วันธรรมดาของ ‘สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์’ หรือที่คุ้นหูกันในชื่อสถานีกลางบางซื่อ ศูนย์กลางการเดินรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีสภาพบรรยากาศสุดแสนเงียบเหงา และกลายเป็นภาพคุ้นชินของผู้ผ่านไปผ่านมา

สถานีรถไฟแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาความแออัดของสถานีรถไฟเดิมอย่าง ‘สถานีรถไฟกรุงเทพ’ หรือ ‘หัวลำโพง’ ด้วยงบประมาณกว่า 3.4 หมื่นล้านบาท เปิดให้บริการอย่างไม่เป็นทางการครั้งแรกเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา มีบทบาทสำคัญเป็นศูนย์กลางการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงการแพร่ระบาด สมัย อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

กลับมายังปัจจุบัน ชุมทางรถไฟแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ นี้ กลับมีผู้ใช้บริการไม่มากเท่าที่ควร ไม่ว่าจะด้วยการเปิดไม่เต็มรูปแบบ เพราะไม่สามารถปิดสถานีรถไฟหัวลำโพงได้ กระทั่งสถานีบางซื่อเดิมก็ยังให้บริการอยู่ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยของความไม่สะดวกในการเดินทาง สถานที่ตั้งของสถานีที่ไม่ได้อยู่ใกล้กับจุดสำคัญของเมือง ทำให้สถานีกลางแห่งนี้ไม่ได้เป็นศูนย์กลางการเดินทางตามศักยภาพอย่างที่ควรจะเป็น

ก่อนหน้านี้มีความพยายามจัดประมูลสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ ให้เป็นจุดศูนย์กลางระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง (Transit Oriented Development: TOD) และพัฒนาพื้นที่โดยรอบให้เป็นศูนย์การค้า เฉกเช่นเดียวกับสถานีรถไฟใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น ที่มีทั้งห้างสรรพสินค้า โรงแรม และออฟฟิศอยู่ด้วยกัน โดยก่อนหน้านี้มีรายงานว่า บริษัท เปรม กรุ๊ป เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล แต่จนถึงวันนี้ยังไม่ได้มีความคืบหน้าในการจัดการเชิงพื้นที่มากนัก

ทั้งนี้ ทีมช่างภาพของ The Momentum ลงพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ สำรวจเหล่าผู้เดินทางและคนไร้บ้านบางส่วนที่มาอาศัยบริเวณที่นั่งพักคอยนอกสถานี เพื่อพักผ่อนและนอนหลับ โดยทีมช่างภาพเข้าไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่ของสถานีโดยตรง ได้ใจความว่า ผู้โดยสารสามารถนั่งหรือนอนได้ในพื้นที่พักคอยหากมี ‘ตั๋ว’ เดินทางไปยังสถานีปลายทางอื่นๆ แต่หากไม่มีตั๋วการเดินทาง เจ้าหน้าที่จะขอความร่วมมือไม่ให้มานอนบริเวณที่พักคอยแห่งนี้

อย่างไรก็ตาม ปัญหาคนไร้บ้านมาพักพิงที่สถานีรถไฟเช่นนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นที่สถานีกลางนี้เป็นครั้งแรก แต่เคยเกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยศูนย์กลางการเดินรถไฟยังอยู่ที่หัวลำโพง 

ด้านตัวเลขคนไร้บ้านในกรุงเทพฯ นับวันยิ่งเพิ่มสูงขึ้น โดยข้อมูลจากสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี 2566 เปิดเผยว่า มีตัวเลขสูงถึง 1,200 คน นับเป็นกว่า 50% ของคนไร้บ้านทั้งประเทศ ซึ่งปัญหานี้ก็ยังรอการแก้ไขอย่างยั่งยืนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอยู่เสมอมา

Tags: , , , ,