AI ไม่ได้เป็นเพียงเทคโนโลยี แต่คือกติกาใหม่ของโลก นี่คือหนึ่งในประโยคสำคัญที่สะท้อนหัวใจของเวที Thailand Vision ‘AI : Ultimate Opportunity or Opponent’ ซึ่ง The Momentum จัดขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 9 ปี
ค่ำคืนที่โรงแรม Hilton Bangkok Grande Asoke เต็มไปด้วยพลังแห่งการแลกเปลี่ยน เมื่อเหล่าผู้บริหาร นักธุรกิจ และคนรุ่นใหม่มาร่วมกันตั้งคำถามต่ออนาคตของมนุษย์ในยุคที่เทคโนโลยีเรียนรู้ไวกว่า และอาจคิดแทนเราได้ในบางเรื่อง
ภายในงานได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ บรรยายในหัวข้อ ‘Adaptation and Transformation in the Age of AI’ ว่าด้วยการปรับตัวและเปลี่ยนผ่านของมนุษย์ในโลกยุคใหม่
ตามมาด้วย คมสันต์ ลี ประธานกรรมการบริหารกลุ่มธุรกิจแฟลช และผู้ก่อตั้ง Flash Express ที่เล่าถึงบทบาทของ AI ในการพลิกโฉมอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ทั่วโลก โดยย้ำว่าแม้ AI จะมีประโยชน์มหาศาล แต่ก็ยังไม่สามารถทดแทนมนุษย์ได้ทุกด้าน
และ Tony Fernandes ผู้ก่อตั้ง AirAsia และ AirAsiaX ที่มาแบ่งปันมุมมองด้านการบริหารองค์กรในยุคข้อมูลและ AI ภายใต้หัวข้อ ‘Management in the AI Generation’ ถ่ายทอดวิสัยทัศน์ของผู้นำที่ต้องขับเคลื่อนองค์กรท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของยุคปัญญาประดิษฐ์
จากห้องทดลองสู่โลกธุรกิจ เมื่อ AI ไม่ใช่เรื่องของอนาคตอีกต่อไป
Reza Sadri แห่ง AI Bootcamp จาก California Institute of Technology (Caltech) รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ขึ้นพูดในหัวข้อ AI-Threat or Opportunity? How Businesses Can Learn to Adapt ที่ชวนให้ผู้ฟังมอง AI ในมุมที่ต่างไป จากสิ่งที่เคยเป็นงานวิจัยในห้องทดลอง สู่เครื่องมือที่กำลังนิยามรูปแบบการทำธุรกิจใหม่ทั่วโลก
Reza กล่าวว่า AI ไม่ได้เป็นเพียงระบบอัตโนมัติ แต่คือสมองดิจิทัลที่เรียนรู้จากข้อมูล เพื่อคาดการณ์ สร้างสรรค์ และตัดสินใจแทนมนุษย์ได้
อีกทั้งยังอธิบายความต่างระหว่าง Automation กับ Artificial Intelligence ว่า ขณะที่ระบบอัตโนมัติทำงานตามคำสั่งที่มนุษย์ตั้งไว้ ทว่า AI กลับคิดได้ด้วยตัวเองจากข้อมูลมหาศาลที่เรียนรู้ตลอดเวลา พร้อมบอกว่า องค์กรที่จะอยู่รอดได้ในยุคนี้ ต้องรู้จักใช้ AI ไม่ใช่แค่เพื่อลดต้นทุน แต่เพื่อสร้างนวัตกรรมและโอกาสใหม่ๆ
ทว่าในอีกด้านหนึ่ง การใช้ AI อย่างไร้ทิศทางอาจสร้างภัยเงียบให้ธุรกิจได้เช่นกัน ตั้งแต่ความเสี่ยงด้านข้อมูล ไปจนถึงการขาดบุคลากรที่เข้าใจเทคโนโลยีจริงๆ
AI Trend เทคโนโลยีที่เรียนรู้มนุษย์มากขึ้นทุกวัน
ในช่วงต่อมา กล้า ตั้งสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด ชวนผู้ฟังมองไปข้างหน้า สู่คลื่นลูกต่อไปของ AI ที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว จากยุคของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ไปสู่ State Space Model และ On-device AI เทคโนโลยีที่ทำให้เครื่องจักรไม่เพียงเข้าใจคำสั่งของมนุษย์ แต่เข้าใจบริบทของมนุษย์ได้ลึกขึ้นกว่าเดิม
กล้าอธิบายว่า ความสามารถของ AI กำลังขยายจากการคิดตามโจทย์ที่มนุษย์ป้อน ไปสู่การจำลองและคาดการณ์พฤติกรรมมนุษย์ในระดับที่ละเอียดขึ้น ผ่านเครื่องมือที่ Wisesight เรียกว่า Virtual Persona โมเดลจำลองผู้บริโภคเสมือนจริงที่ผสานข้อมูลจากหลายแหล่ง เพื่อทดสอบแนวคิดทางการตลาดหรือพฤติกรรมการซื้อขายได้โดยไม่ต้องใช้คนจริง
เขาเสริมว่า การสร้าง AI ที่เข้าใจมนุษย์อย่างแท้จริงนั้น ต้องผ่าน 3 ความท้าทายสำคัญ ได้แก่
Training – การฝึกสอนโมเดลด้วยข้อมูลจริง เพื่อให้เข้าใจโลกในมิติที่หลากหลาย
Model Architecture – การออกแบบโครงสร้างของโมเดล AI ที่จะใช้สร้าง Persona จำลองให้แม่นยำ
On-device – การทำให้โมเดลทำงานได้บนอุปกรณ์โดยตรง ไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ตลอดเวลา เพื่อความเร็วและความปลอดภัยของข้อมูล
เทคโนโลยีเหล่านี้กำลังเปลี่ยนวิธีที่องค์กรเรียนรู้ลูกค้า จากการพึ่งพาแบบสอบถามหรือโฟกัสกรุ๊ปแบบเดิม สู่การทดลองกับแบบจำลองดิจิทัลที่ตอบสนองได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งอาจช่วยให้การพัฒนาผลิตภัณฑ์และการตลาดเร็วขึ้น หลักแหลมขึ้น และเข้าใจมนุษย์มากขึ้น
เมื่อ AI ไม่ใช่คู่แข่ง แต่คือคู่คิดของมนุษย์ในโลกธุรกิจ
เวทีปิดท้ายของงานเป็นการแลกเปลี่ยนจาก 3 ผู้นำในแวดวงธุรกิจไทย ได้แก่ ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ จาก EfraStructure, กวีวุฒิ เต็มภูวภัทร จาก SCB 10X และ Ben Heuze จาก Primal Thailand ที่มาร่วมถอดบทเรียนและกลยุทธ์การปรับตัวขององค์กรในยุคที่ AI กำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของทุกอุตสาหกรรม
แม้แต่ละคนมาจากคนละสายงาน ตั้งแต่เทคโนโลยี สตาร์ทอัพ ไปจนถึงเอเจนซีดิจิทัล แต่ทุกเสียงกลับเห็นพ้องกันในประเด็นที่ว่า AI ไม่ใช่สิ่งที่ควรถูกปิดกั้นหรือหวาดกลัว หากแต่เป็นเครื่องมือที่เมื่อใช้ให้ดี ใช้ให้เป็น จะสร้างคุณค่าและโอกาสใหม่ให้ทั้งองค์กรและสังคม
จากมุมของ SCB 10X การใช้ AI ไม่ได้หมายถึงการแทนที่คน แต่คือการเสริมศักยภาพให้พนักงานตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น จากประสบการณ์ของภาวุธ ผู้ผ่านยุคดอตคอมจนถึงยุค AI เขาเชื่อว่าทุกเทคโนโลยีล้วนสร้างโอกาสใหม ให้คนที่พร้อมเรียนรู้ก่อนใคร ส่วน Ben Heuze ชี้ว่า ในโลกที่ข้อมูลขับเคลื่อนทุกอย่าง แบรนด์หรือธุรกิจที่เข้าใจ AI และยังคงความเป็นมนุษย์ได้ ก็จะยิ่งโดดเด่นท่ามกลางพลังอันดุดันของอัลกอริทึม
บทสนทนาในช่วงสุดท้ายจึงสรุปได้ว่า อนาคตของ AI ไม่ได้อยู่ที่ว่าใครจะใช้มันเก่งที่สุด แต่คือใครที่เข้าใจและรู้วิธีอยู่ร่วมกันได้ดีที่สุด เพราะเมื่อมนุษย์มอง AI เป็นคู่คิดมากกว่าคู่แข่ง เทคโนโลยีก็จะกลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของธุรกิจและสังคมในยุคใหม่
ทั้งหมดนี้คือบทสนทนาที่สะท้อนคำถามสำคัญที่ว่า มนุษย์จะอยู่ร่วมกับ AI อย่างไร และจะใช้ศักยภาพของมันสร้างโลกที่ดีกว่าได้เพียงใด ในปีที่ 9 ของ The Momentum นี่คืออีกหนึ่งก้าวสำคัญที่เราอยากชวนทุกคนมาร่วมกันมองไปข้างหน้า สู่โลกที่ไม่อาจปฏิเสธ AI ได้อีกต่อไป
Tags: ปัญญาประดิษฐ์, Momentum At 9, AI : Ultimate Opportunity or Opponent, AI