วันนี้ (11 มีนาคม 2568) ที่กระทรวงแรงงาน พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีที่ รักชนก ศรีนอก และสหัสวัต คุ้มคง สส.พรรคประชาชน ยื่นหนังสือตรวจสอบข้อเท็จจริงของการลงทุนของกองทุนประกันสังคม ปมซื้ออาคาร SKYY9 มูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท โดยระบุว่า ขณะนี้ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้กำกับกระทรวงแรงงาน ตั้ง ‘คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง’ เรียบร้อยแล้ว

พิพัฒน์กล่าวว่า พร้อมให้ทุกคณะกรรมาธิการเข้ามาตรวจสอบทุกกรมของกระทรวงแรงงาน และพร้อมจะออกมาชี้แจงในสิ่งที่จะตรวจสอบ หากทางกรรมาธิการตั้งการเอกสารหรือข้อเท็จจริงใดๆ ก็พร้อมจะนำเอกสารให้เท่าที่ให้ได้

สำหรับการเข้าลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อาคาร SKYY9 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานชี้แจงว่า มีกองทุนที่ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รับรองมาดังนี้

– บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) (MFC) เป็นผู้จัดการกองทรัสต์

– บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTAM) เป็นผู้ดูแลผลประโยชน์

– บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ แมนเนจเม้นท์ จํากัด (JLL) เป็นผู้จัดการตึก

– บริษัท ซีพีเอ็ม แคปปิทัล จํากัด (CPM) และบริษัทที่ได้รับรองจาก ก.ล.ต.อีกแห่งเป็นผู้ประเมินราคาอิสระ

พิพัฒน์ระบุต่อว่า การลงทุนครั้งนี้ได้ให้ Third Party เข้ามาทำการประเมินและคำนวณทั้งหมดว่า หากต้องการซื้ออาคาร SKYY9 มีราคาเท่าไร ซึ่งเป็นกระบวนการตามปกติที่เมื่อจัดทำข้อมูลการประเมินโดย Third Party ในฐานะเป็นผู้จัดทำราคาประเมินแล้วเสร็จ ก็ส่งต่อมาให้สำนักงานประกันสังคม จากนั้นก็นำข้อมูลนำส่งคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาการลงทุนสินทรัพย์นอกตลาด กองทุนประกันสังคมเพื่อศึกษาต่อไป ก่อนจะนำเข้าสู่คณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ดประกันสังคม) ชุดใหญ่

พิพัฒน์กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนมาจากภาคธุรกิจ การทำงานในการกำกับดูแลกระทรวงจะต้องเสมอตัว ไม่ขาดทุน แต่ดีที่สุดคือต้องมีกำไร ทำให้การบริหารส่วนราชการเกิดความโปร่งใสที่สุด ตั้งแต่ที่เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี ขณะนั้นกองทุนประกันสังคมที่ผลตอบแทนการลงทุนอยู่ที่ 2% แต่ตนตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะต้องทำให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 5% ให้ได้

ดังนั้นตัวเลขของการขยายเพดานการลงทุนในสินทรัพย์นอกตลาดที่ 1.3 แสนล้านตามการรายงาน จะมีที่มาจากขนาดของกองทุนประกันสังคมทั้งหมดที่มีอยู่ราว 2.6 ล้านล้านบาท เมื่อคูณกับ 5% จะได้ที่มาของตัวเลข 1.3 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตามการลงทุนทั้งหมดจะผ่านคณะอนุกรรมการต่างๆ ก่อนที่จะส่งให้บอร์ดชุดใหญ่เป็นผู้ตัดสิน

Tags: , ,