วันนี้ (15 กรกฎาคม 2567) ที่บ้านดุสิตธานี ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย ณัฐภาณุ์ ศรียุกต์สิริ รองประธานฝ่ายกลยุทธ์การออกแบบและงานครีเอทีฟ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) และสมเกียรติ โล่ห์จินดาพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด (A49) ร่วมแถลงเปิดตัวโรงแรมแห่งใหม่ในโครงการมิกซ์ยูส ‘Dusit Central Park’ หลังใช้เวลากว่า 5 ปีในการปรับโฉมครั้งใหญ่ของโรงแรมที่เป็นพื้นที่รับรองแขกบ้านแขกเมืองมาตลอดกว่า 50 ปี อย่าง ‘โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ’
ศุภจีกล่าวว่า การปรับโฉมโรงแรมครั้งนี้อยู่ภายใต้แนวคิด An Icon Reimagined ที่จะทำให้โรงแรมกลับมายิ่งใหญ่เหมือนเดิมในบริบทของยุคใหม่ เพื่อให้ได้มาตรฐานที่ดีขึ้น โดยยังคงรักษาเป็นเอกลักษณ์ของโรงแรมไว้ แต่มีการเติมนวัตกรรมล้ำสมัยเข้าไป เพื่อให้กลายเป็นโรงแรมของคนไทยที่ดีที่สุด และทำให้โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ เป็นโรงแรมที่สร้างความภูมิใจแก่คนทั้งประเทศ
“ความหมายของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ไม่ใช่เฉพาะเพียงรูปลักษณ์ การออกแบบ แต่ยังหมายถึงการต้อนรับอย่างอบอุ่น และการให้บริการด้วยมาตรฐานดุสิตธานี ซึ่งเป็นแบรนด์ไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก ที่มุ่งมั่นนำเสนอความเป็นไทย ทั้งในแง่ศิลปะ วัฒนธรรม และเสน่ห์ความเป็นไทย ที่สอดคล้องกับกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าว
ด้านณัฐภาณ์ุกล่าวถึงความท้าทายการปรับโฉมครั้งนี้ว่า อยู่ที่การออกแบบที่มีโจทย์ว่า ต้องรักษาแบรนด์และความเป็นตัวตนของดุสิตธานีที่มาในรูปโฉมใหม่ และทันทีที่ลูกค้าก้าวเข้ามาจะต้องสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและความจริงใจ
การออกแบบจะต้องเก็บรักษาชิ้นงานเก่าและสร้างสรรค์ชิ้นใหม่ โดยจะต้องตีโจทย์จากอดีตให้กลายเป็นปัจจุบันและเชื่อมโยงไปสู่อนาคต
“ลูกค้าจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกพิเศษตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งที่สะท้อนคาแรกเตอร์ของเมือง เพื่อให้เป็นสถานที่สร้างความทรงจำที่ดีสำหรับแขก โดยทุกพื้นที่จะมีความสวยงาม ไม่มีมุมอับหรือถูกบดบัง” รองประธานฝ่ายกลยุทธ์การออกแบบและงานครีเอทีฟระบุ
ขณะที่สมเกียรติเล่าถึงการแบ่งฟังก์ชันของอาคารว่า จะต้องมีความสอดคล้องกับยุคปัจจุบันและอนาคต ขณะเดียวกันยังคงต้องรักษาคาแรกเตอร์เดิมเอาไว้ นอกเหนือจากรูปร่างอาคารที่เปลี่ยนจากรูปทรงสามเหลี่ยมเป็นสี่เหลี่ยมที่สูงถึง 39 ชั้นแล้ว โรงแรมจะต้องมีขนาดห้องพักที่กว้างมากขึ้น พร้อมวิวสวนลุมพินีอย่างเต็มที่ รวมถึงมี Rooftop Bar และ Sky Lobby ให้ผู้เข้าพักได้มาสัมผัสบรรยากาศของเมืองที่สวยงามอย่างเต็มที่ แต่ขณะเดียวกันโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งใหม่ ยังต้องรักษาจิตวิญญาณเดิม อย่างยอดเสาสีทอง น้ำตก 9 ชั้น และสวนเมืองร้อนที่ดุสิตธานีเคยทำไว้เมื่อ 50 ปีไว้ได้อย่างลงตัวอีกด้วย
สำหรับโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งใหม่ เป็นโครงสร้างอาคารสีทองสูงถึง 39 ชั้น ประกอบด้วยห้องพักตั้งแต่ระดับดีลักซ์ ไปจนถึงห้องสวีต รวมแล้วกว่า 257 ห้อง โดยแต่ละห้อง ผู้เข้าพักจะสัมผัสได้ถึงความเรียบหรู โอ่อ่า กว้างขวาง และมีเอกลักษณ์ความเป็นไทยร่วมสมัยที่ลงตัว โดยได้รับการออกแบบภายในจากสตูดิโอออกแบบตกแต่งภายในชั้นนำของเอเชียอย่าง ‘Andre Fu Studio’ และได้ ‘P49DEESIGN AND ASSOCIATES’ มาดูแลชั้นพิเศษอย่าง Heritage Floor อีกด้วย
