วันนี้ (27 มีนาคม 2567) ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบ 400 ต่อ 10 เสียง เห็นชอบผ่านร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … หรือ ‘พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม’ หลังการอภิปรายในวาระ 2-3 ในช่วงเช้าที่ผ่านมา โดย ส.ส.ส่วนใหญ่ในสภาฯ รวมถึงกรรมาธิการสัดส่วนคนนอกต่างก็อภิปรายสนับสนุน มีเพียง ส.ส.จากพรรคประชาชาติ ซึ่งนับถือศาสนาอิสลามแสดงความไม่เห็นด้วย และไม่ได้ร่วมพิจารณากฎหมายดังกล่าว เนื่องจากขัดกับหลักศาสนาอิสลาม

สำหรับขั้นตอนต่อไป สภาฯ จะส่งร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไป หากเห็นชอบ นายกรัฐมนตรีสามารถทูลเกล้าเพื่อประกาศใช้ได้ โดยการบังคับใช้คาดว่าจะเกิดในช่วงเดือนมิถุนายน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองเทศกาล Pride Month ในเดือนมิถุนายนนี้

สำหรับสาระสำคัญของ พ.ร.บ.ดังกล่าวจะทำให้บุคคลทั้งสองฝ่ายทุกเพศสามารถสมรสกันได้ โดยต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป และจะมีสถานะเป็น ‘คู่สมรส’ แทนคำว่า ‘สามีภริยา’

ทั้งนี้หาก พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้ จะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศแรกในภูมิภาคอาเซียนที่รองรับสิทธิกลุ่มบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQIA+) และเป็นประเทศที่ 3 ในเอเชีย ตามหลังไต้หวันและเนปาล

Tags: , ,