กระทรวงกลาโหมเตรียมจัดหาที่อยู่ในฐานทัพทหาร ให้กับเด็กผู้อพยพที่ไม่มีผู้ปกครอง

ดังที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ ว่ารัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ มีมาตรการพรากลูกจากพ่อแม่ ทำให้มีเด็ก 2,500 คนต้องแยกจากพ่อแม่ แต่หลังมีเสียงวิจารณ์หนัก ทรัมป์ก็ยอมลงนามในคำสั่งยับยั้งนโยบายนี้ไปเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. และล่าสุด มอบหมายให้รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม จิม แมททิส “ใช้มาตรการตามกฎหมายเท่าที่มี” เพื่ออำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีกระทรวงมาตุภูมิในการดำเนินการด้านที่อยู่และการดูแลครอบครัวผู้อพยพ

ในคำชี้แจงต่อสภา เพนตากอนกล่าวว่า คืนวันพุธที่ 20 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขและบริการประชาชน สอบถามว่ามีเตียงนอนพอที่จะให้เด็กๆ หรือไม่ ในช่วง “ต้นเดือนกรกฏาคมถึงธันวาคม 2018” ซึ่งโฆษกทหารกล่าวเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ว่า เพนตากอนสนับสนุนข้อเสนอนี้ 

ดูเหมือนแผนนี้จะคล้ายกับแผนของรัฐบาลโอบามาเมื่อปี 2014 ที่จัดหาที่อยู่ให้กับเด็กที่ไม่มีผู้ปกครอง 7,000 คนในสามฐานทัพ ในโอกลาโฮมา เท็กซัส และแคลิฟอร์เนีย

ในรอบนี้ ตัวแทนจากกระทรวงสาธารณสุขฯ เข้าตรวจสอบฐานทัพสามแห่งในเทกซัส และประเมินสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน รวมถึงมีแผนที่จะตรวจสอบฐานทัพอากาศในอาร์คันซอด้วย

เมื่อถูกถามถึงนโยบายของรัฐบาลทรัมป์ที่พรากลูกจากพ่อแม่ รัฐมนตรีกลาโหมบอกว่า “มีคนที่ต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้”

เวลานี้ มีเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปีราว 2,300 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็กและทารกซึ่งจะได้รับการดูแลเป็นพิเศษ

ผู้อำนวยการฝ่ายสิทธิและความยุติธรรมต่อผู้ย้ายถิ่น คณะกรรมการผู้อพยพหญิงบอกว่า คำสั่งที่ออกมาขัดแย้งกันเป็นตัวอย่างหนึ่งของปัญหาจากรัฐบาลนี้ ที่มักประกาศนโยบายที่สำคัญมากโดยไม่มีแผนการรองรับ

ขณะที่ยังมีความสับสนว่ารัฐบาลจะยอมให้เด็กเจอพ่อแม่เมื่อใด โฆษกของรัฐบาลกล่าวว่ายังไม่มีการดำเนินการในตอนนี้ ซึ่งขัดกับคำพูดของเจ้าหน้าที่อาวุโสที่เคยบอกไว้ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมยังปฏิเสธรายงานที่ออกมาจากหน่วยงานอื่นที่บอกว่า การดำเนินคดีอาญากับครอบครัวที่เข้าเมืองผิดกฎหมายถูกยกเลิกชั่วคราว

เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมยืนยันในประกาศว่า “นโยบายความอดทนเป็นศูนย์ยังไม่เปลี่ยนแปลง ยังดำเนินคดีกับผู้ใหญ่ที่ข้ามแดนผิดกฎหมายแทนที่จะขอลี้ภัยทุกด่านที่อยู่ตามชายแดน

 

ที่มา:

ที่มาภาพ: REUTERS/Jose Luis Gonzalez

Tags: ,