เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 เมษายน 2562 ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) จากกรณีที่ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินคดีกับปิยบุตรในสองข้อหา ได้แก่ ประมวลกฏหมายอาญามาตรา 189 ฐานดูหมิ่นศาล และพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) การนำเข้าสู่ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ จากกรณีแถลงการณ์เรืองยุบพรรคไทยรักษาชาติ

ก่อนที่เขาจะเข้าไปรับฟังข้อกล่าวหากับเจ้าหน้าที่ ปิยบุตรให้สัมภาษณ์ว่า ตลอดเวลาที่เป็นอาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิยาลัยธรรมศาสตร์กว่า 16 ปี เคยเป็นแต่พยานไม่เคยโดนข้อกล่าวหาใดๆ แต่เมื่อมาทำงานการเมืองกับพรรคอนาคตใหม่ได้ไม่ถึงปี กลับกลายเป็นผู้ต้องหาในทันที อย่างไรก็ตาม เขายืนยันว่าถ้อยคำการวิพากษ์ที่ได้กล่าวไปนั้น เป็นไปในเชิงวิชาการ ไม่มีเจตนาโจมตีหรือหมิ่นประมาท อีกทั้งมั่นใจในกระบวนการยุติธรรมของไทยและเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะมอบความยุติธรรมให้

ในวันนี้ มีประชาชนมามารอมอบดอกไม้และให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก และมีตัวแทนจากองค์กรสหประชาชาติ (UN) และ อังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชน เข้ามาร่วมสังเกตุการณ์

ข้อกล่าวหาเรื่องปิยบุตรหมิ่นศาล

จนกระทั่งเวลาประมาณ 13.30 น. นายปิยบุตร แสงกนกกุล เดินทางออกจากห้องรับฟังข้อกล่าวหาและให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ได้รับอำนาจจากทีมกฎหมายของ คสช. ให้กล่าวหาตน ซึ่งเป็นเรื่องที่มีนัยยะประหลาด เนื่องจาก ผู้มอบอำนาจให้กล่าวหาตนเป็นทั้งหัวหน้า คสช. และแคนดิเดตนายกฯ ซึ่งเป็นคู่แข่งทางการเมืองของพรรคอนาคตใหม่

ปิยบุตรกล่าวว่า ในข้อกล่าวหาตามมาตรา 198 ว่าด้วยการดูหมิ่นศาล โดยปกติแล้วผู้พิพากษาจะเป็นผู้มายื่นฟ้องร้องเอง แต่ในกรณีนี้ กลับเป็น คสช. ที่เป็นผู้กล่าวหา และเมื่อถามว่าศาลรัฐธรรมนูญคิดเห็นอย่างไร พนักงานสืบสวนตอบว่า ศาลรัฐธรรมนูญปัดให้เป็นดุลพินิจของศาลยุติธรรม

ข้อกล่าวหาเรื่องผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

ทางด้านข้อกล่าวหาตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) การนำเข้าสู่ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จจากคำแถลงการณ์ของพรรคอนาคตใหม่กรณียุบพรรคไทยรักษาชาติ ปิยบุตรประหลาดใจเล็กน้อย เนื่องจากในคำกล่าวหาของ พ.อ.บุรินทร์ มีข้อความหลายส่วนที่เขาไม่ได้พูดเช่นนั้น พร้อมกล่าวว่า “ถ้าหากจะกล่าวโทษผม กรุณากล่าวให้ตรงตามที่พูดด้วย”

ทั้งนี้ เขาแสดงความกังวลใจเนื่องจาก พนักงานสอบสวนเร่งรัดให้เข้ามาพบอีกครั้งในวันที่ 25 เมษายนนี้หรือเพียง 9 วันข้างหน้า ซึ่งเป็นระยะเวลาที่กระชั้นชิดและไม่ปกติ เมื่อเขาถามถึงประเด็นนี้ พนักงานสอบสวนตอบเพียงว่า ผู้ใหญ่เร่งรัดมา

ปิยบุตรกล่าวว่า ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตย ที่อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน ทุกคนควรมีสิทธิ์ที่จะวิพากษ์วิจารณ์การทำงานขององค์กรที่ใช้อำนาจรัฐ ไม่ว่าจะเป็น รัฐสภา คณะรัฐมนตรี หรือศาล โดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งถ้าหากตนได้รับโทษในครั้งนี้ อาจจะกลายเป็นบรรทัดฐานที่แปลกประหลาดในการตัดสินของศาลครั้งต่อๆ ไปได้ เพราะเขาโดนกล่าวหาว่าดูหมิ่นตุลาการ โดยผู้ที่กล่าวหาก็มิใช่ตัวผู้พิพากษา แต่กลับเป็นรัฐบาลคสช. ซึ่งเขามองไม่เห็นว่าเกี่ยวอะไรด้วยในกรณีนี้

Tags: , ,