วันนี้ (7 กรกฎาคม 2566) เวลา 16.30 น. ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทยได้จัดแถลงข่าวร่วมกับพรรคภูมใจไทย กรณี ‘การจัดตั้งรัฐบาล’ 2 พรรคร่วม นำโดย ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, และประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ขณะที่พรรคภูมิใจไทย นำโดย อนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, พิพัฒน์ รัชกิจประการ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย
อนุทินกล่าวแถลงข่าวเป็นคนแรกว่า วันนี้เขาและผู้บริหารพรรคภูมิใจไทยได้มาที่ทำการพรรคเพื่อไทยอีกครั้งหนึ่ง เพื่อหารือเรื่องการร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ซึ่งครั้งนี้พรรคภูมิใจไทยตอบรับการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย โดยมี 3 เงื่อนไขสำคัญ คือ
-
ไม่ยกเลิกหรือแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112
-
ไม่จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย
-
ไม่มีพรรคก้าวไกลในการร่วมจัดตั้งรัฐบาล
อนุทินกล่าวต่อว่า วันนี้เพื่อไทยเห็นพ้องไปในทิศทางเดียวกัน โดยมั่นใจว่าขั้วการเมืองนี้สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ และมีคะแนนจากสมาชิกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เกินกึ่งหนึ่งแล้วแน่นอน ทั้งนี้เพื่อการจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว ในส่วนประเด็นของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยจะปฏิบัติตามข้อเสนอของพรรคเพื่อไทย
ชลน่านกล่าวว่า ในนามพรรคเพื่อไทย ต้องขอขอบคุณพรรคภูมิใจไทยที่ตอบรับคำเชิญการจัดตั้งรัฐบาล สำหรับเงื่อนไข 3 ข้อจากพรรคภูมิใจไทย เป็นสิ่งที่ ‘รับได้’ และเสียง 212 เป็นเสียงที่มากพอในการจับขั้วรัฐบาล รัฐบาลที่จะจัดตั้งแม้จะมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งแต่เรายังต้องการเสียงสนับสนุนจากทุกฝ่ายทั้ง ส.ส. และ ส.ว. ทั้งนี้จะรีบจัดตั้งรัฐบาลเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน
“เรามีความประสงค์จะทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ โดยเฉพาะในสถานการณ์พิเศษท่ามกลางความขัดแย่งทางการเมืองเช่นนี้ เราจึงต้องการเสียงสนับสนุนจากทุกพรรคการเมืองเพื่อสนับสนุนแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย นอกจากนี้จะเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาลได้อย่างเต็มที่” หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าว
ทั้งนี้แนวทางการจัดตั้งรัฐบาลตามถ้อยแถลงของพรรคเพื่อไทย มีดังนี้
-
ยึดวาระของประเทศ และประชาชนเป็นที่ตั้ง โดยเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ และประชาธิปไตย นำความปรองดอง สมานฉันท์กลับคืนสู่ประเทศ
-
จะเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยการประชุมคณะรัฐมนตรีในวาระแรก จะมีมติให้ทำประชามติขอจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยกระบวนการจัดตั้ง สสร.
-
ดำเนินงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลสามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างเต็มที่ สิ่งใดที่เป็นประโยชน์จะร่วมกันผลักดันให้สำเร็จ สิ่งใดที่เป็นปัญหาจะต้องถูกตรวจสอบและเร่งแก้ไขให้ถูกต้อง
-
จัดตั้งรัฐบาลที่มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้
-
การจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้เปิดกว้างให้ ส.ส. และ ส.ว. มีส่วนร่วมอย่างสำคัญในการเลือกนายกรัฐมนตรี เพื่อผ่าทางตันระบบการเมืองของประเทศ และฝ่าวิกฤตรัฐธรรมนูญที่สร้างปัญหาอยู่ในปัจจุบั
หลังจากนี้ พรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วนในสังคม รวมทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา เพื่อแสวงหาความร่วมมือ และกำหนดเจตนารมณ์ในการบริหารประเทศ จึงร้องขอการสนับสนุนจากทุกพรรคการเมือง ทุกฝ่าย ทุกคน มาร่วมกันกอบกู้วิกฤตของประเทศในครั้งนี้
สำหรับคำถามเกี่ยวกับพรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่นๆ ชลน่านกล่าวว่า วันนี้เป็นการเริ่มต้น 212 เสียง ที่มีความเข้มแข็ง ซึ่งจะติดต่อหาพรรคการเมืองอื่นๆ มาร่วมรัฐบาลภายในสัปดาห์นี้ และสำหรับเงื่อนไขต่างๆ จะเป็นไปตามที่แถลงไปข้างต้น ไม่มีเพิ่มเติม อีกทั้งรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวย้ำต่อว่า เพื่อไทยไม่ต้องการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย
ทั้งนี้ ‘รัฐบาลสมานฉันท์’ เป็นหมุดหมายสำคัญของการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อไทย โดยมี 3 โจทย์ใหญ่ซึ่งปัญหาหลักที่ต้องเร่งแก้ไขคือ วิกฤตรัฐธรรมนูญ วิกฤตความขัดแย้ง และวิกฤติเศรษฐกิจ โดยเรื่องรัฐธรรมนูญจะทำการประชามติเป็นสิ่งแรก
สื่อมวลชนถามคำถามต่อหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยว่า การร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยนั้นหากไม่มี ‘2 ลุง’ ซึ่งได้แก่ พรรคไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐ ทางพรรคภูมิใจไทยจะมีประเด็นปัญหาขัดข้องใดหรือไม่ อนุทินตอบว่าไม่เป็นไร การดึงพรรคใดมาร่วมรัฐบาลบ้างจะแล้วแต่ดุลยพินิจของเพื่อไทย ส่วนตัวสนใจแค่ 3 ประเด็นหลักที่เสนอและหารือไปตั้งแต่การหารือเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา อนุทินย้ำยึดถือบ้านเมืองและประชาชนเป็นหลัก
“ไล่หนู ตีงูเห่า เป็นเพียงภาพของการรณรงค์เพื่อให้ได้คะแนนเสียงเลือกตั้งเท่านั้น เราไปหาเสียงสนับสนุนจากประชาชน แต่เราไม่เคยเป็นคู่แข่งกับใคร เพื่อไทยไม่เคยเป็นศัตรูกับใคร”
ชลน่านกล่าวทิ้งท้ายต่อว่า ยังไม่ได้มีการแบ่งกระทรวงใดๆ กับทางพรรคภูมิใจไทย โดยตอนนี้เริ่มต้นบนพื้นฐานการทำงานร่วมกันเป็นที่ตั้ง รวมถึงย้ำว่า ต้องการการสนับสนุนเสียงจากทุกฝ่ายให้เลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย
Tags: พรรคเพื่อไทย, พรรคภูมิใจไทย, จัดตั้งรัฐบาล, ชลน่าน ศรีแก้ว, อนุทิน ชาญวีรกุล