วันนี้ (27 มีนาคม 2568) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ‘เห็นชอบ’ ร่างพระราชบัญญัติธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ

แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ธุรกิจ Entertainment Complex จะช่วยสร้างรายได้กว่า 1.19-2.38 แสนล้านบาท สามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5-10% ต่อปี ตลอดจนส่งเสริมการจ้างงานในประเทศกว่า 9,000-1.5 หมื่นตำแหน่ง ทำให้รัฐบาลสามารถเก็บภาษีจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องได้มากขึ้น

The Momentum จึงได้รวบรวมสาระสำคัญที่ทางคณะกรรมการกฤษฎีกามีการแก้ไขเพิ่มเติมใน พ.ร.บ. Entertainment Complex ประกอบไปด้วยดังนี้

1. นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รักษาการตามกฎหมายร่วมกัน จากแต่เดิมที่เป็นเพียงนายกฯ

2. ให้คณะกรรมการนโยบายฯ มีอำนาจในการพิจารณาเรื่องสำคัญที่ต้องเสนอ ครม. เช่น เสนอแนะนโยบายการประกอบธุรกิจ Entertainment Complex หรือการกำหนดพื้นที่ประกอบธุรกิจ

3. คณะกรรมการนโยบายฯ จะต้องเป็นผู้กำหนดจำนวนใบอนุญาต พื้นที่ตั้งสถานบันเทิงครบวงจร ตลอดจนหลักเกณฑ์การลงทุนร่วมกับเอกชนหรือให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน

4. ธุรกิจ Entertainment Complex ประกอบด้วยพิพิธภัณฑ์ โถงแสดงคอนเสิร์ต สนามกีฬาในร่มขนาดใหญ่ สวนน้ำ สวนสนุก ร้านอาหาร และโรงแรม สำหรับคาสิโนกำหนดให้ไม่เกินร้อยละ 10 ของที่ดินหรือพื้นที่ใช้สอยของอาคาร

5. กำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจ Entertainment Complex เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตเกี่ยวกับการก่อสร้าง และใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจตามประเภทธุรกิจที่ระบุไว้ในใบอนุญาต และให้ผู้ได้รับใบอนุญาตที่จัดให้มีคาสิโนเป็นสถาบันการเงิน ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

6. คนไทยที่ต้องการเล่นการพนันในคาสิโน ต้องมีเงินฝากในบัญชีเงินฝากประจำไม่น้อยกว่า ‘50 ล้านบาท’ ต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน

7. คณะกรรมการนโยบายฯ จะต้องกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อควบคุมการประกอบการคาสิโน จะต้องมีมาตรการป้องกันการฟอกเงิน ระบบควบคุมคาสิโนที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากคาสิโน

8. ห้ามผู้รับใบอนุญาตธุรกิจ Entertainment Complex หรือบุคคลใดจ้างหรือให้ผลประโยชน์ตอบแทนอื่นใดแก่บุคคลอื่น หรือเพิ่มยอดหรือจำนวนคนเล่นพนันในคาสิโน หรือเพื่อเพิ่มจำนวนเงินที่ใช้จ่ายในการเล่นพนันในคาสิโน

9. ผู้รับใบอนุญาตธุรกิจ Entertainment Complex ที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้อำนวยการที่สั่งให้ปฏิบัติข้อกำหนด และปล่อยปละละเลยหรือยินยอมให้บุคคลต้องห้ามเข้าไปในคาสิโน จะต้องถูกปรับเป็นพิสัย

10. ลักษณะการกระทำความผิดที่จะได้รับโทษทางอาญา ที่ทางคณะกรรมการกฤษฎีกาได้แก้ไขเพิ่มเติมคือ การจัดให้มีการเล่นพนันในคาสิโนผ่านการเชื่อมต่อระบบคอมพิวเตอร์ หรือถ่ายทอดการเล่นพนันในคาสิโน และกระทำการที่เป็นการเพิ่มยอดหรือเพิ่มจำนวนคนเล่นพนัน หรือเพิ่มจำนวนเงินที่ใช้จ่ายในการเล่นพนันในคาสิโน

โดยขั้นตอนต่อไปร่าง พ.ร.บ. Entertainment Complex จะถูกส่งไปให้สภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาในวาระรับหลักการและตั้งคณะกรรมการวิสามัญต่อไป

Tags: , , , ,