เมื่อวานนี้ (9 ธันวาคม 2023) กลุ่มก่อการร้ายยึดสถานีโทรทัศน์ของรัฐในเอกวาดอร์ระหว่างที่ออกอากาศ ตามมาด้วยเหตุการณ์ลักพาตัวตำรวจและเหตุระเบิดมากกว่า 7 ครั้ง คาดว่าหัวหน้ากลุ่มค้ายาเสพติดยักษ์ใหญ่ 2 รายอาจอยู่เบื้องหลังทั้งหมด ท่ามกลางความหวาดกลัวของประเทศในอเมริกาใต้บางส่วนที่มองว่า สถานการณ์ก่อการร้ายอาจลุกลามไปทั่วภูมิภาค
เหตุการณ์เกิดขึ้นในเวลา 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ชายกลุ่มหนึ่งจำนวน 13 คนบุกเข้าไปในสตูดิโอระหว่างที่ เอลโนติซิเอโร (El Noticiero) รายการหนึ่งของสถานีโทรทัศน์ทีซีเตเลวิซิยง (TC Televisión) กำลังถ่ายทอดสด
ตามคำบอกเล่า คนร้ายสวมหมวกไหมพรม และอำพรางตนด้วยชุดสีดำ พวกเขาเข้าข่มขู่เจ้าหน้าที่และผู้ประกาศข่าวด้วยอาวุธร้ายแรงมากมาย ได้แก่ ปืนพก ปืนลูกซอง ปืนกล ระเบิดมือ และแท่งระเบิด
“ไม่มีตำรวจ” ชายคนหนึ่งในกลุ่มก่อการร้ายตะโกนให้สัญญาณบอกพรรคพวกในระหว่างการยึดสถานีโทรทัศน์
พนักงานค่อยๆ ชูมือขึ้นและนอนราบลงกับพื้นหลังถูกอาวุธจี้เข้าใส่ ขณะที่บางส่วนนั่งลงกับพื้น ก่อนที่สัญญาณโทรทัศน์จะหายไปพร้อมกับคำว่า “อย่ายิง!” ของเหยื่อรายหนึ่งในสตูดิโอ
การร้องขอความช่วยเหลือเกิดขึ้นระหว่างที่คนร้ายเดินออกไปทั่วอาคารเพื่อข่มขู่ โดย เอลยูนิเวอร์โซ (El Universo) สื่อท้องถิ่นระบุว่า ผู้ประกาศข่าวและตากล้องบางส่วนพยายามส่งข้อความในกลุ่มเพื่อขอความช่วยเหลือ
“พวกเขาอยากจะฆ่าเราให้หมด ช่วยเราที” หนึ่งข้อความที่ถูกส่งลงในกลุ่ม
อลินา มันริเก (Alina Manrique) บรรณาธิการบริหารของทีซีเตเลวิซิยง เล่าเหตุการณ์ผ่านสำนักข่าวแอสโซซิเอเต็ดเพรส (Associated Press: AP) ว่า เธออยู่ในห้องควบคุมที่อยู่ตรงข้ามสตูดิโอเกิดเหตุ ชายนิรนามกลุ่มนั้นเดินเข้ามาพร้อมนำปืนจี้ที่ศีรษะของเธอ และบอกให้เธอนอนราบกับพื้น
“ตอนนี้ฉันก็ยังตื่นตระหนกอยู่ ทุกอย่างถูกทำลายไม่เหลือชิ้นดี สิ่งที่ฉันรู้ตอนนี้คือ ถึงเวลาแล้วที่จะออกจากประเทศนี้ และหนีไปให้ไกลมากที่สุด” บรรณาธิการบริหารของทีซีเตเลวิซิยงแสดงความรู้สึก
ทางด้าน ลีโอนาร์โด ฟลอเรส (Leonardo Flores) ผู้ประกาศข่าว เผยวินาทีเฉียดตายผ่านรอยเตอร์ (Reuters) ว่า กลุ่มก่อการร้ายบุกเข้ามาในแผนกต้อนรับและทำร้ายพนักงาน ก่อนทิ้งระเบิดไว้ข้างหลังของแผนก ขณะที่บางส่วนรอดมาได้ (รวมถึงเขา) เพราะอยู่ในระหว่างการประชุม ทำให้มีช่องทางในการหลบซ่อนจากคนร้าย
อย่างไรก็ตาม คนร้ายทั้ง 13 รายถูกจับกุมตัวในข้อหาก่อการร้ายเป็นที่เรียบร้อย แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดอื่นใด นอกจากการระบุว่า ไม่มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ ขณะที่ แดเนียล โนบัว (Daniel Noboa) ประธานาธิบดีเอกวาดอร์ ออกพระราชกฤษฎีกาประกาศให้ ‘แก๊งค้ายา 20 กลุ่ม’ เป็นกลุ่มก่อการร้าย พร้อมระบุว่า ประเทศกำลังต่อสู้จากความขัดแย้งภายใน
ทว่าเหตุการณ์ร้ายแรงยังไม่จบ เมื่อเกิดการลักพาตัวตำรวจและเหตุระเบิดรวมกันราว 7 ครั้ง อีกทั้งมีรายงานที่ไม่ทราบข้อเท็จจริงอย่างแน่ชัดว่า กลุ่มก่อการร้ายรายอื่นบุกโจมตีในมหาวิทยาลัยย่านกัวยากิล (Guayaquil) และปล้นสะดมผู้คนในกรุงกีโต (Quito) เมืองหลวงของเอกวาดอร์
เบื้องต้นคาดการณ์ว่า หัวหน้าแก๊งค้ายาเสพติดขาใหญ่อยู่เบื้องหลังก่อการร้ายครั้งนี้ เมื่อ อัลโดลโฟ มาซีอัส (Adolfo Macías) หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ ฟิโต (Fito) เจ้าพ่อค้ายาเสพติดแห่งลอสโชเนรอส (Los Choneros) หายตัวไปอย่างลึกลับในวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา
ตามมาด้วยรายงานการหายตัวไปของ ฟาบริซิโอ โคโลน (Fabricio Colón) หัวหน้ากลุ่มค้ายาเสพติดลอสโลบอส (Los Lobos) และผู้ต้องสงสัยในเหตุลอบสังหาร เฟร์นันโด บิยาบิเซนซิโอ (Fernando Villavicencio) แคนดิเดตประธานาธิบดีในปี 2023
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า การหายตัวไปของฟิโตทำให้โนบัวต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมสถานการณ์ และกระจายกำลังหน่วยงานความมั่นคงในปฏิบัติการค้นหาตัว ก่อนประกาศกร้าวว่า เขาจะไม่เจรจากับผู้ก่อการร้าย และพร้อมยกการรักษาความปลอดภัยในเรือนจำ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของเขาที่เคยเกริ่นไว้ก่อนหน้าว่า จะจัดทำประชามติเพื่อเสนอมาตรการปราบปรามอาชญากรรมที่เข้มข้นขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีความกลัวว่า เหตุก่อการร้ายในเอกวาดอร์อาจขยายตัวไปทั่วภูมิภาคอเมริกาใต้ หลัง อัลแบร์โต โอทาโรลา (Alberto Otarola) นายกรัฐมนตรีเปรูประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และระบุว่า จะส่งหน่วยงานความมั่นคงเข้าตรวจสอบในบริเวณชายแดนของประเทศ สืบเนื่องจากเปรูเป็นประเทศผลิตโคเคนรายใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งเชื่อมโยงกับเอกวาดอร์ ในฐานะเส้นทางสำคัญในการขนส่งยาเสพติด
อ้างอิง
https://www.theguardian.com/world/2024/jan/09/ecuador-gangs-wave-terror-state-of-emergency
Tags: Terrorism, ลาตินอเมริกา, เปรู, เอกวาดอร์, อเมริกาใต้, ยึดสถานีโทรทัศน์, แดเนียล โนบัว, Los Lobos, Los Choneros, ขบวนการค้ายาเสพติด
