รมต.จีนเยือนพม่าครั้งแรกหลังรัฐประหาร เรียกร้องรัฐบาลเจรจาฝ่ายตรงข้าม หลังปราบปรามประชาชนรุนแรงขึ้น

หวัง อี้ (Wang Yi) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของจีนเดินทางไปเยือนเมียนมาครั้งแรก นับตั้งแต่มีการรัฐประหารโค่นล้มอำนาจของอองซานซูจีจากกองทัพในปี 2021 ทำให้เมียนมาตกอยู่ในความโกลาหลนับแต่นั้นมา โดยเรียกร้องให้รัฐบาลทหารจัดการเจรจากับฝ่ายตรงข้าม และคาดหวังให้ทุกฝ่ายในเมียนมา ‘ปฏิบัติตามการปรึกษาหารืออย่างมีเหตุผล’ และ ‘พยายามบรรลุความปรองดองทางการเมือง’

จีนถือเป็นหนึ่งในพันธมิตรระหว่างประเทศไม่กี่แห่งของกองทัพเมียนมา โดยตามรายงานบนเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศยังระบุว่า หวัง อี้ ได้บอกกับ วันนา หม่อง ลวิน (Wunna Maung Lwin) รัฐมนตรีต่างประเทศของเมียนมาว่า จีนหวังเป็นอย่างยิ่งที่พม่าจะมีเสถียรภาพทั้งทางการเมืองและทางสังคม

ในการประชุมกลุ่มรัฐมนตรีต่างประเทศที่เมียนมาในครั้งนี้ ยังมีตัวแทนจากกัมพูชา ไทย ลาว และเวียดนามเข้าร่วมด้วย ทั้งนี้ ความคิดเห็นดังกล่าวของ หวัง อี้ เกิดขึ้นหลังจากที่โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมาระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การเจรจาระหว่างกองทัพและอองซานซูจี ผู้นำที่ถูกรัฐประหาร เพื่อแก้ไขความวุ่นวายนั้น ‘เป็นไปไม่ได้’

ความรุนแรงในการปราบปรามประชาชนที่ทวีความรุนแรงขึ้นในเมียนมาได้จุดประกายความกังวลจากกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ก่อนหน้านี้มีความพยายามจากทูตประจำภูมิภาคที่มาเยือนเมียนมา เพื่อพยายามผลักดันการเริ่มต้นการเจรจาระหว่างกองทัพกับฝ่ายตรงข้าม นอกจากนี้ ฝั่งรัฐบาลตะวันตกที่มีการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตร หลังกองทัพเมียนมาทำการรัฐประหารและปราบปรามผู้เห็นต่างอย่างรุนแรง ก็ทำให้รัฐบาลเผด็จการทหารหันไปหาพันธมิตรอย่างจีนและรัสเซียมากขึ้น

ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กลุ่มกบฏชาติพันธุ์ที่มีอำนาจในเมียนมาซึ่งส่วนใหญ่ควบคุมอาณาเขตชายแดนอันห่างไกลและมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีน ได้เรียกร้องให้รัฐบาลทหารการเจรจากับฝ่ายตรงข้ามที่ต่อต้านการรัฐประหาร เพื่อยุติการปราบปรามที่ทวีความรุนแรงขึ้น เนื่องจากเห็นว่าผลประโยชน์ทางธุรกิจของจีนกำลังตกอยู่ในอันตราย ขณะที่จีนกล่าวในเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่าจะช่วยปกป้องอธิปไตย ความเป็นอิสระ และบูรณภาพแห่งดินแดนของเมียนมา ‘ไม่ว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไปอย่างไร’

ความรุนแรงของการปราบปรามผู้เห็นต่างในเมียนมาสร้างความกังวลให้ประชาคมโลก เดือนที่ผ่านมา (มิถุนายน 2022) องค์การสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) กล่าวว่า รัฐบาลทหารเมียนมาได้สังหารเด็กจำนวนมาก นับตั้งแต่เริ่มมีการรัฐประหารและกำจัดผู้ต่อต้าน โดยมีรายงานจากทอม แอนดรูวส์ (Tom Andrews) ผู้สื่อข่าวพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนในเมียนมาว่า เด็กหลายคนถูกทุบ ตี หรือจนถึงขั้นถูกทรมานด้วยการแทง ดึงเล็บ หรือถอนฟันออก ระหว่างถูกจับสอบสวน

จากการสนับสนุนของหน่วยงานสหประชาชาติ กลุ่มสิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรม และองค์กรภาคประชาสังคม รายงานว่า เด็ก 2.5 แสนคน ต้องพลัดถิ่นจากการสู้รบ และมีอย่างน้อย 382 คนที่เสียชีวิตหรือพิการ จากการโจมตีทางอากาศหรือปืนใหญ่

“การสังหารเด็กของรัฐบาลทหารถือเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติและอาชญากรรมสงคราม” ทอม แอนดรูวส์ กล่าว ขณะที่รัฐบาลทหารของเมียนมาปฏิเสธข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการสอบสวนและการทรมานเด็กด้วยความทารุณ ทั้งยังตำหนิสหประชาชาติและประเทศตะวันตกว่าแทรกแซงการเมืองในเมียนมา

ที่มา:

https://www.theguardian.com/…/china-calls-on-myanmar…

https://www.theguardian.com/…/myanmar-junta-accused-of…