วันนี้ (3 พฤศจิกายน 2566) ที่สำนักงานพรรคก้าวไกล เขตจอมทอง ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ ส.ส.เขตจอมทอง กรุงเทพฯ ได้ออกมาชี้แจงเป็นครั้งแรก ภายหลังถูกต้นสังกัดพรรคก้าวไกลมีมติพิจารณาคาดโทษ และยื่น 4 เงื่อนไขให้ปฏิบัติตาม เพื่อเยียวยาผู้เสียหายและแสดงความเสียใจแก่สังคม กรณีแสดงพฤติกรรมคุกคามทางเพศต่ออดีตคณะทำงานจำนวน 3 ราย โดยก่อนหน้านั้นได้เดินขอโทษต่อบรรดาพ่อค้า แม่ค้า บริเวณที่ทำการพรรคก้าวไกล เขตจอมทอง

เบื้องต้นไชยามพวานกล่าวว่า ตนเองได้ส่งเอกสารหลักฐานข้อกล่าวหาให้ทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ช.ช.) และคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) พิจารณาแล้วทั้งสิ้น และถ้าหากมีการสืบสวนว่าเป็นการคุกคามทางเพศที่ใช้อำนาจบีบบังคับจริง ก็ต้องขอโทษและน้อมที่จะยอมรับในมติลงโทษของพรรค

อย่างไรก็ตาม ไชยามพวานได้แสดงหลักฐานเอกสารต่อหน้าสื่อมวลชน เพื่อชี้แจงกรณีที่เกี่ยวข้องกับผู้เสียหายทั้ง 3 เป็นรายกรณี โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. ผู้ร้องรายแรก ซึ่งร้องเรียนว่า ถูกไชยามพวานพยายามคุกคามทางเพศ ทาง ส.ส.เขตจอมทอง ได้แสดงเอกสารที่ปรากฏในช่องแชตส่วนตัวระหว่างตนเองและคู่กรณีที่นำไปสู่เหตุการณ์ดังกล่าวว่า มาจากฝั่งผู้เสียหายที่ถามเข้ามาว่า จะยังมีการไปกินเลี้ยงหลังหาเสียงที่ไหนต่อหรือไม่ แต่ไชยามพวานได้ตอบกลับไปว่า ทีมงานคนอื่นได้ขอยกเลิกนัด ฉะนั้นถ้าไปกินเลี้ยงก็จะเหลือแค่ตนเองและผู้ร้อง แต่ผู้ร้องกลับไม่ปฏิเสธและเลือกที่จะไปกับตนเองสองต่อสอง

และภายหลังจากนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับผู้ร้องก็ยังเป็นปกติ ยังคงมีการพูดคุยและดูแลเฉกเช่นทีมงานคนอื่นๆ รวมไปถึงวันที่ตนเองชนะการเลือกตั้ง ผู้ร้องก็ยังทักแชตมาแสดงความยินดี อีกทั้งฝั่งพ่อของผู้ร้องได้นำเนกไทและเสื้อสูทมามอบให้ ซึ่งตนเองก็ได้ใส่มาแถลงในวันนี้

2. ผู้ร้องรายที่สองที่ร้องเรียนว่า ไชยามพวานได้แอบถ่ายภาพเธอขณะผูกเนกไท ขณะอยู่ด้วยกันสองต่อสองภายในห้องพักรับรอง ว่าเข้าข่ายเป็นการคุกคามทางเพศนั้น ไชยามพวานยืนยันว่า เป็นภาพถ่ายที่ตนเองถ่ายไว้สำหรับเตรียมจัดทำเป็นคอนเทนต์เพื่อลงโซเชียลมีเดีย โดยมีเนื้อหาคอนเทนต์ว่า ‘เราเป็น ส.ส.หน้าใหม่ที่ถูกเนกไทไม่เป็น’ ซึ่งคนคิดคอนเทนต์นี้คือผู้ร้องรายที่สองเอง รวมถึงมีภาพอื่นๆ ที่ยังไม่ถูกเผยแพร่ออกไป ชี้ชัดว่าตัวผู้ร้องย่อมรู้ดีว่ากำลังถูกถ่ายอยู่แน่นอน เพราะมีคลิปวิดีโอหลักฐานระหว่างที่ผู้ร้องกำลังผูกเนกไท พร้อมสนทนากับตนเองอยู่ตลอด ขณะเดียวกัน สส.เขตจอมทอง ยังแย้งว่าตนเองไม่ได้อยู่กับผู้เสียหายสองต่อสอง เพราะหากสังเกตในคลิปจะเห็นเงาของผู้ช่วยรายอื่นที่อยู่ในห้อง

นอกจากนี้ กรณีที่ปรากฏภาพสลิปเงินปริศนาในโลกโซเชียลฯ ที่ถูกคาดการณ์ว่า ตนเองได้ใช้ปิดปากผู้เสียหายรายนี้ แท้จริงเป็นสลิปเงินเดือนที่ต้องให้เป็นปกติตามบันทึกข้อตกลงร่วมงาน และเป็นเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่งที่ตนเองมอบให้ระหว่างผู้เสียหายกำลังว่างงาน

3. ผู้ร้องรายที่สาม ที่ร้องเรียนว่า ไชยามพวานได้แตะเนื้อต้องตัวและพยายามลวนลามทางเพศนั้น ขอชี้แจงว่า ยามลงพื้นที่หาเสียงหรือเวลาอื่นๆ ตนเองมักจะสัมผัสตัวกับผู้อื่นค่อนข้างมาก แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะสัมผัสตัวใคร เพื่อมุ่งเป้าประสงค์ทางเพศ และการสัมผัสตามคำร้องของผู้ร้องนั้น เป็นการสัมผัสตามปกติของเพื่อนร่วมงานด้วยกัน ไม่ใช่การสัมผัสก้าวล่วงในจุดที่พึงประสงค์

และท้ายที่สุดหากปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นจากความผิดพลาดของตนเอง โดยที่ไม่ได้คิดให้รอบคอบว่า แต่ละคนมีล้วนมีขอบเขตในการยอมรับที่แตกต่างกัน

“หากการกระทำของผมทำให้ผู้ร้องรู้สึกไม่สบายใจ และผมอาจจะไม่ได้เปิดโอกาสให้ผู้ร้องสามารถสะท้อนถึงความรู้สึกไม่สบายใจนั้นออกมาได้มากพอ ผมก็ต้องขออภัยและจะระมัดระวังตัวให้มากขึ้น ท้ายที่สุด ผมเคารพในการตัดสินใจของมติพรรค และขอให้พี่น้องสื่อมวลชนรวมถึงประชาชนร่วมพิจารณาเอกสารเหล่านี้ด้วยว่า (หยุดนิ่งครู่หนึ่ง) เป็นการเข้าข่ายพฤติกรรมคุกคามทางเพศหรือไม่

“และท้ายที่สุด ผมต้องขอโทษเพื่อนๆ ที่ทำให้วันนี้พรรคต้องมีรอยร้าวขึ้นมา และขอโทษประชาชนในพื้นที่ ที่ัเพิ่งจะนำหลักฐานออกมาให้ทราบ หลังจากเสร็จแถลงข่าว ผมก็จะไปลงพื้นที่ต่อ เพื่อไปแก้ไขปัญหาให้เสร็จเรียบร้อย ท้ายที่สุดหลังจากแถลงข่าวเสร็จ ผมก็จะยังคงเดินไปหาพี่น้องประชาชนที่ผมรัก เพื่อแก้ปัญหาให้กันต่อไป”

ช่วงท้ายของการแถลงสื่อมวลชนต่างพยายามถามถึงคำถามสำคัญ ที่ประชาชนอยากรู้ ทั้งกรณีที่มีเพื่อนร่วมพรรคกดดันให้ลาออก หรือแม้แต่การเทียบกรณีที่ ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 27 น้อมขอลาออกจากพรรคกรณีเมาแล้วขับ ทางไชยามพวานขอปฏิเสธให้คำตอบทั้งหมด หรือแม้แต่ชี้แจงความสัมพันธ์กับผู้เสียทั้ง 3 ราย ว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งมากกว่าเพื่อนร่วมงานจริงหรือไม่ ก็ขอให้พิจารณาจากเอกสารหลักฐานที่ขี้แจงไป

ส่วนคำถามว่าจะมีการลาออกหรือไม่นั้น ขอให้ทางคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบเสียก่อน โดยระหว่างนี้จะยังคงทำหน้าที่ต่อไป แต่หากตรวจสอบแล้วว่าผิดจริงตนเองก็ขอลาออกจากตำแหน่งและสมาชิกพรรคก้าวไกล

Tags: ,