พริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบาย และผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กับ The Momentum ถึงการเลือกตั้งแบบ Strategic Vote หรือการเลือกตั้งเชิงยุทธศาสตร์ว่า ปัจจุบันอาจมีหลายนิยาม แต่ในความเข้าใจส่วนตัว การเลือกตั้งเชิงยุทธศาสตร์ต้องคำนึงถึงสองเงื่อนไข ได้แก่

1. ต้องพิจารณาว่าในเขตเลือกตั้งแต่ละเขต โอกาสที่พรรคที่ตัวเองชื่นชอบจะชนะมีมากหรือน้อย หากโอกาสชนะน้อย ก็อาจเทให้อีกคนมากกว่า โดยในส่วนนี้อาจต้องมีพรรคมากกว่าหนึ่งพรรคที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนคนนั้น หรืออาจมีพรรคการเมืองสองพรรคขึ้นไป ที่มีจุดยืนหรืออุดมการณ์ที่ไม่ได้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะทำให้คนยอมตัดสินใจเปลี่ยนใจไปเทคะแนนให้พรรคอื่นได้

“แน่นอน บางพรรคก็อาจมีจุดร่วมกันมากกว่าบางพรรค แต่ว่าในรายละเอียด ทุกพรรคการเมืองล้วนมีความแตกต่างกันในนโยบายต่างๆ ที่พยายามจะขับเคลื่อน

2. การเลือกตั้งเชิงยุทธศาสตร์ ประชาชนต้องประเมินได้จริงๆ ว่า ใครมีโอกาสชนะมากหรือน้อยกว่าในเขตเลือกตั้งนั้นๆ ซึ่งปัจจุบันประเมินได้ยากมากว่าเขตใด ใครมีโอกาสชนะมากกว่า

“ถ้าจะวิเคราะห์ย้อนไปถึงอนาคตใหม่ แล้วเอาการเลือกตั้งเชิงยุทธศาสตร์เป็นตัวตั้ง วันนั้นก็ไม่มีใครคิดว่าอนาคตใหม่สามารถเป็นที่หนึ่งในหลายเขตเลือกตั้งได้ แต่เราเห็นว่าในหลายเขตที่แข่งขันกันอย่างเข้มข้นในปี 2562 อนาคตใหม่ก็เข้ามาเป็นที่หนึ่งได้หลายเขตเช่นกัน เราเข้าใจถึงความตั้งใจของบางคน เคารพสิทธิของประชาชนที่จะเลือกแบบนั้น แต่ในความเป็นจริงทั้งสองเงื่อนไขเป็นเงื่อนไขที่เกิดขึ้นยาก”

พริษฐ์ยังได้กล่าวถึงกระแสของพรรคก้าวไกลขณะนี้ว่า จากการไปช่วยผู้สมัครหาเสียงทั่วประเทศ กระแสของพรรคก้าวไกลและคะแนนนิยมต่างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่เพียงในกรุงเทพฯ เท่านั้น แต่เพิ่มทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพิ่มทุกภูมิภาค และเพิ่มในทุกโพล ขณะเดียวกัน ยอดรับโทรศัพท์จากคอลเซนเตอร์ของพรรค และยอดขายสินค้าของพรรคก็เพิ่ม 10-20 เท่าตัว ซึ่งถือเป็นคะแนนนิยมที่สูงขึ้นมากจากการที่ประชาชนให้ความไว้วางใจ

ส่วนการหาเสียงในโค้งสุดท้าย พริษฐ์ระบุว่า นโยบายทั้งหมดของพรรคก้าวไกล เปิดไปหมดแล้ว 300 นโยบาย เผยแพร่ในเว็บไซต์แล้ว และมีการนำไปพูดในทุกเวที อีกทั้งยังส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หมดแล้ว ซึ่งประชาชนสามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ของ กกต. ไม่ใช่เฉพาะของพรรคก้าวไกล แต่ของทุกพรรคการเมือง และพรรคก้าวไกลไม่ได้มีนโยบายอะไรอุบไว้ หรือหมัดเด็ดอะไรอีกแล้วจนถึงวันที่เข้าคูหาเลือกตั้ง สิ่งที่จะทำมากกว่าคือสื่อสารนโยบายที่มีอยู่ว่า พรรคก้าวไกลจะเปลี่ยนแปลงประเทศอย่างไร

“เราจะฉายภาพให้เขาเห็นชัดว่าถ้าเขากาก้าวไกล หน้าตาประเทศไทยในอีก 4 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร และให้ประชาชนไว้วางใจ ให้มั่นใจว่าพรรคก้าวไกลจะสามารถขับเคลื่อนสิ่งเหล่านี้ให้เปลี่ยนแปลงประเทศได้ ทำงานอย่างเต็มที่ ใช้ทุกวินาทีอย่างคุ้มค่า ใช้ทรัพยากรบุคคลที่มีทั้งหมดอย่างคุ้มค่า และชวนประชาชนที่อยากจะสนับสนุนเราอยู่แล้ว ให้ช่วยส่งต่อความตั้งใจของเรา” 

Tags: , , , ,