วันนี้ (15 กรกฎาคม 2567) ตลาดหุ้นไทยเมื่อเวลา 12.30 น. ปิดตลาดภาคเช้าติดลบ 8.68 จุด ลงมาอยู่ที่ 1,323.36 จุด โดยคาดว่า มีปัจจัยสำคัญจากการที่ตลาดหลักทรัพย์หยุดพักการซื้อขายหุ้นของบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA พร้อมกับขึ้นอักษร H หรือ Halt จนกว่าจะแจ้งข้อมูลกรณีสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษกรรมการและผู้บริหารของ EA จากการร่วมกันกระทำการทุจริตได้ครบถ้วน พร้อมกันนี้ยังถอด EA ออกจากหุ้น SET ESG Ratings หรือกลุ้มหุ้นยั่งยืน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ EA ได้ชื่อว่าเป็นหุ้นยั่งยืนและมี SET ESG Ratings สูงถึงระดับ AA

ทั้งนี้ ในการแถลงข่าวของ EA เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทแต่งตั้งให้ สมใจนึก เองตระกูล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานกรรมการบริษัท พร้อมแต่งตั้งกรรมการบริษัทเพิ่มเติมแทน สมโภชน์ อาหุนัย และอมร ทรัพย์ทวีกุล กรรมการที่ลาออก เนื่องจากโดน ก.ล.ต.แจ้งข้อกล่าวหา 

ขณะเดียวกัน สิ่งที่ตลาดจับตาคือในส่วนของหุ้นกู้ EA ที่ก่อนหน้านี้ออกหุ้นกู้รวมกันมากกว่า 3.1 หมื่นล้านบาทตั้งแต่ปี 2567-2576 โดยมีความกังวลกรณีว่า EA จะดำเนินการต่อได้หรือไม่ โดยในปีนี้ EA มีหุ้นกู้ 2 รุ่น ครบกำหนดคืนปีนี้ 5,500 ล้านบาท และในวันที่ 23-25 กรกฎาคมนี้จะมีการเปิดขายหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รุ่น 1 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2568 อัตราดอกเบี้ย 4.7% ต่อปี และรุ่นอายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2570 อัตราดอกเบี้ย 5.5% ต่อปี

ในรายการทันหุ้นทันเกมช่วงเช้าที่ผ่านมา ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยมีความกังวลจากกรณีกลุ่ม EA มีความเกี่ยวกันกับหุ้นกลุ่มต่างๆ ค่อนข้างเยอะ และอาจกระทบกับกลุ่มธนาคาร ทั้งนี้หากกลุ่ม EA ขาดความเชื่อมั่น ขายหุ้นกู้ไม่ได้ หนี้ที่ผูกกับสถาบันการเงินต่างๆ และธนาคารต่างๆ ก็อาจได้รับผลกระทบ ขณะเดียวกัน สัปดาห์นี้ ธนาคารต่างๆ เตรียมประกาศงบการเงิน จึงยังต้องลุ้นต่อว่าจะเป็นอย่างไร

ณัฐวุฒิยังระบุด้วยว่า อีกปัจจัยที่ต้องจับตาก็คือปัญหาเศรษฐกิจ โดย ณ ขณะนี้ เศรษฐกิจถือว่าไม่ดี โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์ โดยหากลองดูตามโชว์รูมก็จะพบว่า มีการให้อัตราผ่อน 0% แถมประกันชั้นหนึ่ง บางโชว์รูมอาจแถมประกันชั้นหนึ่งมากถึง 2 ปี หรือบางโชว์รูมอาจลดเงินสดไปเลยนับแสนบาท ขณะเดียวกัน ยังมีกรณีที่ฮอนด้าประกาศปิดโรงงานที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำให้กำลังการผลิตลดลง ซ้ำยังไม่ได้ขยายกำลังการผลิตเพิ่ม 

นอกจากนี้ แม้จะมีการลงทุนด้านยานยนต์ไฟฟ้าจากจีน แต่การลงทุนเป็นรูปแบบที่ต่างจากญี่ปุ่นชัดเจน โดยหากกฎบอกว่า ต้องมีอะไหล่ที่ผลิตในประเทศ 15-30% จีนก็จะผลิตเท่านั้นจริงๆ ที่เหลือจะนำเข้าจากจีนทั้งหมด แล้วก็ไม่มีส่วนการถ่ายทอดเทคโนโลยีเหมือนญี่ปุ่น เมื่อเป็นเช่นนั้น การจ้างงานก็จะน้อยกว่า จีนยังมองต้นทุนเป็นหลักว่า ที่ไหนถูกก็เอาตรงนั้น ทำให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศไม่ได้ประโยชน์เต็มที่เหมือนกับญี่ปุ่น แต่กลับต้องมาแข่งสงครามราคากันทั้งหมด สะท้อนภาพอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เปลี่ยนแปลง และกลุ่มธนาคารก็อาจได้รับผลกระทบกรณีการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์

ดูรายการทันหุ้นทันเกมได้ทาง https://www.youtube.com/live/xOlYG1S93q8

Tags: , , , ,