วันนี้ (3 สิงหาคม 2022) สำนักข่าวเซาต์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ (The South China Morning Post) รายงานว่า กระทรวงศึกษาธิการของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน แนะนำให้แต่ละโรงเรียนเพิ่มกิจกรรมทางการศึกษาที่ส่งเสริมความเป็นชาติ เพื่อบ่มเพาะความเข้าใจอันลึกซึ้งเกี่ยวกับประวัติศาสตร์จีน

โรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในฮ่องกงต่างก็ได้รับคำสั่งจากกระทรวงการศึกษาฯ ให้เตรียมการสำหรับกิจกรรมดังกล่าวในปีการศึกษาที่จะมาถึง รวมทั้งหมด 18 วันสำคัญ โดยแต่ละโรงเรียนมีความรับผิดชอบในการปลูกฝังความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ สำนึกในเอกลักษณ์ประจำชาติ และความภาคภูมิใจของชาติในนักเรียนของเราตั้งแต่อายุยังน้อย

“สิ่งสำคัญ คือปลูกฝังให้นักเรียนทุกคนรักในบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง ทำให้เด็กๆ เหล่านั้นกลายเป็นคนรุ่นใหม่ที่รักประเทศและเมืองของพวกเขา”

วันสำคัญดังกล่าว ประกอบด้วยกิจกรรมวันเปิดเรียน วันชาติ วันรัฐธรรมนูญ ตลอดจนวันรำลึก และวันครบรอบเช่น วันสำคัญจัดตั้งเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (the establishment of the Hong Kong Special Administrative Region) ในวันที่ 1 กรกฎาคม

รวมถึง ‘วันผู้เสียสละ’ (The Martyrs Day) ในวันที่ 30 กันยายน ซึ่งเป็นวันรำลึกถึงผู้ที่เสียสละปกป้องประเทศ วันแรงงานในวันที่ 1 พฤษภาคม วันครบรอบ 102 ปีของการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน 1 กรกฎาคม วันรำลึกถึงวันที่เป็นชนวนให้เกิดสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่ 2 รวมทั้งวันกองทัพปลดแอกประชาชนจีน (The Chinese People’s Liberation Army Day) ในวันที 1 สิงหาคม

อีกทั้งกระทรวงศึกษาฯ ยังแนะนำให้โรงเรียนจัดนิทรรศการการอ่านหนังสือในห้องสมุด และกิจกรรมรับชมภาพยนตร์ที่แสดงถึงความรักชาติ รวมทั้งจัดการเสวนาเกี่ยวกับพัฒนาการพรรคคอมมิวนิสต์จีนในชั้นเรียนประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ตาม กระทรวงศึกษาฯ ไม่ได้กล่าวถึงผลที่ตามมาหากแต่ละโรงเรียนไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ

ด้านแหล่งข่าวของสำนักข่าวเซาต์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ จอห์นนี เหลา (Johnny Lau Yui-Siu) นักวิจารณ์การเมืองที่มีชื่อเสียงในฮ่องกงกล่าวว่า วันสำคัญที่เพิ่มเข้ามาทั้งหมดเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นความปรารถนาของผู้มีอำนาจในการเสริมสร้างความรู้ประวัติศาสตร์ในรูปแบบที่พวกเขาต้องการ รวมไปถึงค่านิยมของพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างเสถียรภาพของรัฐและอุดมการณ์ของพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเป็นผลมาจากเหตุการณ์การประท้วงในฮ่องกง เมื่อปี 2019

ด้านสำนักข่าวเดอะวอชิงตันโพสต์ให้ข้อมูลว่า ราว 10 ปีที่แล้ว นักเรียนชาวฮ่องกงจำนวนหนึ่งลงถนนประท้วงให้โรงเรียนเปลี่ยนหลักสูตรการศึกษา เนื่องจากพวกเขามองว่าหลักสูตรดังกล่าวถูกเขียนขึ้นมาเพื่อล้างสมอง และกีดกันไม่ให้นักเรียนสามารถใช้ทักษะการคิดวิเคราะห์ได้ หลังจากนั้น ผู้มีอำนาจจึงยุติการใช้หลักสูตรดังกล่าวลง 10 ปีต่อจากเหตุการณ์การประท้วงดังกล่าว ทว่าหลังจากนั้น กลับมีอีกหนึ่งหลักสูตรที่ถูกมองว่าเป็นฉบับที่ร้ายแรงกว่าเดิมถูกเขียนขึ้น โดยปราศจากเสียงประท้วงจากประชาชน เนื่องจากกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่เขียนขึ้นโดยรัฐบาลกลางจากปักกิ่ง

ปัจจุบัน ฮ่องกงปกครองอยู่ภายใต้แนวคิด ‘หนึ่งประเทศสองระบบ’ ซึ่งเป็นนโยบายแห่งชาติขั้นพื้นฐานที่รัฐบาลจีนร่างขึ้นมา ใจความส่วนหนึ่งว่า ให้ส่วนหลักของประเทศคือประเทศจีน ปกครองด้วยระบบสังคมนิยมแบบเดิมต่อไป แต่ให้ ฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน ปกครองตามเดิม อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายต่างมองว่าจีนพยายามส่งออกแนวคิดแบบสังคมนิยม และค่านิยมแบบพรรคคอมมิวนิสต์จีนไปยังฮ่องกง และไต้หวัน ผ่านการเขียนหลักสูตรการศึกษาแบบชาตินิยมที่เคร่งครัด

ที่มา

https://www.scmp.com/news/hong-kong/education/article/3187516/hong-kong-tells-schools-ramp-national-education-more-key

https://www.washingtonpost.com/world/2022/06/22/hong-kong-education-beijing-colony/

Tags: , , , , ,