ไนกี้เปิดตัวคอลเล็กชั่นเพื่อความยั่งยืนและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ

ไนกี้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่สำหรับนักกีฬาที่จะเข้าร่วมมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงกลางปี 2020 นี้  หนึ่งในนั้นก็คือ รองเท้าที่ได้รับการพัฒนาให้สอดรับกับยุคสมัยใหม่ของการแข่งขันกีฬาเพื่อเสริมสมรรถภาพทางการกีฬา รวมไปถึงแพลตฟอร์มรองเท้าวิ่งตระกูล เน็กซ์ เปอร์เซ็นต์ (NEXT%) ที่พัฒนาและยกระดับขึ้นใหม่ตามข้อมูลและสถิติใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในการแข่งขันวิ่งระยะไกล โดยแพลตฟอร์มรองเท้าวิ่งตระกูลเน็กซ์ เปอร์เซ็นต์ นี้มีนักวิ่งมาราธอนเจ้าของสถิติโลกคนปัจจุบันอย่างเอเลียด คิปโชเก (Eliud Kipchoge) เป็นผู้ร่วมพัฒนาและนำเสนอด้วย 

รองเท้าวิ่งไนกี้ แอร์ ซูม อัลฟาฟลาย เน็กซ์ เปอร์เซ็นต์ (Nike Air Zoom Alphafly NEXT%) เป็นรองเท้าวิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นที่สุดของรองเท้าวิ่งรุ่นทดสอบ เนื่องจากเอเลียด คิปโชเก สวมใส่รองเท้าต้นแบบของรองเท้ารุ่นนี้เมื่อเขาทำลายสถิติการวิ่งมาราธอนโดยใช้เวลาน้อยกว่า 2 ชั่วโมงที่กรุงเวียนนาเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นต้นแบบ ไนกี้ได้เสริมชั้นวัสดุสำหรับเทคโนโลยีไนกี้ แอร์ ซูม (Nike Air Zoom) เพิ่มอีก 2 จุด เสริมชั้นโฟม ใช้แผ่นคาร์บอนไฟเบอร์รุ่นใหม่ และใช้หน้าผ้ารองเท้าที่ระบายอากาศได้ดีขึ้น ไนกี้เสริมคุณสมบัติเหล่านี้เพิ่มเติมเพื่อให้รองเท้าใส่ได้สบายขึ้นและช่วยให้นักกรีฑาวิ่งได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้นโดยรองเท้าวิ่งรุ่นนี้จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในช่วงฤดูร้อนปี 2020 นี้ 

ในส่วนของรองเท้าบาสเกตบอลไนกี้ แอร์ ซูม บีบี เน็กซ์ เปอร์เซ็นต์ (Nike Air Zoom BB NEXT%) เป็นรองเท้าบาสเกตบอลรุ่นใหม่ที่มีน้ำหนักเบาและให้การตอบสนองที่ดีที่สุดในบรรดารองเท้าบาสเกตบอลของไนกี้ ช่วยให้นักบาสเกตบอลเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น  ด้วยระบบของเทคโนโลยีไนกี้ แอร์ ซูมแบบใหม่ โฟมไนกี้ รีแอค (Nike React Foam) ที่เผยให้เห็นได้จากภายนอก และแผ่นเพลทที่อยู่เหนือโฟมไนกี้ รีแอค ทำให้รองเท้าบาสเกตบอลรุ่นนี้มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแรง ดูดซับแรงกระแทกได้ดีขึ้น และส่งพลังงานกลับคืนสู่เท้าได้มากขึ้น 

ในคอลเล็กชั่นนี้ยังมี ชุดแข่งขันกีฬาสเก็ตบอร์ดโดยไนกี้ เอสบี (Nike SB Skateboarding Kits ชุดแข่งขันกีฬาสเก็ตบอร์ด ที่อาศัยแนวคิดด้านความยั่งยืนเป็นหัวใจหลัก โดยนักกีฬาสเก็ตบอร์ดทีมชาติสหรัฐฯ ฝรั่งเศส และบราซิลจะสวมใส่ชุดแข่งที่ผลิตจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล (Recycled Polyester) ทั้งหมด ไนกี้ปรับแต่งลวดลายและฝีเข็มของชุดแข่งเหล่านี้อย่างแม่นยำเพื่อให้มีสไตล์ สะท้อนวัฒนธรรมกีฬาของแต่ละประเทศอย่างชัดเจน และลดเศษวัสดุจากการผลิตให้ได้มากที่สุด ซึ่งลวดลายของชุดนั้น เป็นการร่วมออกแบบกับปาร์ร่า (Parra) ศิลปินชาวดัตช์

นอกจากนี้ยังมีคอลเล็กชั่นชุดกีฬา เครื่องแต่งกาย และอุปกรณ์กีฬาใหม่ล่าสุดที่ผลิตจากวัสดุเพื่อความยั่งยืน เนื่องจากสภาวะการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศทั่วโลกส่งผลกระทบโดยตรงต่อการจัดการแข่งขันกีฬาหรือการฝึกซ้อม ไฮไลท์ในคอลเล็กชั่นนี้ก็คือ ชุดสำหรับพิธีมอบเหรียญรางวัลของนักกีฬาทีมชาติสหรัฐฯ ที่ออกแบบโดยคำนึงถึงความยั่งยืนมากที่สุดนับตั้งแต่ไนกี้มีส่วนร่วมสนับสนุนชุดกีฬาให้กับทีมชาติสหรัฐฯ รองเท้ากีฬาที่ใช้วัสดุรีไซเคิลเป็นองค์ประกอบหลักในการผลิต และในกระบวนการการผลิตยังมุ่งเน้นไปที่การลดคาร์บอนฟุตพรินต์ (Carbon Footprint) ให้เป็นศูนย์อีกด้วย

โดยนักกีฬาทีมชาติสหรัฐฯ ที่ได้รับเหรียญรางวัลจะสวมเสื้อแจ็กเก็ตวินด์รันเนอร์ (Windrunner) รุ่นใหม่ที่ผลิตจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลทั้งหมด ในขณะที่กางเกงนั้นผลิตจากเส้นใยไนลอนรีไซเคิลทั้งหมด โดยลวดลายบริเวณตะเข็บกางเกงนั้น ใช้ยางรีไซเคิลภายใต้ชื่อไนกี้ไกรน์ (Nike Grind) เป็นองค์ประกอบหลักในการผลิต สำหรับรองเท้านั้นนักกีฬาทีมชาติสหรัฐฯ ที่ได้รับเหรียญรางวัลจะสวมรองเท้าไนกี้ แอร์เวเปอร์ แมกซ์ 2020 (Nike Air VaporMax 2020) ที่ผลิตโดยใช้วัสดุรีไซเคิลและมีหน้าผ้าที่ผลิตขึ้นจากการออกแบบอย่างแม่นยำที่สุด เพื่อลดปริมาณเศษวัสดุจากกระบวนการผลิต 

นอกเหนือไปจากนวัตกรรมสำหรับนักกีฬาที่จะเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาครั้งยิ่งใหญ่ที่กรุงโตเกียวแล้ว ในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ ไนกี้ยังนำเสนอคอลเล็กชั่นรองเท้าที่ทดลองออกแบบมา เพื่อนำเสนอว่าแนวคิดการออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนนั้นจะส่งผลให้ไนกี้ออกแบบรองเท้าได้อย่างไรบ้าง กับคอลเล็กชั่นรองเท้าสเปซ ฮิปปี้ (Space Hippie) ที่ผลิตจากเศษวัสดุเหลือทิ้งที่ทิ้งอยู่ตามพื้นของโรงานผลิตของไนกี้ ซึ่งพนักงานของไนกี้มักเรียกเศษวัสดุเหล่านี้ว่า ‘ขยะอวกาศ’ 

นักออกแบบของไนกี้นำเศษวัสดุเหล่านั้นมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ตามแนวคิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยใช้วัสดุแบบหมุนเวียน ทุกขั้นตอนในการพัฒนาแคปซูลคอลเลกชั่นสเปซ ฮิปปี้ ตั้งแต่การเลือกวัสดุ กระบวนการผลิต หรือบรรจุภัณฑ์นั้นจะคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ส่งผลให้คอลเล็กชั่นนี้เป็นคอลเล็กชั่นรองเท้าของไนกี้ที่มีอัตราการสร้างคาร์บอนฟุตพรินต์ในระดับต่ำที่สุด 

ภาพ : NIKE