พลังแห่งการให้จะยิ่งใหญ่ได้ ต้องเกิดขึ้นจากความร่วมมือและการเสียสละของทุกคนทุกฝ่าย ด้วยเหตุผลนี้ มูลนิธิรามาธิบดี ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้มุ่งมั่นที่จะเป็นแรงผลักดันเพื่อให้สังคมไทยเกิดพลังแห่งการให้ ผ่านการจัดทำของที่ระลึกที่ทันสมัย สวยงาม ถูกใจทั้งผู้ให้และผู้รับ

ที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือจากนักออกแบบไทยหลายคน เพื่อสร้างสรรค์ผลงานจากการตีความของคำว่า ‘การให้..    ไม่สิ้นสุด’ เพื่อระดมทุนนำเงินไปช่วยเหลือคนอื่นๆ ผ่านโครงการต่างๆ ของมูลนิธิรามาธิบดีฯ

งานที่ทำด้วยใจ

ติ้ว-วศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ ศิลปินรางวัลศิลปาธร ปี พ.ศ.2553 สาขาการออกแบบ เจ้าของและอาร์ตไดเรคเตอร์ โรงงานผลิตเครื่องปั้นเซรามิคเถ้าฮงไถ่ศิลปินที่มีชื่อเสียง ผู้สร้างสรรค์งานปั้นรูปแบบต่างๆ อย่างมากมาย และแก้ม-มลลิกา เรืองกฤตยา ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์ Kloset คือสองนักออกแบบไทยที่เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์ผลงานกับมูลนิธิรามาธิบดีฯ มาหลายปี

แก้ม-มลลิกา เรืองกฤตยา เล่าว่า ได้รับการชักชวนจากทางคุณพรรณสิรี คุณากรไพบูลย์ศิริ ผู้จัดการมูลนิธิรามาธิบดีฯ ให้มาช่วยออกแบบลายของที่ระลึก เช่น กระเป๋าถือ กระเป๋าเดินทาง เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับผู้ซื้อที่จะนำมาใช้เอง หรือการส่งต่อให้ผู้รับได้เกิดความประทับใจ

“เราทำงานกับมูลนิธิรามาธิบดีฯ มาไม่ต่ำกว่า 5 ปีแล้ว ออกแบบไปทั้งหมด 5 ลายด้วยกัน ตอนที่ได้รับชวนมาทำ เราไม่คิดเลย ตอบรับทันที จำได้ว่าครั้งแรกที่ออกแบบไป ได้รับการตอบรับดีมาก มีการต่อคิวซื้อ รับฝากซื้อก็มี กลายเป็นกระแสขึ้นมา แล้วทุกครั้งที่ออกแบบลายให้กับมูลนิธิรามาธิบดีฯ ต้องผ่านการกลั่นกรองอย่างดี ไม่ใช่ทำไปอย่างนั้น เราบอกกับตัวเองว่าของมันต้องขายได้ คนต้องอยากซื้อ”

ขณะที่วศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ เล่าถึงการมีส่วนร่วมกับมูลนิธิรามาธิบดีฯ ว่าได้รับการชักชวนจากคุณ ชลิต นาคพะวัน ศิลปินวาดภาพ มาทำงานศิลปะเพื่อระดุมเงินเพื่อจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ในโครงการศูนย์ปลูกถ่ายอวัยวะ และสร้างอาคารศูนย์การแพทย์สิริกิติ์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

“ตอนที่ได้รับการชวนให้มาทำ เราคิดว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ได้มีส่วมร่วมกับมูลนิธิรามาธิบดีฯ ตอนนั้นเราคิดและทำเป็นกระปุกออมสิน ตีโจทย์การบริจาคว่า สิ่งสำคัญคือเรื่องของเงินและชีวิต ซึ่งการทำเป็นกระปุกออมสินให้คนสามารถใส่เงินบริจาคลงไปให้ จะทำให้เขามีส่วมร่วม ได้ช่วยเหลือคนด้วย”

ส่งต่อแรงบันดาลใจจากผู้ให้สู่ผู้รับ

ในฐานะเจ้าของแบรนด์แฟชั่น Kloset แก้ม-มลลิกาก็ได้เผยถึงแนวคิดในการออกแบบลายให้กับสินค้าของมูลนิธิรามาธิบดีฯ ว่า “โดยปกติในการออกแบบเราอยากจะสื่อถึงความสดใส อารมณ์ดี มองโลกในแง่บวก แม้ลายจะสวย แต่ถ้าดูทะมึนๆ เราว่ามันไม่ค่อยดี ส่วนใหญ่เลยคิดจะทำให้คนเห็นว่าน่ารัก สวย และดูมีความสุข เพราะเป็นเรื่องของการให้ เลยต้องเป็นสิ่งที่คนอยากจะมอบให้อื่น”

“ปีล่าสุดเป็นลายสุนัขนั่งเล่นลูกโป่ง คือเราคิดว่าสุนัขเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด ก็ทำให้ออกมาดูสดใส น่ารัก ส่วนสินค้าก็แล้วแต่ทางมูลนิธิรามาธิบดีฯ ว่าจะเอาลายที่ออกแบบไปทำอะไร มีตั้งแต่กระเป๋าเอนกประสงค์รูปทรงต่างๆ รวมถึงหมวกแก๊ป”

ด้านนักออกแบบเซรามิกอย่างวศินบุรีก็เผยถึงการเลือกทำกระปุกว่า ครั้งแรกที่ทำเป็นกระปุกเซรามิกรูปอวัยวะหัวใจเพ้นท์สีขาวกับสีทอง เกิดจากความคิดว่าชีวิตซื้่อได้ด้วยเงิน แต่เป็นเงินที่มาจากใจ

“ครั้งแรกที่ทำงานศิลปะเป็นกระปุกเซรามิก เราคิดว่า เงินที่ใส่เข้าไปของแต่ละคน ไม่ต้องมากมาย เราทำช่องหยอดเหรียญที่มีขนาดเท่าเหรียญ 1 บาท เพราะเราอยากให้คนใส่แค่ 1 บาท โดยไม่ต้องคิดว่ามันจะมากหรือน้อย เมื่อรวมกันก็จะได้เป็นเงินก้อนใหญ่ที่มีพลัง”

“ครั้งที่สองเราทำกับมูลนิธิรามาธิบดีฯ ในโครงการ “ทุกพื้นที่มีการให้…ไม่สิ้นสุด” เราก็เลยทำเป็นกระปุกหมูลูกโป่ง อย่างแรกเลยเราเกิดปีหมูด้วย เราคิดว่าเราเลือกช่วยคนให้มีชีวิตที่ดีขึ้นได้ ไม่ต้องมากไปหรือน้อยไป มีความพอดี เช่นเดียวกับลูกโป่งที่ต้องสมดุล ถ้าเป่าลมเข้ามากไป ลูกโป่งก็แตก”

ผลงานล่าสุดของวศินบุรีที่ร่วมกับมูลนิธิรามาธิบดีฯ เพื่อนำรายได้ไปสมทบทุนช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ และก่อสร้างสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เขาได้ออกแบบ ‘ต้นโกงกาง’ ที่มีลวดลายต่างๆ ขึ้นมาเพื่อสื่อว่า หลายคนที่ทำบุญมักจะเจาะจงกับการทำบุญมากเกินไป ต้นโกงกางที่มี 6 ราก จะให้คนหยอดเงินลงไปโดยไม่รู้ว่า เงินจะลงไปในช่องไหน เพื่อให้คนตระหนักว่าการทำบุญ เราไม่ต้องเจาะจงเสมอไป

เพราะการให้คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่

แก้ม-มลลิกา ดีไซเนอร์สาวกล่าวว่า เธอรู้สึกว่าการให้เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และรู้สึกดีใจ ที่ได้มีโอกาสช่วยเหลือผู้อื่น ผ่านความสามารถที่ตนเองมี

“คนที่มาซื้อสินค้าที่ระลึกที่เราออกแบบ แล้วนำไปให้คนอื่น เราคิดว่าคนรับก็มีความสุขนะที่ได้ของสวยๆ มันก็จะเกิดการส่งต่อไปเรื่อยๆ”

“ในชีวิตส่วนตัว นอกจากการทำบุญทำทานเป็นประจำอยู่แล้ว การให้ของเราคือการให้ความรู้ ทุกครั้งที่มีเชิญให้ไปสอนเรื่องแฟชั่น, กรรมการตัดสิน หรือเวลาเด็กรุ่นใหม่มาขอคำแนะนำ เราไม่เคยปิดบังเลย ยินดีเผยแพร่มากๆ เพราะกว่าเราจะทำให้ธุรกิจของเรามีกำไรก็ยังใช้เวลาถึง 6 ปี ผ่านการเรียนรู้ ลองผิดลองถูกในยุคที่ไม่มีใครบอกเรา ไม่เหมือนปัจจุบันที่มีอินเทอร์เน็ต มีการจัดเวิรคช็อป เรารู้สึกว่าการให้ของแต่ละคน ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน ถ้าไม่มีกำลังเงิน เราสามารถให้อย่างอื่นที่มีประโยชน์กับคนได้เช่นกัน”

วศินบุรีบอกว่า การให้ในมุมมองของเขาไม่จำเป็นต้องทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ควรจะเริ่มจากเล็กๆ น้อยๆ ทำด้วยความสบายใจและมีความพอดี

“สำหรับผม การทำตรงนี้ ไม่จำเป็นต้องมากมาย หรือเลือกที่จะรอโอกาสของการให้ ไม่ต้องรอผลที่ยิ่งใหญ่ เราสามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่ตอนนี้ ทำทีละอย่าง เพราะการให้เหมือนกับการออกแบบ ที่เราออกแบบทางเดินให้กับใครสักคน”

มูลนิธิรามาธิบดี กับการผลักดันโครงการโรงพยาบาลแพทย์แห่งใหม่

ที่ผ่านมา มูลนิธิรามาธิบดีฯ จะระดมทุนเพื่อสนับสนุนให้การทำงานของโรงพยาบาลรามาธิบดีมีความคล่องตัว โดยมีปลายทางเพื่อหวังให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเหลือประชาชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์

ล่าสุด คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มีโครงการที่จะสร้างสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ ซึ่งจะเป็นทั้งโรงพยาบาล โรงเรียนสอนแพทย์ และสถาบันอบรมความรู้ด้านการเสริมสร้างสุขภาพ จะตั้งอยู่ที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

มูลนิธิรามาธิบดี ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงรับหน้าช่วยระดมทุน สนับสนุนการทำงานของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี  บนจุดยืนที่จะทำให้เรื่อง ‘การให้’ เป็นเรื่องง่าย ๆ ที่ไม่ว่าใครก็ทำได้

Fact Box

ร่วมบริจาคสมทบทุน มูลนิธิรามาธิบดี ได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ บัญชีกระแสรายวัน สาขารามาธิบดี เลขที่บัญชี 026-3-05216-3

Tags: ,