วันนี้ (5 มกราคม 2024) วลาดีมีร์ ปูติน (Vladimir Putin) ประธานาธิบดีรัสเซีย ประกาศให้สัญชาติสำหรับชาวต่างชาติที่เสนอตัวเข้าร่วมปฏิบัติการต่อสู้ ‘เพื่อรัสเซีย’ ในสงครามรัสเซีย-ยูเครน

แม้ว่าก่อนหน้านี้ ปูตินอนุโลมเงื่อนไขดังกล่าวให้ชาวต่างชาติในเดือนกันยายน 2022 และพฤษภาคม 2023 ทว่าแอสโซซิเอเต็ดเพรส (Associated Press) ระบุว่า เขาแก้ไขเงื่อนไขเก่าและพิจารณากฎหมายพิเศษฉบับนี้ในวันที่ 4 มกราคม 2024 ซึ่งปรากฏรายละเอียดสำคัญคือ ชาวต่างชาติจะได้สัญชาติแบบ ‘Fast-Track’ เพียงแค่เซ็นเอกสารยืนยันว่าจะร่วมปฏิบัติการทางทหารอย่างน้อย 1 ปี และทำงานในสนามจริงอย่างน้อย 6 เดือน โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านภาษารัสเซียก็ตาม

ที่สำคัญ กฎหมายดังกล่าวยังเปิดช่องว่างให้ชาวต่างชาติเลือกทำงานกับหน่วยงานใดก็ได้ ทั้งกองทัพรัสเซียหรือกองกำลังอื่นๆ เช่น กลุ่มทหารรับจ้างอย่างวากเนอร์กรุ๊ป (Wagner) ฯลฯ 

นอกจากนี้ ครอบครัวของชาวต่างชาติที่เข้าร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ภรรยา หรือบุตร จะได้รับสัญชาติแบบเร่งด่วนเช่นเดียวกัน โดยคาดว่า มาตรการดังกล่าวเป็นการสร้างแรงจูงใจสนับสนุนผู้คนนอกประเทศที่มีความสามารถทางการทหาร เพื่อแก้ไขสถานการณ์ของรัสเซียในสงครามที่ค่อนข้าง ‘อ่อนแอ’ ในระยะหลัง

เหล่านี้สะท้อนจากรายงานหน่วยข่าวกรองของสหรัฐอเมริกา มีการประเมินว่า ทหารรัสเซียเสียชีวิตและบาดเจ็บจากสงครามในยูเครนประมาณ 3.1 แสนราย หรือคิดเป็น 90% ของจำนวนทหารในช่วงระยะแรกของสงครามทั้งหมด

ยังไม่รวมถึงปัญหามากมายในกองทัพรัสเซีย หลังเกิด ‘วิกฤตด้านระเบียบวินัย’ โดยยูโรนิวส์ (Euronews) ระบุว่า มีการรายงานถึงการติดสารเสพติดในกองทัพเพื่อหลีกเลี่ยงความเบื่อหน่ายในสงคราม ทหารคนหนึ่งถึงกับเล่าว่า ไม่มีใครสังเกตกันและกันว่า เพื่อนของพวกเขากำลังเล่นยาระหว่างอยู่ในสนามเพลาะ

นอกจากนี้ หากพิจารณาอย่างลึกซึ้ง นโยบายดังกล่าวอาจเป็นการ ‘ลดความตึงเครียด’ จากประชาชนภายในประเทศ เพราะการบังคับเกณฑ์ทหารจะส่งผลต่อคะแนนความนิยมของปูตินในการเลือกตั้งปี 2024 

ก่อนหน้านี้ ชาย 3 แสนคนในรัสเซีย ถูกเกณฑ์ทหารเพื่อเข้าร่วมสงครามในเดือนกันยายน 2022 ซึ่งถือเป็นการระดมพลนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา อีกทั้งยังมีรายงานในเดือนธันวาคม 2023 ว่า ปูตินสั่งให้กองทัพรัสเซียเพิ่มจำนวนทหารถึง 1.3 ล้านคน จากเดิมที่มีอยู่ 1.7 แสนคน 

อย่างไรก็ตาม ทางการไม่ได้ระบุจำนวนทหารอาสาจากต่างชาติอย่างแน่ชัด แต่รอยเตอร์ (Reuters) เผยว่า ชาวคิวบาจำนวนหนึ่งเดินทางมายังมอสโกเพื่อสมัครปฏิบัติการ โดยมีแรงจูงใจที่สำคัญคือค่าตอบแทนมากกว่าเงินเดือนในประเทศของตนถึง ‘100 เท่า’ 

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวโพลิติโก (Politico) ระบุว่า รัฐบาลคิวบาจับขบวนการค้ามนุษย์ที่ล่อลวงเด็กหนุ่มไปยังรัสเซียได้ถึง 17 คน อีกทั้งยังมีกรณีคล้ายคลึงกันที่ประเทศเนปาล หลังมีการหลอกล่อให้ชายหนุ่มที่ว่างงานเข้าร่วมปฏิบัติการกับกองทัพรัสเซีย

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานจาก โนวายากาเซตา (Novaya Gazeta) สื่อพิมพ์อิสระของรัสเซียว่า ผู้อพยพ 3,000 คน ในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (St. Petersberg) ถูกควบคุมตัวบนท้องถนน และคาดว่า พวกเขาอาจถูกบังคับจากเจ้าหน้าที่ให้เข้าร่วมกับกองทัพรัสเซีย

อ้างอิง

https://www.politico.eu/article/putin-grant-citizenship-foreigners-fighting-war-for-russia/

https://www.reuters.com/world/europe/putin-offers-citizenship-foreigners-who-fight-russia-2024-01-04/

https://news.yahoo.com/russian-soldiers-getting-hard-drugs-145631661

https://apnews.com/article/russia-putin-decree-citizenship-army-ukraine-93770fad165cc9388ec53bc71e4eb739

Tags: , , , , , , , ,