สุนทรพจน์ของ โคลด มัลฮูเรต์ (Claude Malhuret) สมาชิกวุฒิสภาฝรั่งเศส กำลังกลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ไม่กี่วันที่ผ่านมา หลัง ‘จับใจ’ ชาวอเมริกันและยุโรป ด้วยการวิจารณ์ถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายสหรัฐอเมริกาภายใต้ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ที่ละทิ้งชาติพันธมิตร และเข้าหารัสเซีย ชาติศัตรูอย่างตรงไปตรงมา โดย The Momentum ขอหยิบยกถ้อยแถลงบางส่วนมาสรุปให้ทุกคนอ่านดังต่อไปนี้
มัลฮูเรต์เปิดประเด็นว่า ยุโรปกำลังเผชิญจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ โล่กำบังของโลกอย่างสหรัฐฯ ในฐานะชาติอำนาจ กำลังพังทลายลง ยูเครนถูกทอดทิ้ง ขณะที่รัสเซียกำลังแข็งแกร่ง กลายเป็นว่า ตอนนี้สหรัฐฯ กำลังกลายเป็นจักรพรรดิเนโร ราชาผู้เผากรุงโรมให้มอดไหม้ โดยมีบริวารจอมหัวอ่อนและตัวตลกผู้มัวเมาคอยกวาดล้างและขับไล่พลเรือน
“นี่คือโศกนาฏกรรมของโลกเสรี แต่เหนือสิ่งอื่นใด มันคือโศกนาฏกรรมสำหรับสหรัฐฯ ถ้อยแถลงของทรัมป์เป็นสิ่งที่ยืนยันว่า เราไม่ควรเป็นพันธมิตรของเขา เพราะเขาจะไม่ปกป้องคุณ เขาจะขึ้นภาษีกับคุณ แทนที่จะเป็นศัตรู และขู่ว่าจะยึดครองเขตแดนของคุณ แต่กลับสนับสนุนเผด็จการที่รุกรานคุณ
“ไม่มีประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใดในประวัติศาสตร์ยอมก้มหัวให้กับศัตรู ไม่มีผู้นำคนไหนสนับสนุนผู้รุกรานชาติพันธมิตร และเหยียบย่ำซ้ำเติมรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ด้วยการออกคำสั่งผิดกฎหมาย เด้งผู้พิพากษาที่อาจขัดขาเขา หรือนายทหารระดับสูง จนบ่อนทำลายหลักการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจ และควบคุมโลกโซเชียลฯ ทั้งหมด
สว.ฝรั่งเศสย้ำว่า การเข้ามาของทรัมป์คือจุดเริ่มต้นของการบ่อนทำลายประชาธิปไตย หากตระหนักดูว่า ในอดีตเยอรมนีสูญเสียสาธารณรัฐไวมาร์และรัฐธรรมนูญภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือน 3 สัปดาห์ และ 2 วัน เท่านั้น
แม้เขายังเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันเข้มแข็งของสหรัฐฯ และความเข้มแข็งของประชาชนที่ลุกขึ้นประท้วง แต่ทรัมป์ได้สร้างความเสียหายให้กับอเมริกาภายในระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งมากกว่าการบริหารราชการแผ่นดินของประธานาธิบดีคนก่อนหน้าตลอด 4 ปี พร้อมกับย้ำว่า ขณะนี้โลกกำลังอยู่ในห้วงสงครามและเผด็จการที่ได้รับการหนุนหลังจากคนแปรพักตร์
มัลฮูเรต์ย้อนอธิบายถึงเหตุการณ์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตั้งแต่ เอ็มมานูเอล มาครง (Emmanuel Macron) ผู้นำฝรั่งเศสพบทรัมป์ที่ทำเนียบขาว, สหรัฐฯ โหวตเข้าข้างรัสเซียและเกาหลีเหนือในสหประชาชาติ (United Nations: UN), เหตุการณ์ดราม่าในห้องทำงานระหว่าง โวโลดีมีร์ เซเลนสกี (Volodymyr Zelenskyy) ผู้นำยูเครน กับทรัมป์ รวมถึงการระงับความช่วยเหลือหยุดส่งอาวุธให้ยูเครนว่า ทั้งหมดนี้เป็นการทรยศของสหรัฐฯ และยุโรปต้องเผชิญหน้ากับมัน
“โปรดจงอย่าเข้าใจผิด ความพ่ายแพ้ของยูเครนคือความพ่ายแพ้ของยุโรป ชาติแถบทะเลบอลติก จอร์เจีย และมอลโดวาอยู่ในลิสต์ของปูตินหมดแล้ว ปูตินต้องการให้โลกกลับสู่ยุคแห่งยัลตา (Yalta) ที่เกือบทั้งทวีปถูกยึดครองโดยสตาลิน
“สิ่งที่ปูตินต้องการคือการหยุดระเบียบที่สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรกำหนดไว้เมื่อ 80 ปี คือข้อห้ามรุกรานด้วยการใช้กำลัง ซึ่งเป็นหัวใจของ UN องค์การระหว่างประเทศที่ชาติอเมริกันโหวตสนับสนุนผู้รุกราน แต่ต่อต้านผู้ถูกกระทำ นั่นก็เพราะมุมมองของทรัมป์เหมือนกับปูตินคือ การกลับสู่ยุคแห่งการใช้อำนาจ และการที่มหาอำนาจสามารถกำหนดชะตากรรมของรัฐเล็กๆ
“เอากรีนแลนด์ ปานามา และแคนาดามาให้ฉันสิ แล้วนายจะได้ยูเครน บอลติก และยุโรปตะวันออก และอีกหน่อยอาจจะทะเลจีนใต้และไต้หวัน”
สว.ฝรั่งเศสย้ำว่า ขณะนี้ยุโรปกำลังยืนโดดเดี่ยว หลังทรัมป์ยื่นมือช่วยเหลือปูติน ทั้งที่รัสเซียกำลังย่ำแย่ถึงขาลง ถือเป็นกลยุทธ์ที่พังพินาศที่สุดในประวัติศาสตร์สงคราม แต่นั่นก็เป็นข้อดี เพราะชาติยุโรป ‘ตาสว่าง’ แล้ว สะท้อนจากสิ่งที่เกิดขึ้นในการประชุมความมั่นคงมิวนิกว่า ความมั่นคงยุโรปและยูเครนอยู่ในกำมือของตนเอง โดยสิ่งที่ยุโรปต้องทำมีดังต่อไปนี้
1. ช่วยเหลือยูเครนด้านการทหารแทนที่สหรัฐฯ และวางสถานะของยูเครนร่วมกับยุโรป
2. เจรจาข้อตกลง โดยมีข้อแลกเปลี่ยนคือกลุ่มคนที่ถูกลักพาตัว และข้อตกลงการันตีด้านความมั่นคง
3. สร้างกองกำลังป้องกันยุโรปเป็นของตนเอง หลังต้องพึ่งพาร่มนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 1945 เป็นต้นมา
เขายังทิ้งท้ายถึงสถานการณ์ปัจจุบันว่า ทรัมป์และกลุ่มสนับสนุนกำลังครอบงำสถาบันทางการเมืองและโซเชียลฯ ของประเทศ แต่ในประวัติศาสตร์อเมริกันที่ผ่านมาสะท้อนว่า ผู้ที่ยืนข้างเสรีภาพจะได้รับชัยชนะเสมอ เช่นเดียวกับชัยชนะของยูเครน ที่ต้องอาศัยคนอเมริกันผู้ยืนหยัดในระบอบประชาธิปไตย ขณะที่ชาวยุโรปก็ต้องรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อทำให้ทั้งภูมิภาคกลับมามีอำนาจเหมือนเดิม
“รุ่นพ่อรุ่นแม่ของเราเอาชนะลัทธิฟาสซิสม์และคอมมิวนิสม์ หน้าที่ของเราในศตวรรษที่ 21 คือการเอาชนะระบอบเผด็จการอำนาจนิยม ขอให้ยูเครนเป็นอิสระและประชาธิปไตยในยุโรปยืนยาว”
อ้างอิง:
– https://thebulletin.org/2025/03/for-this-french-senator-trump-is-a-traitor-and-europe-is-now-alone/
Tags: ยุโรป, ฝรั่งเศส, รัสเซีย, ยูเครน, สหรัฐฯ, Claude Malhuret, สหรัฐอเมริกา, อเมริกา, โดนัลด์ ทรัมป์