วันนี้ (17 กันยายน 2025) สหราชอาณาจักรจับขบวนป่วน โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) หลังฉายภาพประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคู่กับ เจฟฟรีย์ เอปสไตน์ (Jeffrey Epstein) เศรษฐีผู้ต้องหาคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็ก บนพระราชวังวินด์เซอร์ เพื่อประท้วงการมาเยือนอังกฤษ

ทรัมป์มีกำหนดการเยือนสหราชอาณาจักรเป็นเวลา 2 วัน เพื่อเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 (King Charles) และพบ เคียร์ สตาร์เมอร์ (Keir Starmer) นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เป็นเวลา 2 วัน โดยในตาราง ผู้นำสหรัฐฯ จะนั่งรถม้าไปรับประทานอาหารที่พระราชวังวินด์เซอร์ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1,000 ปี และชมการแสดงเครื่องบินผาดโผนของกองทัพอังกฤษ 

อย่างไรก็ตามเกิดเหตุชุมนุมต้านการมาเยือนของทรัมป์หน้าพระราชวังวินด์เซอร์ หลังประชาชนบางส่วนมองว่า ราชวงศ์และรัฐบาลอังกฤษเอาอกเอาใจทรัมป์มากเกินไป โดยในช่วงเช้ามีผู้ถือป้ายแสดงข้อความด่าทอผู้นำสหรัฐฯ เช่น The Tyrant came to the tea (ทรราชมาดื่มชา) หรือ 1933 Germany 2025 USA (เปรียบเทียบสหรัฐฯ ในปัจจุบันกับเหตุการณ์ในปี 1933 ที่เยอรมนีเข้าสู่ระบอบเผด็จการ หลังนาซีเยอรมนียึดอำนาจ) ขณะที่กลุ่มเคลื่อนไหว Everyone Hates Elon นำภาพผ้าใบ ‘ทรัมป์-เอปสไตน์’ มาปูบนทางเดินของพระราชวัง 

การประท้วงเริ่มยกระดับในช่วงค่ำ หลังมีการฉายโปรเจกเตอร์ภาพอดีต 2 เพื่อนรักลงบนปราสาท โดยสำนักข่าว The Independent รายงานว่า มีทั้งภาพทรัมป์กับเอปสไตน์อยู่ที่คฤหาสน์มาร์ลาอาโก (Mar-a-Lago) ที่ฟลอริดาในปี 1997 หรือภาพ ‘Mug Shot’ ของผู้นำสหรัฐฯ ที่โด่งดังจนกลายเป็นไวรัลในช่วงปี 2020

เบื้องต้นตำรวจท้องถิ่นจับกุมผู้ก่อเหตุ 4 รายในข้อหา ‘แสดงออกอย่างอันตราย’ โดยอธิบายว่า ทางการไม่อนุญาตให้ทำกิจกรรมที่ร้ายแรงใดๆ รอบพระราชวัง ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการสอบสวน และจะแจ้งให้ทราบในภายหลัง

เป็นที่รู้กันดีว่า ทรัมป์กำลังถูกขุดคุ้ยความสัมพันธ์ส่วนตัวกับเอปสไตน์ โดยล่าสุด สส.พรรคเดโมแครต (Democratic Party) 8 ราย แฉผู้นำสหรัฐฯ ด้วย ‘จดหมายวันเกิด’ ที่ทรัมป์เขียนส่งให้เอปสไตน์ แต่กลับมีภาพโป๊เปลือยของผู้หญิง พร้อมกับลายเซ็นของเขา ขณะที่ทางการสหรัฐฯ ปฏิเสธว่า ไม่ใช่ทรัมป์ ทั้งที่ The Wall Street Journal พิสูจน์ด้วยการเทียบลายเซ็นทรัมป์ทั้งหมด ยิ่งทำให้สาธารณชนสงสัยว่า ประธานาธิบดีปกปิดอะไรบางอย่างหรือไม่ 

นอกจากนี้การเยือนอังกฤษของทรัมป์ในครั้งนี้ยังเชื่อมโยงกับอาชญากรล่วงละเมิดทางเพศเด็ก หลังทางการปลด ปีเตอร์ แมนเดลสัน (Peter Mandelson) เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำสหรัฐฯ ออก เพราะมีความเกี่ยวข้องกับคดีเอปสไตน์ ยังไม่รวมราชวงศ์อังกฤษอย่างกรณีเจ้าชายแอนดรูว์ (Prince Andrew) ที่ถูกยื่นฟ้องในคดีล่วงละเมิดทางเพศพร้อมเอปสไตน์ในปี 2019 อีกด้วย

เชื่อกันว่า สตาร์เมอร์ต้องการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างสหราชอาณาจักรกับสหรัฐฯ ภายใต้ทรัมป์ ผ่านการพบปะครั้งนี้ โดยทั้ง 2 ประเทศเตรียมลงนามในข้อตกลงด้านเทคโนโลยีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ปัญหาระหว่างประเทศอย่างภาษี หรือสงครามรัสเซีย-ยูเครน อังกฤษก็ยังต้องอาศัยบทบาทของสหรัฐฯ ในการช่วยเหลืออยู่

อ้างอิง:

https://www.reuters.com/business/media-telecom/white-house-says-it-would-support-forensic-analysis-alleged-trump-signature-2025-09-09/

https://www.reuters.com/world/us/four-arrested-after-trump-epstein-images-projected-onto-britains-windsor-castle-2025-09-16/

https://www.cnbc.com/2025/09/16/trump-jeffrey-epstein-windsor-castle-us-uk.html

https://www.dailystar.co.uk/news/latest-news/trump-protests-start-early-fume-35913836

https://www.aljazeera.com/news/2025/9/16/us-president-donald-trump-arrives-in-uk-for-second-state-visit

Tags: , , , , , ,