เมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา สื่อข่าวเกาหลีใต้ เดอะโคเรียเฮรัลด์ (The Korea Herald) รายงานถึงวิกฤตการบริโภคเนื้อมนุษย์ (Cannibalism) ที่เพิ่มขึ้นในเกาหลีเหนือ ท่ามกลางโรคระบาดโควิด-19 เพื่อเอาตัวรอดจากความหิวโหยและความยากจน

เหตุการณ์นี้เปิดเผยโดยกลุ่มผู้แปรพักตร์เกาหลีเหนือ หลังจากเจ้าหน้าที่ฝั่งเกาหลีใต้พบครอบครัวชายคนหนึ่งบริเวณนอกชายฝั่งทะเลทางตะวันตกของประเทศเมื่อ 1 เดือนก่อน

เขาเปิดเผยสถานการณ์ของเกาหลีเหนือที่เต็มไปด้วยโรคระบาดโควิด-19 ตั้งแต่ปีที่แล้วว่า หลังจากรัฐบาลเปียงยางสั่งปิดพื้นที่ต่างๆ ทำให้ผู้ที่มีงานประจำต้องเปลี่ยนวิธีการทำมาหากินโดยหันมาเก็บขยะหรือสิ่งของต่างๆ ที่เกยตื้นจากฝั่งเกาหลีใต้ ไปขายหรือส่งโรงงานเพื่อผลิตใหม่

โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นเพราะราคาต้นทุนการผลิตอาหารที่พุ่งสูง เช่น ธัญพืชและข้าวสาร ทำให้การเข้าถึงอาหารจำกัดลงกว่าเดิม บางคนจึงหันมา ‘บริโภคเนื้อมนุษย์’ 

แม้ชายหนุ่มนิรนามไม่ได้เปิดเผยว่า สถานการณ์ปัจจุบันของการบริโภคเนื้อมนุษย์ของเกาหลีเหนือเป็นอย่างไร แต่หากย้อนกลับไปดูรายงานของเทเลกราฟ (Telegraph) ในปี 2003 จะพบว่าปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นนานแล้ว หลัง มาร์ก นิคาล (Mark Nical) เปิดเผยสถานการณ์ของผู้คนที่กินเนื้อลูกตัวเองและขายศพเด็ก ซึ่งสอดคล้องกับปัญหาความอดอยากในเกาหลีเหนือ จากรายงานของหน่วยงานความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในช่วงเวลาเดียวกัน 

 ความน่าฉงนยิ่งเพิ่มขึ้น เพราะคำขอจากโครงการอาหารโลก (World Food Programme: WFP) ภายใต้องค์การสหประชาชาติ (United Nations: UN) ในการเข้าถึงตลาดที่เป็นเป้าสงสัยว่ามีการค้าเนื้อมนุษย์ถูกปัดตก โดยทางการเกาหลีเหนืออ้างถึงเหตุผลด้านความมั่นคง

รวมถึงปี 2013 ดิแอตแลนติก (The Atlantic) รายงานถึงปัญหาดังกล่าว โดยอ้างแหล่งข่าวจากเอเชียเพรส (Asia Press) ว่าวิกฤตนี้รุนแรงมาก เพราะชายคนหนึ่งถึงกับฆ่าลูกของตัวเองเพื่อทำเป็นอาหาร 

“ระหว่างที่ภรรยาของเขาไปทำธุระ ชายคนนั้นตัดสินใจฆ่าลูกสาวคนโต หลังจากนั้นก็ฆ่าลูกชายต่อ เพราะบังเอิญเห็นสิ่งที่เขาลงมือทำ 

“เมื่อภรรยาของเขากลับมา ชายคนนั้นมอบอาหารให้ และบอกว่า เรามีเนื้อกินแล้ว แต่ภรรยาของเขาสงสัย จึงแจ้งให้กระทรวงความมั่นคงสาธารณะทราบ จนนำไปสู่การพบร่างของเด็ก 2 คนใต้ชายคาบ้าน”

นอกจากนั้น กู กวังโฮ (Gu Gwang-ho) สื่อข่าวสายพลเมืองผู้อาศัยในเปียงยาง อ้างว่าเคยมีชายคนหนึ่งถูกดำเนินคดี เพราะขุดศพหลานของเขาขึ้นมากิน รวมถึงคำบอกเล่าของคุณอิม (Lim) เจ้าหน้าที่นิรนามชาวเกาหลีเหนือ ที่ว่ายังมีเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นในแฮจู (Haejoo) เมืองหนึ่งของจังหวัดฮวังแฮใต้ (Hwanghae) เช่น มีฆาตกรฆ่าเหยื่อ 7 คน และนำไปหลอกขายเป็นเนื้อหมู หลังจากนั้น เขาถูกทางการเกาหลีเหนือประหารชีวิต

แม้ว่าเรื่องราวดังกล่าวยังพิสูจน์ไม่ได้ แต่หากพิจารณาถึงสภาวะการ ‘ปิดกั้น’ จากโลกภายนอกของเกาหลีเหนือ ซึ่งเก็บงำความลับมากมายที่ชาวโลกไม่รู้ อีกทั้งยังมีการสร้างโฆษณาชวนเชื่อ (Propaganda) ต่อสาธารณชน

สิ่งเหล่านี้จึงมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะรายงานข่าวจากเอเชียเพรส สำนักข่าวที่ทำงานร่วมกับสายข่าวพลเมืองเกาหลีเหนือ ซึ่งได้รับการการันตีความน่าเชื่อถือจากดิอินดิเพนเดนต์ (The Independent)

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวของเดอะโคเรียเฮรัลด์ยังเปิดเผยเพิ่มเติมถึงสถานการณ์ตกต่ำของปัญหาสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือ หลังจากทางการตัดสินลงโทษประหารชีวิต กลุ่มผู้คนที่ชมรายการโทรทัศน์หรือฟังเพลงของเกาหลีใต้อีกด้วย

 

 

อ้างอิง

http://www.koreaherald.com/view.php?ud=20230613000705&np=3&mp=1

https://www.theatlantic.com/international/archive/2013/01/north-koreans-reportedly-turn-cannibalism-due-hidden-famine/319002/

https://www.northkoreanrefugees.com/pdfs/Hwanghae-Report-by-Asian-Press_Jan-28-2013.pdf

 

Tags: , , , , ,