรือพรรคมินจูดัง (민주당) แกนนำพรรคฝ่ายค้าน ว่าเขากำลังละเมิดรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้
นอกจากนี้มติสอบสวนพิเศษในเรื่องอื้อฉาวของ คิม กอนฮี (Kim Kun-hee) สตรีหมายเลขหนึ่ง เช่น เรื่องการจัดการหุ้น และการแทรกแซงขั้นตอนการเสนอชื่อท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ยังถูกปัดตกเช่นกัน ด้วยคะแนนเสียง 198 ต่อ 300 คะแนน
อ้างอิง