แม้ในปัจจุบันประเทศไทยจะมีศิลปินในวงการสื่อสร้างสรรค์ที่เต็มไปด้วยศักยภาพมากมาย ทว่าพวกเขาเหล่านั้นกลับไม่ได้รับโอกาสที่เพียงพอจากภาครัฐ ดังนั้น Soho House คลับเฮาส์ชื่อดังจึงเล็งเห็นโอกาส ที่จะเข้ามาสร้างปฏิสัมพันธ์ให้คนในวงการศิลปะ เพื่อสนับสนุนชาวครีเอทีฟไทยให้ไปไกลในระดับโลก

จึงกลายเป็นที่มาของ Soho House Bangkok คลับเฮาส์สำหรับชาวครีเอทีฟในประเทศไทย ที่ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่สำหรับสังสรรค์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการจัดกิจกรรมต่างๆ ให้สมาชิกที่ทำอาชีพเกี่ยวข้องกับการสร้างสรรค์ได้เข้าร่วม

เดิมที Soho House ก่อตั้งโดย นิก โจนส์ (Nick Jones) ในปี 1995 ที่ขณะนั้นกำลังทำธุรกิจร้านเบอร์เกอร์บริเวณย่านโซโฮ เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ เวลานั้นเขาเกิดไอเดียที่ว่า อยากจะสร้างพื้นที่ให้คนครีเอทีฟได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือสังสรรค์ร่วมกัน ทำให้ Soho House จึงเกิดขึ้นมา โดยยึดหลักความเป็น ‘บ้าน’ เพื่อสร้างความรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเอง ในปัจจุบันมีบ้านทั้งหมด 43 บ้านทั่วโลกใน 14 ประเทศ โดยไทยเป็นประเทศที่ 3 ของเอเชีย ต่อจากอินเดียและฮ่องกง

แม้ว่า Private Club ในภาพจำของใครหลายคน อาจทำให้นึกถึง Sport Club อันเป็นพื้นที่ของเหล่าไฮโซไว้พบปะสังสรรค์ หรือทำกิจกรรมร่วมกัน อย่างไรก็ตาม Soho House Bangkok นั้นไม่ได้คำนึงถึงฐานันดรของสมาชิก แต่ให้ความสำคัญกับความสร้างสรรค์มากกว่า เพราะที่นี่คือพื้นที่ของ ‘คนครีเอทีฟ’ เพื่อคนครีเอทีฟ

วันนี้ The Momentum พูดคุยกับ ทัศน์วศิน ขจีนิกร Membership Menager ของ Soho House Bangkok ที่จะมาเปิด Private Club ใจกลางสุขุมวิท 31 แห่งนี้ว่ามีอะไรน่าสนใจ จนเหล่าคนครีเอทีฟต้องเดินทางมาสักครั้งหนึ่ง

สำหรับ Soho House Bangkok เป็นอาคาร 3 ชั้นสไตล์โคโลเนียล ที่รีโนเวตมาจากโครงสร้างอาคารเดิมซึ่งเคยเป็นโรงแรม โดยบรรยากาศภายนอกปกคลุมไปด้วยต้นไม้ ที่ให้ความรู้สึกถึงความสงบและเป็นส่วนตัว นอกจากนั้นยังมีการออกแบบภายในที่เกี่ยวโยงกับความเป็นประเทศเขตร้อนของไทย

“เวลาพูดถึงเมืองไทย คนก็จะนึกถึงความทรอปิคอล รีสอร์ต (Tropical Resort) ที่ให้ความรู้สึกสบายทั้งร่างกายและจิตใจ ดังนั้นเราจึงอยากคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ตรงนี้อยู่ จึงจะเห็นได้จากที่ตัวเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดถึงจะเป็นแบรนด์ของโซโฮ แต่ว่าความพิเศษคือบ้านเราร่วมมือกับจิม ทอมป์สัน เพราะฉะนั้นผ้าหุ้มเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมด ผ้าหุ้มปลอกหมอน รวมถึงวอลล์เปเปอร์ ก็จะมีความเป็นไทยมากยิ่งขึ้น”

เมื่อผ่านประตูหน้าเข้ามาภายในจะสังเกตเห็นแผนกต้อนรับ ก่อนที่จะเข้าไปถึงโซน Garden Bar ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นโซนหลัก อันมีพื้นที่สำหรับนั่งเล่น กินดื่ม และพูดคุย โดยในบางครั้งอาจมีดีเจ หรือ Live Brand มาจัดแสดงสด

ถัดมาในส่วนโซน Pool Garden ที่อยู่ภายนอกอาคาร เป็นโซนสระว่ายน้ำเปิดในช่วงเวลากลางวันและยังมีที่นั่งกลางแจ้ง สามารถดื่มในโซนนี้ได้ อีกทั้งเร็วๆ นี้จะมีการเปิดตัวโซน Wellness Studio ที่ส่งจะจัดกิจกรรมเกี่ยวกับสุขภาพเช่น โยคะริมสระว่ายน้ำ, HITT คลาส, Ice Barth หรือกิจกรรมอื่นๆ ตามโปรแกรมของบ้านโซโฮในอนาคต

ในส่วนของชั้น 2 โซน House Kitchen ห้องอาหารไทย โดยเฮาส์เชฟ สมาชิกสามารถจองห้องเพื่อรับประทานแบบส่วนตัวได้ ทั้งยังสามารถจองเพื่อทำกิจกรรม อีเวนต์ หรือปาร์ตี้ส่วนตัวได้เช่นกัน

สุดท้ายชั้น 3 Event Floor เป็นโซนสำหรับการจัดกิจกรรมหลักของ Soho House เพื่อจัดกิจกรรมครีเอทีฟหรือเวิร์กช็อปต่างๆ อีกทั้งสมาชิกก็สามารถจองพื้นที่นี้ เพื่อจัดกิจกรรมส่วนตัวได้เช่นกัน

ทั้งนี้การจัดกิจกรรมภายในก็มีความหลากหลาย และผลัดเปลี่ยนไปตามช่วงเวลา เพื่อสร้างการปฏิสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกภายในบ้าน เช่น กิจกรรมเสวนาซีรีส์เรื่องสืบสันดาน หรือ กิจกรรม Drag show ที่เพิ่งจัดขึ้นไปเมื่อไม่นานมานี้ ทั้งยังมีเวิร์คช็อปต่างๆ เช่น การจัดดอกไม้

ซึ่งการจัดกิจกรรมเหล่านี้ก็เป็นการส่งเสริมการปฏิสัมพันธ์กันในวงการศิลปะ ทั้งยังช่วยส่งเสริมพวกเขาอีกด้วย

“สมมุติว่าเรามีแบรนด์เครื่องประดับ แบรนด์เสื้อผ้าใหม่ แทนที่เขาจะหาที่เป็นโรงแรมหรือโกดังทําเป็นแฟชั่นโชว์ เขาก็มาจัดเป็นเวิร์กช็อปกับเมมเบอร์เรา มาให้ความรู้ว่ากระบวนการทําจิวเวอร์รีนี้เป็นยังไง ซึ่งสมาชิกก็จะมีโอกาสได้ลองทำกิจกรรมใหม่ๆ ตัวแบรนด์ก็ได้โปรโมตสินค้าเข้าไปด้วย แบบนี้มันจะมีอะไรมากกว่าการจัดนิทรรศการให้คนถ่ายรูปแล้วกลับบ้าน เราชอบการเป็นพื้นที่ให้คนได้รู้ ได้ลอง ได้ทำอะไรสักอย่าง” 

อย่างไรก็ตาม ด้วยความเป็นไพรเวตคลับที่มีความเป็นส่วนตัวสูง ดังนั้นในการเข้าร่วมเป็นจึงมีกฎเหล็กที่ต้องเคารพความเป็นส่วนตัวของสมาชิกคนอื่น โดยห้ามถ่ายรูปภายในบ้าน เว้นแต่ว่ามีกิจกรรมภายในพื้นที่ที่ถูกกำหนดไว้เท่านั้น รวมถึงยังสามารถใช้โน้ตบุ๊กสำหรับทำงานได้เฉพาะโซนและเฉพาะเวลาตามกฎของที่แห่งนี้เท่านั้น

ในส่วนของการเป็นสมาชิกของ Soho House ค่าสมาชิก 6 หมื่นบาทต่อปี หรือหากอายุต่ำกว่า 27 ปี จะได้รับส่วนลดของการเป็นสมาชิกมากถึง 50% หรือ 3 หมื่นบาทต่อปี โดยการเข้าร่วมนั้นจะเป็นการคัดเลือกเฉพาะบุคคลที่ทำงานด้านครีเอทีฟเท่านั้น

Tags: , , , , , ,