ชัชชาติเล่าประสบการณ์ เคยถูกคนขับรถติงเรื่อง ‘ขี้โมโห’ ตอนเป็นแคนดิเดตนายกฯ แนะพนักงานใหม่ กทม. อย่าค้างอยู่บน ‘ภูเขาแห่งความโง่’

วันนี้ (24 มิถุนายน 2565) ที่ห้องบางกอก ชั้น B2 อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 (ดินแดง) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ให้โอวาทกับผู้สอบแข่งขันได้บรรจุใหม่ ตอนหนึ่ง โดยยกตัวอย่างเรื่อง Dunning-Kruger Effect ซึ่งชัชชาติอธิบายว่าเป็น ‘ภูเขาแห่งความโง่’

สำหรับภูเขาแห่งความโง่ (Mount Stupid) คือการอธิบายว่า หากเพิ่งเริ่มทำงาน ความมั่นใจจะเป็นศูนย์ แต่พอมีประสบการณ์เพิ่มขึ้น ความมั่นใจจะพุ่งกระฉูด และพุ่งจนมั่นใจมากจนหยุดที่จะเรียนรู้ต่อ แล้วสุดท้าย คนๆ นั้นก็จะค้างบนภูเขาแห่งความโง่ คือเรารู้น้อยแต่มั่นใจเยอะ อาจไม่ใช่คุณหรอก อาจเป็นหัวหน้าคุณ คนที่มีตำแหน่งเยอะ จะค้างอยู่บนภูเขาแห่งความโง่ เพราะหยุด และคิดเสมอว่าตัวเองเจ๋งแล้ว

“อย่างผมอยู่ตรงนี้เอง ยอมรับว่าโง่ในหลายเรื่อง ต้องถามเขา ต้องถามให้มากที่สุด อย่าไปค้างอยู่บนภูเขาแห่งความโง่ คือรู้น้อยแต่มั่นใจเยอะ ต้องถาม ต้องพัฒนาตัวเองตลอด แล้วสุดท้ายเราจะรู้จริง”

ชัชชาติยังได้อธิบายเรื่องการ ‘คิดใหม่’ ว่า ทุกอย่างต้องเริ่มจากการอ่อนน้อมถ่อมตน อ่อนน้อมถ่อมตนว่าไม่รู้ ต้องอยากรู้อยากเห็น แล้วก็หาความรู้เพิ่ม โดยช่วงเวลาที่ดีที่สุด คือช่วงเวลาที่เป็น ‘น้องใหม่’ เพราะหากทำงานไปเรื่อยๆ นานๆ จะถามยากแล้ว และถึงจุดหนึ่งก็จะกลายเป็นอยู่บนภูเขาแห่งความโง่

“ถ้าถามไปเรื่อย สุดท้ายคุณจะเก่งขึ้น ให้ถ่อมตนต่อสิ่งที่มี และยำเกรงต่อสิ่งที่ไม่รู้ อันนี้คือสิ่งที่ผมคิดตลอด ผมเป็นผู้ว่าฯ ผมไม่เคยคิดว่าผมรู้เยอะ เจอใครผมก็ยกมือไหว้ถามตลอด เพราะผมคิดว่ามีคนที่รู้มากกว่าเราอีกเยอะ ให้ Unlearn what you have learned”

ชัชชาติยังบอกอีกว่า ช่วงที่หาเสียงในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เมื่อปี 2562 ตอนแรกไม่มีคนขับรถ ต้องขับรถหาเสียงเองทั่วกรุงเทพฯ จากนั้น พรรคได้เตรียมรถมาให้หนึ่งคัน พร้อมกับมีคนขับรถให้

“บางทีก็ไปช้า ไปผิดที่ เราก็โมโห ผมก็ดุเขาบ้าง บางทีผมก็อารมณ์ร้ายเหมือนกัน ผมเองบางทีก็ดุเหมือนกัน อยู่กับเขาเดือนหนึ่ง จนกระทั่งวันหนึ่ง น้องคนขับรถ ขับรถมาส่งผมที่บ้าน 3 ทุ่ม จำได้เลยว่าเหนื่อย ไปปราศรัยมา ก่อนลงจากรถ น้องคนนี้ก็หันหน้ามาบอกผม น้องเขาก็บอกว่า ‘อาจารย์จะเป็นคนดีมากกว่านี้เยอะนะ ถ้าอาจารย์จะลดความดุ ความฉุนเฉียวลง’

“เฮ้ย ผมเลยคิดเลย เด็กก็กล้าพูดนะเว้ย ในอีกแง่หนึ่ง กูเป็นแคนดิเดตนายกฯ นะเว้ย ไอ้นี่เด็ก 30 เอง แต่อีกแวบหนึ่ง เราขอบคุณเขานะ มันทำให้คุณคิดใหม่แล้วได้ปรับปรุงตัว ต้องดีใจถ้ามีคนบอกข้อเสีย ข้อด้อย อยากให้คุณปรับปรุงตัวยังไง ถ้าไม่ใช่เรื่องจริง ก็ยิ่งดี ไม่ต้องไปกังวล ถ้าเรื่องจริง ก็ปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น ฉะนั้น ถ้ามีคนมาคอมเมนต์ มาบอกอะไรเรา อย่าไปถือว่าเขาว่าเรา ถือว่าเขาให้สิ่งที่มีค่ากับเรา ฉะนั้น เพื่อนร่วมงานมีอะไร ผมว่าพูดตรงๆ สุดท้าย ทุกคนจะได้ได้ปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น”