วันนี้ (20 สิงหาคม 2568) ที่อาคารรัฐสภา ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.แบบบัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย วรภพ วิริยะโรจน์ และศุภโชติ ไชยสัจ สส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาชน แถลงต่อสื่อมวลชนกรณีกลุ่มทุนพลังงานยักษ์ใหญ่ของประเทศอย่าง กัลฟ์ (GULF) ฟ้องร้องดำเนินคดีอาญาในข้อหาหมิ่นประมาทและเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งรวม 300 ล้านบาท จากกรณีการทำหน้าที่ สส.ในการตั้งข้อสังเกตถึงความไม่เป็นธรรมในการซื้อพลังงานไฟฟ้าของรัฐบาล
ณัฐพงษ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคประชาชนยืนหยัดต่อสู้เพื่อผลักดันให้ประเทศไทย มีโครงสร้างพลังงานไฟฟ้าที่เป็นธรรมและโปร่งใส แต่ที่ผ่านมาปัญหาของค่าไฟฟ้ามาจากต้นทุนแฝง ที่เกิดขึ้นจากการมีโรงงานไฟฟ้าสำรองล้นเกินความจำเป็น อีกทั้งในแผนพลังงานชาติ (National Energy Plan: NEP) ฉบับใหม่ยังไม่มีแนวทางการแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง อีกทั้งยังเปิดช่องให้รัฐบาลสามารถรับซื้อพลังงานไฟฟ้าสำรองเพิ่มเติมได้อีก
ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย ณัฐพงษ์ระบุว่า พรรคประชาชนจึงได้ใช้ทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการแถลงข่าว การตั้งกระทู้ถาม ตลอดจนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อผลักดันให้มีการแก้ไขปัญหา เช่น ในช่วงปลายปี 2567 พรรคประชาชนผลักดันให้รัฐบาลยกเลิกโครงการการรับซื้อพลังงานหมุนเวียนล็อต 2 ล็อต ได้แก่ 5,200 เมกะวัตต์และ 3,600 เมกะวัตต์
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในช่วงแรกการผลักดันดังกล่าวดูจะเป็นไปได้ดี โดยคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติชะลอการรับซื้อพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนล็อต 3,600 เมกะวัตต์ แต่รัฐบาลกลับอาศัยจังหวะกระแสข่าวซาลง เดินหน้ารับซื้อในส่วนนี้ต่อโดยใช้วิธีการเจรจาลดราคารับซื้อจากเอกชน
หัวหน้าพรรคประชาชนกล่าวต่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นได้สะท้อนปัญหาการรับซื้อพลังงาน 4 ประการ ดังนี้
1. เป็นกระบวนการที่ไม่ใช่การประมูลรับซื้อ แต่ใช้ราคารับซื้อเดิม ทั้งๆ ที่ราคาพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนมีแนวโน้มลดลงทุกปี จึงส่อให้เห็นว่า รัฐบาลกำลังซื้อไฟฟ้าหมุนเวียนที่แพงเกินจริงหรือไม่
2. ไม่มีการเปิดเผยเกณฑ์การให้คะแนนก่อนการคัดเลือก ซึ่งที่ผ่านมาศาลเคยมีแนวคำวินิจฉัยออกมาแล้วว่า กระบวนการลักษณะดังกล่าวไม่ถูกต้องและไม่โปร่งใส
3. ไม่มีเหตุผลรับรองว่า เหตุใดประเทศไทยจะต้องสำรองไฟฟ้าเพิ่มเติม ทั้งๆ ที่ทุกวันนี้ประเทศไทยมีกำลังไฟฟ้าสำรองล้นเกินอยู่แล้ว
4. กระบวนการนี้เป็นกระบวนการที่กีดกันการแข่งขัน เนื่องจากล็อกสิทธิ์ให้กับกลุ่มทุนเดิมที่เคยเข้าร่วมกระบวนการรับซื้อเมื่อปี 2565 จึงทำให้พรรคประชาชนได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อตรวจสอบกระบวนการรับซื้อพลังงานไฟฟ้ามาตั้งแต่รัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จนถึงรัฐบาลปัจจุบัน
ทำให้ในเวลาต่อมา บริษัท กัลฟ์ เจพี เอ็นเอส จำกัด (GULF JP NS) บริษัทผู้ผลิตและการส่งไฟฟ้าของ GULF ได้ยื่นฟ้องร้องดำเนินคดีกับณัฐพงษ์ ในข้อหาหมิ่นประมาท พร้อมเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง 100 ล้านบาท จากกรณีการแถลงข่าวครั้งก่อนหน้า ส่วนวรภพและศุภโชติถูก บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) (Gulf) ฟ้องร้องดำเนินคดีอาญาในลักษณะเดียวกัน พร้อมกับเรียกค่าเสียหายทางแพ่งอีกคนละ 100 ล้านบาท จากกรณีการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร รวมทั้ง 3 คน รวมมูลค่าทางแพ่ง 300 ล้านบาท
“ผมอยากยืนยันว่า การแถลงข่าวและการอภิปรายของพวกเราที่ผ่านมาในการเรียกร้อง เพื่อทวงคืนค่าไฟฟ้าที่เป็นธรรมให้กับประชาชน เป็นการทำหน้าที่โดยสุจริตในฐานะผู้แทนราษฎร เพื่อปกป้องประโยชน์ของประชาชน
“การฟ้องร้องดำเนินคดีไม่ว่าจะมาจากกลุ่มทุนไหน กลุ่มทุนพลังงานหรือกลุ่มทุนใดๆ จะไม่ทำให้พวกเราหวั่นไหวหรือหยุดทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนราษฎรต่อไป” ณัฐพงษ์กล่าว
ทั้งนี้ในคดีของณัฐพงษ์ ศาลจะนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 25 สิงหาคม 2568 ที่ศาลอาญารัชดา ซึ่งณัฐพงษ์เปิดเผยว่า จะเดินทางเข้าสู่กระบวนการด้วยตนเอง
Tags: พลังงานไฟฟ้า, ค่าไฟแพง, พลังงานหมุนเวียน, ฟ้องร้อง, พรรคประชาชน, ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ, ณัฐพงษ์, พลังงาน, ค่าไฟฟ้า, Gulf, กัลฟ์