การต่อสู้ครั้งใหม่ในยุคสมัยที่ไม่มีวันกลับเป็นเหมือนเดิมของ ‘ดุสิตธานี’

ภูเก็ต เมืองที่ถูกพูดถึงทั้งในเรื่องความสวยงาม ความรุ่มรวยทางธรรมชาติ ผ่านทั้งภูเขาและทะเล มีวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ และพึ่งพา ‘นักท่องเที่ยว’ ต่างชาติเป็นหลัก เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบจากโรคโควิด-19 ได้ และเมื่อเน้นนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก เมื่อโรคระบาดกินเวลาต่อเนื่อง และยาวนาน เมืองที่พึ่งการท่องเที่ยวเป็นหลักจึงได้รับผลกระทบหนักมากกว่าใครๆ

เวลานี้สถานการณ์ดีขึ้นจากเดิมมาก อย่างที่ว่าไว้ว่าผู้คนเริ่มออกมาใช้ชีวิตตามปกติ ภูเก็ตที่แทบจะเป็นเมืองร้างอยู่ชั่วขณะหนึ่งเตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง กลายเป็นว่านอกจากชะตากรรมเรื่องโรคระบาด ภูเก็ตยังต้องพบกับความคิดเห็นทางการเมืองที่เลี่ยงไม่ได้ ทั้งการเมืองระดับโลกอันเป็นผลพวงจากเหตุการณ์รัสเซียบุกโจมตียูเครน ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะชาวยุโรปพากันยกเลิกการจองโรงแรมและบริการในภูเก็ตเสียยกใหญ่ รวมไปถึงการเมืองในประเทศที่คุกรุ่นไม่แพ้กัน

ขณะที่ชื่อเสียงจาก ‘คนไทย’ ที่มีต่อภูเก็ตลดลง ทั้งข่าวค่าบริการแท็กซี่ หรือลีมูซีนจากสนามบินภูเก็ตไปยังพื้นที่อื่นๆ ทั่วจังหวัดที่มีราคาสูงพอๆ กับตั๋วเครื่องบิน ทำให้เวลาที่อยากไปเที่ยวทะเลสวยๆ บางคนจึงตัดสินใจเลือกไปจังหวัดอื่นแทน เพื่อหลีกเลี่ยงความไม่สบายใจ หรือความกระอักกระอ่วนใจที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างอยู่ในทริปท่องเที่ยว แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีคนไทยอีกไม่น้อยที่ยังคงพึงใจกับทะเลและความเป็นมิตรของชาวภูเก็ต ไม่ได้ติดใจอะไรกับประเด็นดังกล่าว และพร้อมไปท่องเที่ยวหรือวางทริปพักผ่อนในทุกพื้นที่ของประเทศไทย

เครือดุสิตธานีที่มีโรงแรมอยู่ในหลายจังหวัดของประเทศไทย รวมถึงการมีโรงแรม ดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต ในหาดบางเทาของภูเก็ต มองเรื่องนี้ต่างออกไป พวกเขามองว่า หากตัด ‘ภาพลบ’ ของภูเก็ตออกไป สิ่งที่จะทำให้ผู้คนที่ปันใจออกไปจากภูเก็ตกลับมายังภูเก็ตอีกครั้ง คือการบริการและธรรมชาติสวยงามที่เป็นต้นทุนมาตั้งแต่ต้น

การบริการในพื้นที่ขนาดใหญ่ติดชายหาด เวิ้งทะเลที่สวยไม่เป็นรองใคร พร้อมเป็นมุมเล็กๆ ให้พักใจหรือใช้ซ่อนตัวจากวันที่เหนื่อยล้า หรือทำให้ผู้มาเยือนได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ประทับใจ ครบจบทุกความต้องการจนให้คนคนหนึ่งทำทุกอย่างที่อยากทำโดยแทบจะไม่ต้องออกจากที่พัก ได้ทุกอย่างที่ตอบโจทย์การพักผ่อนหย่อนใจ ย่อมเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ที่อยากพักผ่อนพักใจอยู่แล้วยอมเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง

หากทำได้ครบทุกอย่างตามที่ว่ามา แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาเที่ยว

“กีฬา ปาร์ตี้ริมหาด และอาหารชั้นเลิศ” การปรับตัวเข้าหา ‘คนรุ่นใหม่’ ของดุสิตธานี

ไปทะเลบางคนอยากนอน แต่หลายคนก็อยากเล่นน้ำ

ใครใคร่นอนก็นอนไป ส่วนใครใคร่อยากถูกคลื่นทะเลซัดก็ลองเล่นเจ็ทบอร์ดไฟฟ้าดูสักครั้งก็คงดี

หนึ่งในการปรับตัวที่โดดเด่นที่สุดของดุสิตธานีเห็นได้จากการที่ ดุสิต ธานี ลากูน่า ภูเก็ต จัดกิจกรรมใหญ่ช่วงฤดูร้อนตลอดสองเดือน เพราะหากสังเกตให้ดี โรงแรมห้าดาวแห่งนี้แทบไม่เคยจัดกิจกรรมใดๆ ในลักษณะนี้มาก่อน เพราะพวกเขามั่นใจในการบริการที่ได้มาตรฐาน อาหารชั้นเลิศ และการมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันรอต้อนรับผู้มาเยือน ตอนนี้โลกไม่เหมือนเดิมอีกแล้วทั้งสงครามโรคระบาดและสงครามในภาคพื้นยุโรป การปรับตัวเพื่อไปต่อจึงถือเป็นการกระทำที่มีวิสัยทัศน์และจำเป็นอย่างยิ่ง ดุสิตธานีจึงเริ่มจัดแคมเปญสั้นๆ ที่ภูเก็ตโดยชื่อว่า Simply Amazing เพื่อลองเปิดตลาดผู้ใช้บริการของตัวเองให้กว้างขึ้นกว่าเดิม

ในยุคนี้กีฬาทางน้ำประเภทต่างๆ ถือเป็นหนึ่งในเทรนด์ที่มาแรง คนรุ่นหนุ่มสาว คนวัยผู้ใหญ่ ไปจนถึงคนวัยเก๋า หันมาลองเล่นกีฬาทางน้ำมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เซิร์ฟบอร์ด วินด์เซิร์ฟ ไคท์เซิร์ฟ ซับบอร์ด เวคบอร์ด ขี่เจ็ตสกี ขับเรือ พายเรือคายัค แล่นเรือใบ หรือเล่นพาราเซลลิง ลอยตัวอยู่กลางอากาศชมบรรยากาศท้องทะเลแบบ bird’s eye view

เราเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ลองเล่นเซิร์ฟบอร์ดที่ทะเลภูเก็ตจนติดใจคลื่นลูกใหญ่ของที่นี่ ทำให้ทุกๆ ปี ต้องแวะเวียนมาเล่นกีฬาที่จังหวัดนี้ แม้จะเคยเจออุปสรรคเรื่องราคาค่าบริการรถรับส่ง ราคาสินค้าและบริการบางประเภทที่แพงหูฉี่ แต่คลื่นลูกใหญ่ หาดสีสวย และคนคอเดียวกันที่รอพบเจออยู่ริมหาด ก็ทำให้เราใจอ่อนแทบทุกครั้งไป และตอนนี้กลายเป็นว่าดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต มีกิจกรรมทางน้ำมาให้บริการนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องออกไปไหนไกล เพราะสามารถเดินไปเช่าบอร์ดแล้ววิ่งลงทะเลหน้าหาดได้เลย พร้อมกับมีผู้เชี่ยวชาญด้านกีฬาทางน้ำที่พร้อมดูแลอยู่ตลอดเวลา

แม้จะเคยเล่นกีฬาทางน้ำบางประเภทมาบ้าง แต่เจ็ทบอร์ดไฟฟ้าถือเป็นของใหม่สำหรับเรา เพราะไม่ใช่ว่าจะไปทะเลที่ไหนแล้วจะสามารถเจอเครื่องเล่นนี้ได้ง่ายๆ ‘เซียน’ จาก Zak Extreme ผู้ให้บริการด้านกีฬาทางน้ำและมีอาณาจักรเป็นของตัวเองแถบย่านสุวรรณภูมิบอกกับเราว่า ตอนนี้ประเทศไทยมีเจ็ทบอร์ดไฟฟ้า Lampuga Air เพียง 4 เครื่องเท่านั้น โดยราคาขายเครื่องเล่นดังกล่าวอยู่ที่ราวๆ 499,000- 520,000 บาท และเธอได้นำเจ็ทบอร์ดไฟฟ้าสองเครื่องมาไว้ที่ ดุสิต ธานี ลากูน่า ภูเก็ต ให้ทุกคนที่สนใจได้ลองเล่นกันจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม หรือหากวันไหนมีคลื่นลูกใหญ่ ก็สามารถเช่าบอร์ดเพื่อเล่นเซิร์ฟได้ หรือวันไหนคลื่นลมสงบก็สามารถเช่าซัพบอร์ดหรือเรือคายัคแล้วนำเครื่องเล่นที่ชอบวิ่งลงทะเลไปได้เลย

หากเล่นกิจกรรมทางน้ำจนอิ่มหนำ อยากออกไปขับรถเล่นเปิดหูเปิดตา สำรวจธรรมชาติที่สวยงามของเกาะภูเก็ต ทาง ดุสิต ธานี ลากูน่า ภูเก็ต ก็มีรถพร้อมให้บริการเช่นกัน ทั้งรถยนต์ Peugeot 5008 ไปจนถึง BMW Series 5 ที่หากจองห้องพักในแคมเปญ Simply Amazing ก็สามารถนำรถยนต์ไปขับได้หนึ่งวันเต็มๆ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม และขอแนะนำว่าให้ลองขับขึ้นเขาไปยังหาดในทอนที่อยู่ไม่ไกลจากโรงแรม เพราะระหว่างขับขึ้นเขา เมื่อมองลงมาจะได้พบกับวิวทะเลมุมสูงสุดลูกหูลูกตา เคล้าด้วยวิวป่าไม้สีเขียวเข้มตลอดทาง ทำให้การขับรถครั้งนี้เพลินตามากกว่าที่คาดไว้ และยังมีสถานที่สวยๆ อย่างสะพานไม้ที่ซ่อนตัวอยู่กลางหุบเขาแล้วทอดยาวลงมายังชายหาดรอให้เราได้ไปเยี่ยมเยียนอีกด้วย  

หลังออกไปตะลุยกับกิจกรรมต่างๆ มาทั้งวัน การได้รับประทานอาหารเย็นเลิศรสพร้อมกับชมพระอาทิตย์ตกดิน ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด เราได้พบกับ ‘ลูคัส’ เชฟลูกครึ่งฝรั่งเศส-บราซิล วัย 32 ปี ที่สั่งสมประสบการณ์การทำงานเป็นเชฟในโรงแรมหลายแห่ง ทั้ง ออสเตรเลีย ยุโรป อเมริกาใต้ มัลดีฟส์ และแคริบเบียน นอกจากนี้ เขายังมีโอกาสได้ฝึกฝนทักษะการทำอาหารภายใต้การแนะนำของ อเลน แซนเดอเรนส์ (Alain Senderens) พ่อครัวชั้นนำของฝรั่งเศส ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสามารถในการจับคู่อาหารกับไวน์ ในร้านอาหาร Lucas Carlton ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่ได้รับดาวมิชลิน 2 ดาว

ก่อนดุสิตธานีจะดึงตัวลูคัสมาเป็นเชฟที่ ดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต เพื่อให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสประสบการณ์ทางอาหารที่ไม่ซ้ำใครกับ ‘5-course set dinner’ ของเชฟลูคัส ที่พิถีพิถันตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบชั้นนำ เนื้อวัวที่ดีที่สุด ชีสที่ดีที่สุด อาหารทะเลที่ดีที่สุด ประกอบเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ในการทำให้เมนูในแต่ละจานมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ทั้งซอสรสชาติต่างๆ ที่เขาทำเอง ทุกจานกินคู่กับไวน์ขาวและไวน์แดงสัญชาติไทย ไหนจะการพรีเซนต์อาหารแต่ละจานที่ชวนลุ้น ไปจนถึงของหวานที่ถูกปากอย่างที่สุด ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของโรงแรมที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

ไม่เพียงเท่านี้ ในทุกๆ เช้าที่เรามุ่งหน้าไปยังห้องอาหาร เราจะเห็นเชฟลูคัสทักทายผู้คน หมั่นถามเรื่องรสชาติอาหาร พักหนึ่งเขาไปยืนคุมเชฟที่กำลังทำออมเล็ตให้แขก อีกชั่วครู่หนึ่งเขาก็ไปยืนทำก๋วยเตี๋ยว ตกเย็นก็พบเขาอีกครั้งในคอร์สดินเนอร์ แสดงให้เห็นว่าเชฟลูคัสจะดูแลความเรียบร้อยของอาหารทุกจานด้วยตัวเอง พร้อมกับรอยยิ้มที่จะทำให้ทุกคนได้ลิ้มลองความอร่อยที่เขาสรรค์สร้าง

“เลม่อนโซจู เตกีล่า โมฮิโต้ หรือจะเป็นเบียร์สดเย็นๆ สักแก้วก็คงดี”

การนั่งดูพระอาทิตย์ตกทะเล เฝ้ามองช่วงเวลาที่ท้องฟ้าค่อยๆ เปลี่ยนสีจากฟ้ากลายเป็นส้ม เคล้าดนตรีสดไพเราะที่ขับกล่อมจนดวงอาทิตย์ลับลาแล้วเปลี่ยนให้ทั้งท้องฟ้าเป็นสีดำ ปล่อยตัวปล่อยใจให้ลมพัดพาไป กับเครื่องดื่มเย็นๆ สักแก้ว นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสุดโปรดของใครหลายคน

เดิมที ดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต มีบาร์เล็กๆ คอยให้บริการผู้ชื่นชอบที่จะลิ้มลองเครื่องดื่มสูตรใหม่ๆ หรือเบียร์สดเย็นชื่นใจสักแก้วสองแก้ว แต่ในช่วงโควิด-19 ทำให้พวกเขามองว่าแค่นั้นอาจยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้คนที่แวะเวียนเข้ามา ภายใต้แคมเปญ Simply Amazing ทำให้ในทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เราจะพบกับดนตรีสดจากวงดนตรีท้องถิ่น ที่พร้อมบรรเลงเพลงสากลในยุคสมัยต่างๆ ไล่มาตั้งแต่ยุค 60s 70s 80s 90s มาจนถึงดนตรียุคปัจจุบัน ส่วนช่วงดึกจะเป็นช่วงมิกซ์เพลงของดีเจ โหมให้ความสนุกคึกคักไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ หวนให้นึกถึงความทรงจำหลากหลาย เสียงขับกล่อมของวงดนตรีชั้นยอด นักร้องระดับคุณภาพ กับเสียงคลื่นกระทบฝั่ง ทั้งหมดคือการพักใจที่หลายคนตามหา

ใครจะคิดว่าวงดนตรีกับบูธดีเจริมหาดที่เป็นส่วนตัว จนสร้างความประทับใจได้ขนาดนี้

เราเห็นความพยายามเปลี่ยนแปลง เห็นความพยายามดิ้นรนต่อสู้ของพวกเขาทุกคน ทั้งพนักงานตัวเล็กๆ ไปจนถึงผู้บริหารระดับสูง ที่อยากให้ดุสิตธานีได้ยืนหยัดอย่างมั่นคงต่อไปพร้อมความเป็นเพื่อนกับผู้คนทุกเพศทุกวัย เมื่อไรที่ต้องการพักผ่อนหย่อนใจ ต้องการหลีกหนีชีวิตที่แสนเหนื่อยหน่าย พวกเขาพร้อมจะเป็นหนึ่งในตัวเลือก เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่สร้างความสบายใจด้วยการบริการและกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นเพื่อรองรับทุกความต้องการ  

ใครที่กำลังคิดว่าอยากจะหลีกหนีความวุ่นวายไปพักผ่อนช่วงซัมเมอร์ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ริมทะเล นอนตากแดดจนผิวแทน หรือหมกตัวอยู่ในห้องมองดูวิวทะเลสุดลูกหูลูกตาผ่านหน้าตาบานใหญ่ แต่ก็ยังโหยหาการทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งการขับรถเล่นในพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคย เล่นกีฬาทางน้ำจนหมดแรง สัมผัสเมนูแปลกใหม่ที่สร้างสรรค์จากวัตถุดิบชั้นดี นั่งดูพระอาทิตย์ยามเย็นที่ย้อมสีท้องฟ้าให้กลายเป็นสีแดง และปาร์ตี้ริมหาดกับผู้คนที่มาพักผ่อนเหมือนกัน

เราที่เคยได้พบเจอกับเรื่องราวทั้งหมดที่ว่ามาใน ดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต รู้สึกว่าพื้นที่แห่งนี้ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยไปกว่าที่ไหนๆ

และไม่แน่ว่าสักวัน เราอาจจะพบกันในพื้นที่ของดุสิตธานีก็เป็นได้