วันนี้ (12 มีนาคม 2025) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต) ร่วมกับองค์การสหประชาชาติเพื่อสตรี (United Nations Women: UN Women) และสถานทูตออสเตรเลีย จัดงานลั่นระฆังเพื่อความเสมอภาคประจำปี 2025 ครั้งที่ 11 ในธีม ‘Ring the Bell for ALL Women and Girls: Rights. Equality. Empowerment’ เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองวันสตรีสากล

งานลั่นระฆังเพื่อความเสมอภาคเกิดขึ้น เพื่อสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศของผู้หญิง โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งใน 110 ตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกที่เข้าร่วมแคมเปญดังกล่าว เพื่อประกาศจุดยืนในบทบาทของผู้หญิงในด้านเศรษฐกิจ และส่งเสริมความเสมอภาคในห่วงโซ่อุปทาน 

ทั้งนี้ อัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ เริ่มกล่าวแสดงวิสัยทัศน์ว่า งานครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะแสดงจุดยืนในเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยนโยบายที่เด่นชัดส่วนหนึ่งคือ การสนับสนุนผู้หญิงให้มีพื้นที่ในภาคส่วนของผู้บริหารและคณะกรรมการหญิงในบริษัทจดทะเบียน สอดคล้องต่อหลักธรรมาภิบาลที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (ESG)

ขณะที่ พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. ย้ำว่า ความเท่าเทียมทางเพศยังเป็นรากฐานของสังคมและเศรษฐกิจไทย ซึ่งทุกฝ่ายต้องให้ความเป็นธรรม ​โดยเฉพาะภาคธุรกิจ เพราะเมื่อทุกเพศสามารถตัดสินใจและมีส่วนร่วมอย่างเสมอภาค แวดวงธุรกิจก็จะปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงไปด้วย โดยในช่วงเวลาที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยอยู่ในจุดที่พร้อมลดช่องว่างระหว่างเพศ หลัง ก.ล.ต.ทำงานร่วมกับภาคธุรกิจที่มีผู้หญิงเป็นศูนย์กลางมากกว่า 530 องค์กร

ด้าน แอนเจลา แมคโดนัลด์ (Angela Macdonald) เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย แสดงความรู้สึกยินดีในฐานะตัวแทนของประเทศที่ได้ร่วมทำงานกับ UN Women และภาคธุรกิจในโครงการ WE RISE Together แคมเปญที่เน้นย้ำการขจัดความไม่เท่าเทียมทางเพศในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างทางตลาด (Procurement Market) เป็นระยะเวลา 4 ปีในประเทศไทย เวียดนาม กัมพูชา และลาว โดยย้ำว่า ความเท่าเทียมทางเพศสำคัญสำหรับทุกคน ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกจะก้าวหน้า หากผู้หญิงได้รับการสนับสนุนในด้านเศรษฐกิจเท่าเทียมกับผู้ชาย

นอกจากนี้ มาเรีย โฮลต์สเบิร์ก (Maria Holtsberg) รองผู้อำนวยการ UN Women สำนักงานประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังแสดงความคิดเห็นว่า นี่คือเวลาที่ทั่วโลกต้องเร่งเดินหน้าสนับสนุนสิทธิ ความเสมอภาค และการเสริมพลังให้กับผู้หญิงทุกคน ส่วนหนึ่งคือการเพิ่มโอกาสผู้หญิงให้เข้าถึงตลาดได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มการแข่งขันและความหลากหลาย ทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ คุณภาพสินค้าสูง และราคาเข้าถึงคนทั่วไปได้ง่ายขึ้น ขณะที่ไทยก็จำเป็นต้องขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจนอกประเทศ ดังรัฐบาลออสเตรเลียเดินหน้าร่วมมือกับกลุ่มประเทศเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำโขง (Mekong Subregion) ที่ให้ความสำคัญกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ด้วยการเสริมสร้างความเท่าเทียมทางเพศ ให้ทุกคนได้เข้าถึงโอกาสในภาคการตลาด 

“เราไม่สามารถบรรลุความเท่าเทียมทางเพศได้ หากภาคเอกชนไม่เป็นส่วนหนึ่ง” มาเรียทิ้งท้าย โดยเน้นย้ำบทบาทของรัฐบาลที่ต้องเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศในเศรษฐกิจ

 

Tags: , , , , ,