วันนี้ (30 พฤษภาคม 2566) ที่ห้องประชุมพรรคประชาชาติ ชั้น 2 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล, นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค และนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 8 พรรค จัดประชุมและแถลงความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล
ก่อนเริ่มการประชุม พิธาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า การจัดตั้งรัฐบาลยังคงเดินหน้าต่อ พร้อมตอบคำถามกรณีที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงเรื่องเข้าไปสั่งการข้าราชการโดยที่ยังไม่มีตำแหน่งว่า ตัวเองยังไม่เคยทำแบบนั้น
และภายหลังการประชุม พิธาแถลงความคืบหน้าการประชุมว่ามีข้อสรุปดังต่อไปนี้คือ
1. หัวหน้าทั้ง 8 พรรค มีมติร่วมกันในการจัดตั้งคณะกรรมการประสานงานในช่วงเปลี่ยนผ่าน เพื่อให้การทำงานร่วมกันตาม MOU 23 ข้อ เป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งจะประกอบไปด้วย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานคณะกรรมการประสานงาน, ศิริกัญญา ตันสกุล ตัวแทนจากพรรคก้าวไกล, เผ่าภูมิ โรจนสกุล ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย, พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ตัวแทนจากพรรคประชาชาติ, นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ จากพรรคไทยสร้างไทย, วิรัตน์ วรศสิริน จากพรรคเสรีรวมไทย, กัณวีร์ สืบแสง พรรคเป็นธรรม, วสวรรธน์ พวงพรศรี จากพรรคเพื่อไทยรวมพลัง และเชาว์ฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ จากพรรคพลังสังคมใหม่ ซึ่งคณะกรรมการประสานงานในช่วงเปลี่ยนผ่าน จะมีการประชุมที่พรรคเพื่อไทยอีกครั้งวันที่ 6 มิถุนายนที่จะถึงนี้
2. ในวันนี้มีการตั้งคณะทำงานเพิ่มขึ้นอีก 7 คณะ เพื่อตอบสนองปัญหาของประชาชนได้แก่ คณะทำงานเกี่ยวกับค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมันดีเซล พลังงาน คณะทำงานภัยแล้ง เอลนีโญ คณะทำงานปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ คณะทำงานเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ คณะทำงานแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและ PM2.5 คณะทำงานเกี่ยวกับเศรษฐกิจ และคณะทำงานแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งคณะทำงานจะประกอบไปด้วยตัวแทนของแต่ละพรรคในประเด็นต่างๆ และจะมีการประชุมร่วมกันต่อไป เพื่อกลั่นกรองออกมาเป็นนโนบายร่วมกันเพื่อแถลงต่อรัฐสภา และนำไปปฏิบัติต่อในฐานะฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ
3. การจัดสรรตำแหน่งในฝ่ายบริหาร จะเกิดขึ้นภายหลังจากการทำงานร่วมกัน โดยยึดวาระของการทำงานเพื่อประชาชนเป็นตัวตั้ง ส่วนตำแหน่งประธานสภาฯ พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลจะพิจารณาร่วมกัน โดยขอยืนยันว่า เรื่องนี้จะไม่เป็นอุปสรรคในการจัดตั้งรัฐบาล
“วันนี้พวกเราพูดคุยในจุดประสงค์เดียวกันว่า สิ่งที่สำคัญคือการเตรียมพร้อมในการบริหารราชการแผ่นดินเพื่อประชาชน ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการเลือกตั้งได้มีการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว เหลือเพียงการรับรอง ส.ส.อย่างเป็นทางการ เพื่อทำการเปิดประชุมสภา ก็หวังว่า กกต.จะใช้เวลาไม่นาน เพื่อให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาลได้โดยเร็ว เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนชาวไทยต่อไป” พิธากล่าว
ในการสัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเรื่องประเด็นทรูวิชันส์ (TrueVisions) ตัดสัญญาณภาพจากช่องบีบีซี (BBC) ขณะที่ถ่ายทอดรายการสัมภาษณ์พิธานั้น พิธากล่าวว่า เรื่องนี้มีประเด็นลิขสิทธิ์ระหว่างสื่อกับทางทรูวิชันส์ ดังนั้น เรื่องนี้ต้องตอบอย่างระมัดระวังว่าเป็นเรื่องการเซนเซอร์สื่อหรือเรื่องลิขสิทธิ์กันแน่ ซึ่งต้องมีการสืบค้นหาสาเหตุต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม ตนและพรรคก้าวไกลยึดมั่นในหลักอิสรภาพของสื่อมวลชน ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องได้รับการแก้ปัญหา
ส่วนการแต่งตั้งประธานสภาผู้แทนราษฎร พิธาตอบว่า จะมีการพูดคุยระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลโดยเฉพาะ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุเวลาที่แน่ชัด ส่วนทาง นายแพทย์ชลน่านก็ยืนยันตามพิธาว่า เรื่องนี้จะพิจารณาร่วมกัน โดยจะไม่ทำให้เรื่องนี้เป็นอุปสรรคในการจัดตั้งรัฐบาลอย่างแน่นอน
“ในการทำงานของพรรคก้าวไกลและเพื่อไทย เราได้รับอาณัติจากพี่น้องประชาชน 25 ล้านเสียงให้ทำงานร่วมกัน พวกเราจึงปฏิเสธไม่ได้ที่จะต้องทำความฝันของพวกเขาให้บรรลุ ในการปิดกั้นอำนาจที่ไม่ชอบธรรมในทั้งปวง ดังนั้น ข้อผูกมัดที่เกิดขึ้น มันแน่นจนมั่นใจได้ว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” นายแพทย์ชลน่านกล่าวพร้อมจับมือกับพิธา
Tags: Democracy Strikes Back, MOU