เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา ทางสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ(NIA) ร่วมมือกับพันธมิตรได้แก่ Nylon Thailand และ Fungjai เตรียมจัดงาน Bangkok Music City มุ่งพัฒนาและสร้างประโยชน์จากธุรกิจสตาร์ทอัปที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านดนตรีในกรุงเทพมหานครเพื่อพัฒนาดนตรีไทยไปสู่ระดับโลกเป็นครั้งแรก

โดยมีการวางแผนในระยะแรกที่จะส่ง 3 วงดนตรีสัญชาติไทยและ 4 สตาร์ทอัปไปโชว์ผลงานที่งาน South by Southwest เมืองTexas ประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายนปีนี้ เพื่อเป็นการเริ่มต้นการนำธุรกิจและวงดนตรีไทยออกไปให้ชาวโลกรู้จัก และในช่วงปลายปีก็จะจัดงาน Bangkok Music City ขึ้นเนื่องจากทางสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติและพันธมิตรเห็นว่ากรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่มีความสามารถเพียบพร้อมในการพัฒนาไปเป็น Music City หรือเมืองแห่งดนตรี อีกทั้งยังมีขีดความสามารถที่จะพัฒนาการท่องเที่ยวด้านดนตรี (Music Tourism) เพื่อดึงดูดเม็ดเงินจากชาวไทยและชาวต่างประเทศมาเที่ยวในเทศกาลดนตรีต่างๆ เป็นการสร้างรายได้ที่มหาศาลให้กับกรุงเทพมหานครอีกทางหนึ่งด้วย

ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติกล่าวว่าเมืองไทยโดนเฉพาะกรุงเทพมหานครมีเสน่ห์ด้านวัตนธรรมร่วมสมัยอยู่มาก ดังนั้นไม่น่าจะมีความยากในการดึงดูดชาวต่างชาติ ยกตัวอย่างประเทศเกาหลีใต้ที่พัฒนาอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยีและวงการบันเทิงจนมีบริษัทใหญ่ๆมากมายสร้างรายได้ให้ประเทศเป็นวงเงินหลายร้อยล้านบาท

“สำหรับในปีนี้ทางสถาบันนวัตกรรมแห่งชาติจะมุ่งเน้นในการสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัปในกลุ่มธุรกิจศิลปะดนตรี และสันทนาการหรือ MAR Tech เข้ามาพัฒนาวางแผนแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการในธุรกิจด้านดนตรี ศิลปะและนันทนาการ”

MAR  Tech คืออะไร

MAR Tech คือชื่อเรียกการใช้เทคโนโลยีมาช่วยพัฒนาศักยภาพของกลุ่มธุรกิจดนตรี(Music) ศิลปะ(ART) และนันทนาการ (Recreation) เพราะเห็นว่าในสมัยก่อนคนไทยที่มีความสามารถแต่ไม่ได้รับการสนับสนุนที่ดีพอด้านเทคโนโลยีในประเทศและต้องไปพึ่งเทคโนโลยีของต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ทำให้มักจะเสียคนที่มีความสามารถไป

ดังนั้นหากประเทศไทยมีการพัฒนาเทคโนโลยีให้ดีพอและมีศักยภาพรองรับจะเป็นแก้ปัญหาการสูญเสียผู้มีความสามารถไปให้ต่างประเทศ อีกทั้งจะเพิ่มความรวดเร็วในการพัฒนาขยายโอกาสให้คนรุ่นใหม่สามารถมีงานทำในธุรกิจด้านใหม่ที่กำลังจะเติบโตในกรุงเทพมหานคร

ดร.พันธุ์อาจ อธิบายเพิ่มเติมว่า การทำงานของ MAR TECH เป็นการทำงานรวมกันของศาสตร์และศิลป์ ที่จะตอบรับความต้องการของคนรุ่นใหม่และเป็นการผสมสานสร้างคุณค่าใหม่ๆ ที่ยังไม่มีคนมองเห็นมาก

ขณะที่ ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า สตาร์ทอัปไทยมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสตาร์อัปอย่าง FinTech, TravelTech หรือ AgTech ซึ่งหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่ทาง NIA ให้ความสนใจด้านนวัตกรรมในปีนี้คือกลุ่มธุรกิจดนตรี ศิลปะ และนันทนาการ หรือที่เรียกว่า MAR Tech (Music, Arts & Recreation Technology)

โดยตั้งเป้าหมายในการเป็นสะพานเชื่อมระหว่าง Tech Startup เข้ากับแวดวงศิลปะ ดนตรี และนันทนาการ ผ่านการนำกลุ่มสตาร์ทอัปที่อยู่ใน Startup Ecosystem เข้ามาช่วยพัฒนา วางแผนแก้ไขปัญหาต่างๆ และช่วยเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการในการพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีด้านดนตรี ศิลปะ และนันทนาการ

การพัฒนาดนตรีไทยให้ก้าวไกลไประดับโลก

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติได้ร่วมมือกับบริษัท ฟังใจ จำกัด และ NYLON Thailand ในการยกระดับสตาร์ทอัปด้าน MAR Tech โดยในระยะแรกได้นำ 3 วงดนตรี ได้แก่ YellowFang, Chanudom ไปร่วมงานเซาธ์บายเซาธ์เวสต์ (South by South West) ประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงเดือนมีนาคม 2562

และในช่วงเดือนพฤศจิกายนจะมีการจัดงาน Bangkok Music City ซึ่งจะเป็นงานที่รวมวงดนตรีของไทยและต่างประเทศมาแสดงร่วมกันภายในงาน นอกจากนี้ยังมียังมีการพูดคุยเรื่องธุรกิจสตาร์ทอัปในงานอีกด้วย ซึ่งจะเป็นงานที่เปิดอากาศให้คนรุ่นใหม่ที่มีความฝันอยากจะมีวงดนตรีหรือธุรกิจของตนเองได้แสดงความสามารถและเป็นการขยายฐานธุรกิจในด้านดนตรีของไทยอีก

โดยงาน Bangkok Music City มีต้นแบบมาจากงาน South by South West ที่เคยแจ้งเกิดศิลปินดังมากมาย เช่น John Mayer, Katty Perry และ James Blunt และทางผู้จัดก็มีเชื่อว่าวงดนตรีของไทยจะสามารถเติบโตให้เป็นระดับโลกได้เช่นกัน

พงศ์สิริ เหตระกูล กรรมการ NYLON Thailand กล่าวเสริมว่าประเทศไทยที่ศิลปิน นักดนตรี และครีเอทีฟ มากฝีมือเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ประกอบกับการขยายตัวของโลกดิจิทัลที่ประชาชนสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ความบันเทิง เช่น มิวสิคสตรีมมิ่ง (Music Streaming) วิดีโอคอนเทนต์และโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย หรือแม้แต่ออนไลน์เกมมิ่ง (Online Gaming) ก็มีส่วนช่วยให้อุตสาหกรรมฯ มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“ปัจจุบันอุตสาหกรรมนี้มีมูลค่าสูงถึง 478,000 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตถึง 6.5%ในอีก 5 ปีข้างหน้า หากได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน รวมไปถึงผู้ชมภายในประเทศเองอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ศิลปินไทยสามารถผลิตผลงานและสร้างอาชีพได้อย่างยั่งยืน”

Bangkok Music Festival เปิดโอกาสสร้างรายได้

Bangkok Music Festival จะเป็นศูนย์รวมวงดนตรีและธุรกิจใหม่ๆ พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้คนแสดงความสามารถอย่างหลากหลาย โดยที่ต้องการทำให้กรุงเทพมหานครเป็นศูนย์กลางอีเวนท์ในภูมิภาคนี้เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวด้านดนตรี

ถือเป็นการเปิดโอกาสให้คนที่มีไอเดียใหม่ๆ กล้าแสดงออกและสร้างโอกาสในการจับคู่ธุรกิจ หรือสำหรับค่ายเพลงก็เป็นโอกาสให้สามารถหาศิลปินในสังกัดเพิ่มขึ้น เพราะต้องการจะพัฒนาศักยภาพของคนไทยให้สร้างรายได้มากขึ้น และเป็นการส่งเสริมแรงงานไทยที่มีความสามารถให้สามารถไปแข่งขันทัดเทียมกับชาวโลกได้

เพราะประเทศไทยมีความได้เปรียบในเชิงภูมิภาคอยู่ตรงกลางระหว่างประเทศสมาชิก ASEAN หากมีเทศกาลหรืออีเวนท์ต่างๆ ก็จะทำให้ชาวต่างชาติเดินทางมาได้ง่าย และเม็ดเงินก็ไหลเข้าประเทศเพิ่มขึ้น เฉพาะในปี 2018 กรุงเทพฯ มีอีเวนต์อยู่เฉลี่ยคืนละ 2-3 งาน ยิ่งในช่วง High Season สามารถจัดงานไดถึง  8 งานในคืนเดียว ดังนั้นจะเห็นว่าถึงศักยภาพของกรุงเทพฯ

“สำหรับงาน Bangkok Music City นอกเหนือจากการเพิ่มศักยภาพวงการ MAR Tech ไทยแล้ว ยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงดนตรี (Music Tourism) การท่องเที่ยวด้านความคิดสร้างสรรค์ (Creative Tourism) และการส่งออกสินค้าทางความคิดสร้างสรรค์เพิ่มเพิ่มรายได้ให้กับประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อม” ปิยะพงษ์ หมื่นประเสริฐดี ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการ บริษัท ฟังใจ จำกัด กล่าวปิดท้าย