ยกฟ้อง ‘เจ๊ปอง’ และพวก ปิดคดีม็อบบุก NBT หลังผ่านมา 17 ปี น้องชาย ‘สนธิ’ ติดคุกคนเดียว

วันนี้ (19 กันยายน 2568) ศาลฎีกามีคำพิพากษา ‘ยกฟ้อง’ เจ๊ปอง-อัญชะลี ไพรีรัก ผู้ประกาศข่าวอาวุโส พร้อมด้วย ภูวดล ทรงประเสริฐ และยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที ในกรณีคดีร่วมบุกยึดสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) ในช่วงม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อขับไล่ สมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีจากพรรคพลังประชาชน เมื่อปี 2551 โดยมีความผิดฐานร่วมบุกรุกในเวลากลางคืน

อย่างไรก็ตาม ชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล น้องชายของสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตร จำเลยอีกรายในคดี ศาลฎีกาพิพากษาให้จำคุกเป็นเวลา 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา

สำหรับในคดีความดังกล่าว ศาลชั้นต้นเคยพิพากษาลงโทษจำเลยไปเรียบร้อยแล้วเมื่อปี 2563 โดยสั่งจำคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา ต่อมาจำเลยทั้ง 4 คนยื่นต่อศาลอุทธรณ์เพื่อต่อสู้ในคดีความต่อ และศาลอุทธรณ์ยืนตามคำสั่งศาลชั้นต้น ทำให้ 4 จำเลยยื่นคำฎีกาเพื่อต่อสู้ในคดี โดยได้รับการประกันตัวคนละ 2 แสนบาท

โดยก่อนเข้าไปฟังคำพิพากษาในช่วงเวลาประมาณ 08.40 น. อัญชะลีกล่าวต่อสื่อมวลชนว่า เตรียมตัวมาแล้ว หากผลคำพิพากษาออกมาเป็นลบ ตนก็น้อมรับ เนื่องจากที่ผ่านมาทั้งตนและทีมกฎหมายทำดีที่สุดแล้ว พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมในเรื่องสุขภาพและศึกษาการใช้ชีวิตในเรือนจำมาก่อนแล้วเป็นอย่างไร

ทั้งนี้ในวันเดียวกันมีรายงานว่า ภูวดลไม่สามารถเดินทางมายังศาลอาญา รัชดาได้ เนื่องจากป่วยติดเตียงอยู่ที่โรงพยาบาล ศาลจึงหารือและเห็นว่า ควรให้ พานิต ทรงประเสริฐ ผู้เป็นภรรยา เดินทางมาแถลงข้อเท็จจริงแทน ทำให้จำเป็นต้องเลื่อนการพิพากษาจากเดิมที่จะเกิดขึ้นในช่วงเช้าของวันเป็นช่วงบ่ายแทน

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จำเลยทั้ง 4 คน รวมทั้ง สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว และพวกอีก 85 คน บุกรุกเข้าไปยังอาคารสำนักงานสถานีโทรทัศน์ NBT จากนั้นทำลายประตูหน้าต่าง ตัดสายไฟฟ้า ควบคุมระบบไฟฟ้า ระบบโทรศัพท์ ตลอดจนทำลายระบบการออกอากาศโทรทัศน์และสั่งพนักงาน NBT ไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่และไล่ออกจากอาคาร