วันนี้ (7 เมษายน 2565) ที่รัฐสภา เกียกกาย สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง ยื่นหนังสือถึง พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และ ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ให้ตรวจสอบกรณีคลิปเสียง ‘แรมโบ้อีสาน’ – เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และจุรีพร สินธุไพร ตำแหน่งข้าราชการการเมืองประจำสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รวมถึงยังมีชื่อบุคคลอื่นเกี่ยวข้องคือ ‘นายกิ๊ก’ และอีกคนที่มีบริษัทถูกพาดพิงคือ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า

พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์อธิบายเรื่องดังกล่าวว่า สำหรับร้อยเอกธรรมนัส เสกสกล และจุรีพร เคยเป็นกลุ่มเดียวกันมาก่อน โดยเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยด้วยกันทั้งหมด แต่ต่อมาในการเลือกตั้งปี 2562 ร้อยเอกธรรมนัสไปลงสมัครที่พรรคพลังประชารัฐ ขณะที่เสกสกลมีคนช่วยไม่ให้ติดคุก ชะลอเรื่องจนกระทั่งหมดอายุความ รวมถึงเคยสาบานต่อ ‘ย่าโม’ ว่าจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับการเมือง พอผิดคำสาบานก็ไปขอโทษกับย่าโม ส่วนจุรีพรเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยเช่นกัน ในปี 2562 ไม่ได้ลงสมัคร ส.ส.เขต เพราะมีหลานสาวลงแทน จุรีพรเลยย้ายไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งพรรคจัดให้ลง ส.ส.บัญชีรายชื่อเช่นกันกัน แต่ลำดับไม่ถึง โดน ไพบูลย์ นิติตะวัน ตัดหน้า ไม่ได้เป็น ส.ส. จึงได้เฉพาะตำแหน่งประจำสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

“ย้อนไปเมื่อเดือนกันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวคงทราบกันดีว่า มีการเตรียมการล้ม พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา กัน แล้วต่อมาคุณประยุทธ์ก็ฮึดสู้ จนกระทั่งเสร็จศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจก็มีการชำระแค้นกัน ปลดคุณธรรมนัสออกจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ หลังจากนั้นคุณธรรมนัสก็แยกไป 19-20 คน ตั้งพรรคเศรษฐกิจไทย แล้วก็ทำตัวเป็นปรปักษ์กับคุณประยุทธ์มาโดยตลอด

ทั้งนี้ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ยังระบุด้วยว่า เมื่อพลเอกประยุทธ์เห็นร้อยเอกธรรมนัสเป็นปรปักษ์กับตัวเอง ก็ต้องจัดการให้ได้ ทั้งนี้อู่ข่าวอู่น้ำธรรมนัสคือลอตเตอรี่ และร้อยเอกธรรมนัสก็มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มเสือแดง อีกทั้งยังเป็นคนคุมผลประโยชน์ลอตเตอรี่พอสมควร พลเอกประยุทธ์จึงจัดการ ‘ถล่ม’ ร้อยเอกธรรมนัส

“เมื่อจะถล่มกัน ปรากฏว่า 11 มกราคม 2565 คุณประยุทธ์ได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อปราบปรามการสลายสลากราคาแพง มีคุณเสกสกลเป็นประธานอนุกรรมการ ต้องการปราบปรามลอตเตอรี่ที่ขายแพงกว่ากำหนด มีการขอตัวข้าราชการทุกหน่วย รวมถึงตำรวจด้วย จริงๆ สลากราคาแพงมีอยู่ทั่วประเทศ ผู้ค้าก็ขายแพงทั้งหมด แต่มันเกินมาตั้งแต่ข้างบน

“25 มีนาคม 2565 ตำรวจก็ไปจับกุมมังกรฟ้า เป็นผู้ที่มีโควตาลอตเตอรี่รายใหญ่ ต่อมาก็ไปจับกุมกองสลากพลัส และวันที่ 1 เมษายน ก็มาจับกุมกลุ่มเสือแดง มาจับธรรมนัสทีหลัง มีการจับกลุ่มอื่นก่อน กลุ่มธรรมนัสจับทีหลัง”

สำหรับคลิปดังกล่าว พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์บอกว่าเกิดขึ้นภายหลังจากการจับกุมกลุ่มมังกรฟ้า 25 มีนาคม และการจับกุมกลุ่มกองสลากพลัสในวันที่ 28 มีนาคม สำหรับคลิปนี้มีสองประเด็น ประเด็นแรกคือในปี 2562 นั้น เสกสกล ลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 10 จังหวัดนครราชสีมา แข่งกับคนของ วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นเจ้าของโรงงานแป้ง ซึ่งในคลิประบุว่าเป็นการสู้กับโรงงานแป้งมัน ทั้งนี้เสกสกลบอกในคลิปว่าทุ่มไปถึง 100 ล้านบาทซึ่งไม่พอ ขอเงินเพิ่มอีก 15 ล้านบาทก็ยังพ่ายแพ้อยู่ดี จึงตกเป็นหนี้ 15 ล้านบาท และต้องหาเงินชดใช้ เสกสกลจึงโทรหาจุรีพร และต้องขอเงินในตอนนั้นเลย เพราะตำรวจกำลังจะไปจับแล้ว แต่ยังไม่ได้ชดใช้เงิน ในคลิป เสกสกลจึงพูดต่อว่า “เดี๋ยวเขาโวยขึ้นมาก็แย่เลย”

หลังจากนั้นในคลิปเสกสกลบอกขึ้นมาว่า “น้องต้องเอามาให้ได้วันนี้นะ” จุรีพรจึงตอบกลับว่า “หนูเงินไม่พอ เดี๋ยวไปเอาที่อื่น” เสกสกลจึงถามว่าจะไปเอาเงินจากที่ไหนอีก และพูดขึ้นมาว่า “ส่วนโควตาลอตเตอรี่ เดี๋ยวพี่จะดูให้” ซึ่งทั้งหมดนั้นล้วนเป็นประเด็นให้สืบสวนสอบสวน

ทั้งนี้ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ตั้งสองประเด็นในการสืบสวน ประเด็นแรกคือ ในการเลือกตั้ง 2562 เสกสกลได้ใช้เงินเกินที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ เพราะปี 2562 คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ผู้สมัครเขต ใช้เงินได้เพียงคนละ 1.5 ล้านบาท พรรคการเมืองให้ใช้ได้ทั้งสิ้น 35 ล้านบาท แน่นอนว่าผู้สมัคร และพรรคการเมืองน่าจะรายงานเท็จต่อ กกต. หลายราย แต่สำหรับเสกสกลที่พูดขึ้นมาว่าใช้กว่าร้อยล้าน เรื่องนี้ประธาน กกต. ต้องหยิบขึ้นมาสอบ แต่ก็เชื่อว่า กกต. ชุดนี้ น่าจะใช้เวลาสอบสวนล่าช้า จากกรณีที่เคยยื่นสอบ สิระ เจนจาคะ ส.ส.เขตหลักสี่ พรรคพลังประชารัฐ ก็ต้องใช้เวลาเป็นปีกว่า กกต. จะสอบสวนแล้วเสร็จ

ส่วนประเด็นที่สอง พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ระบุว่า เป็นประเด็นคลิปเสียงที่เสกสกลบอกกับจุรีพรว่า “น้องเอาเงินมา 15 ล้าน เดี๋ยวเอาโควตาลอตเตอรี่มาให้ ไม่ทิ้งหรอก” อาจเข้าข่ายเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สินเพื่อผลประโยชน์ตัวเองหรือผู้อื่น เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 และถือเป็นเจ้าพนักงาน เพราะมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถือเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 157 นอกจากนี้ยังมีเรื่องการทำผิดจริยธรรมในฐานะข้าราชการการเมืองที่ต้องสอบสวนอีกด้วย

“คดีนี้ไม่ยาก ง่ายๆ หมูๆ เราเอาเท้าเขี่ยก็เรียบร้อยแล้ว เพราะทุกคนยอมรับว่าเป็นเสียงพูดตัวเอง แต่เบี่ยงเบนไปว่าพูดเล่น ใครจะเชื่อ เด็ก ป.1 ฟัง เขาก็บอกว่าพูดจริงทั้งนั้น คลิปตัวเอง เสียงตัวเอง สารภาพแล้ว หลีกเลี่ยงเป็นอย่างอื่นไม่ได้”

นอกจากนี้ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยยังระบุอีกว่า สิ่งที่น่าสนใจคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังเสกสกลคือพลเอกประยุทธ์ ที่เปิดยุทธการนี้ขึ้นมา เพราะไม่พอใจร้อยเอกธรรมนัส จึงต้องจัดการโดยแต่งตั้งเสกสกลเป็นประธานในการดำเนินการ จึงต้องตั้งคำถามว่าในเรื่องนี้ พลเอกประยุทธ์ในฐานะผู้บังคับบัญชาจะรับผิดชอบอย่างไร เป็นผู้สนับสนุนหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดต้องว่ากันด้วยพยานหลักฐาน และในฐานะผู้บังคับบัญชา เมื่อเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้น คนทั่วไปก็เข้าใจได้ว่าต้องดำเนินการกับเสกสกล แต่พลเอกประยุทธ์กลับไม่ได้สนใจ บอกแต่เพียงเสกสกลเล่าให้ฟังแล้ว ไม่เห็นมีอะไร เรื่องเก่าอย่าไปพูดกัน ซึ่งไม่ถูกต้อง และต้องสอบสวนต่อว่าพฤติกรรมของนายกรัฐมนตรี เข้าข่ายสนับสนุนให้กระทำความผิดหรือไม่

พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ยังกล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะมีหนังสือไปถึงเลขาธิการ กกต. ขอเอกสารที่เสกสกลรายงานเรื่องการใช้เงินหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ประกบกับเรื่องในคลิปเสียง ซึ่งต้องดำเนินการต่อไป ส่วนคณะกรรมาธิการจะเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบสวน หาข้อเท็จจริงในเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์ของเสกสกลต่อไปเช่นกัน โดยหากพบความผิดปกติ แต่รัฐบาลไม่ทำอะไร จะชี้มูลว่าพลเอกประยุทธ์ทำผิดมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง หรือเป็นผู้สนับสนุนให้เสกสกลทำความผิดหรือไม่

Tags: , , , , ,