NF หรือ นาธาน จอห์น ฟิวเออร์สเตน (Nathan John Feuerstein) คือแร็ปเปอร์ นักร้อง นักแต่งเพลงชาวอเมริกัน ที่ผู้คนรู้จักกันดีในฐานะ ‘แร็ปเปอร์ชาวคริสเตียน’ เขาเซ็นสัญญากับค่าย Capitol Christian Music Group หรือค่ายเพลงสำหรับชาวคริสเตียนโดยเฉพาะ ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังอยากให้ผู้คนจดจำเขาในฐานะศิลปินที่ทำเพลงสำหรับทุกคน และไม่เพียงเท่านั้น ดนตรีฮิปฮอปแบบฉบับของ NF ยังสามารถเข้าถึงใจคนฟังโดยทั่วไปได้จริงๆ ด้วยหลักฐานที่เขาคว้าที่หนึ่งใน Billboard Music Chart มาได้ด้วยซิงเกิ้ล Perception (2017)
NF ได้พิสูจน์แล้วว่าฮิปฮอปของเขาสามารถเข้าถึงคนทั่วไปจำนวนมากได้ ไม่เพียงเท่านั้น แม้แต่คนที่ไม่ได้นับถือศาสนาอย่างเหนียวแน่นขนาดนั้นก็สามารถฟังเพลงที่เกี่ยวกับความเชื่อ ความศรัทธาของกลุ่มคนหรือศาสนาที่ตนไม่ได้ยึดถือได้ด้วยเช่นกัน เพราะทุกคนล้วนเผชิญกับสิ่งที่เรียกว่า ‘ชีวิต’ เหมือนกัน เนื้อเพลงของเขาเกี่ยวกับอารมณ์ ความรู้สึกที่ทุกคนล้วนเคยเผชิญมา เมื่อรวมกับบีตที่ติดหู ทำให้ NF กลายมาเป็นแร็ปเปอร์ที่ถูกจับตามองอย่างมากในยุคปัจจุบัน
สไตล์การแร็ปที่หนักและดุดันของ NF ทำให้ใครต่างบอกว่าเขามีสไตล์คล้ายกับ Eminem แร็ปเปอร์ชาวผิวขาวที่เป็นตำนานของวงการฮิปฮอป สิ่งที่ทำให้ผู้คนต่างพากันสนใจในแร็ปของ NF เป็นเพราะว่าแม้ NF จะใช้บทเพลงในการระบายความโกรธ และอารมณ์ดิบของเขา แต่เนื้อเพลงของ NF ปราศจากคำสบถ ความรุนแรง หรือความสิ้นหวัง อาจเป็นเพราะเขาทำเพลงให้กับชาวคริสเตียน จึงต้องระมัดระวังอย่างมากในเรื่องของการใส่ส่วนผสมเหล่านี้ลงไปในเนื้อเพลง ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่แปลกใหม่สำหรับฮิปฮอปที่เป็นพื้นที่สำหรับความขบถสุดขั้ว หรือมีกลิ่นอาย ‘ใต้ดิน’ แม้จะมาอยู่ในกระแสหลักแล้วก็ตาม
ล่าสุดนี้ NF เพิ่งปล่อยเพลงใหม่ล่าสุด ‘The Search’ เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2019 แต่ก่อนที่จะไปดูผลงานล่าสุดของเขา เราอยากพาคุณไปดูชีวิตและบทเพลงเก่าๆ ของเขาเสียก่อน เพื่อทำความรู้จักกับดนตรีในแบบของ NF ให้มากขึ้นอีกนิด
นาธาน จอห์น ฟิวเออร์สเตน เกิดเมื่อวันที่ 30 มีนาคม ค.ศ. 1991 ที่มิชิแกน สหรัฐอเมริกา เขามีชีวิตวัยเด็กที่ยากลำบาก เนื่องจากพ่อและแม่หย่ากันเมื่อครั้งที่เขายังเด็กมาก นาธานและพี่น้องอีกสองคนอยู่กับแม่ที่เสพติดยาโอปิออยด์ ซึ่งถูกจัดเป็นยาแก้ปวด และมีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับมอร์ฟีน แฟนคนหนึ่งของแม่และแม่เองเคยทำร้ายร่างกายเขากับพี่น้องคนหนึ่งของเขา หลังจากนั้นพ่อของเขาจึงรับพวกเขาไปอยู่ด้วย นาธานไม่ค่อยได้ติดต่อกับแม่ของเขานัก ระหว่างการเรียนไฮสคูล ศาลได้ตัดสินให้นักสังคมสงเคราะห์ตรวจสอบการสนทนาระหว่างเขากับแม่ จึงทำให้นาธานรู้สึกไม่สบายใจที่จะต้องคุยกับแม่
ในปีค.ศ. 2009 แม่ของเขาเสียชีวิตจากการเสพยาเกินขนาด หลังจากนั้นนาธานได้แต่งเพลง How Could You Leave US ขึ้นมา ซึ่งเป็นเพลงหนึ่งในอัลบั้ม Therapy Session เพลงนี้พูดถึงความรู้สึกสับสนของเด็กคนหนึ่ง ที่ไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ถึงรักยาที่คร่าชีวิตตัวเองมากกว่าเขาที่เป็นลูกเสียอีก
I don’t know what it’s like to be addicted to pills
But I do know what it’s like to be a witness it kills
ผมไม่รู้หรอกว่าการติดยามันเป็นอย่างไร
แต่ผมรู้ว่าการเป็นพยานให้กับการคร่าชีวิตของยาพวกนั้นมันเป็นอย่างไร
They say pain is a prison, let me out of my cell
You say you proud of me, but you don’t know me that well
พวกเขาบอกว่าความเจ็บปวดคือห้องขัง ช่วยปล่อยผมออกจากรงขังของผมที
คุณบอกว่าคุณภูมิใจในตัวผม ทั้งที่คุณไม่ได้รู้จักผมดีขนาดนั้น
NF ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิต ความโกรธ และความเจ็บปวดที่เขาเผชิญอย่างตรงไปตรงผ่านบทเพลง และถึงแม้จะอย่างนั้นเขาก็เลือกที่จะทำตามคำสัญญาที่ว่าจะไม่ใส่คำสบถลงไปในเนื้อเพลงของเขา
คำสบถอาจช่วยกระตุ้นอารมณ์คนฟังได้ เพราะเป็นสิ่งที่ทุกคนใช้กันในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะยามที่เรารู้สึกโกรธ หรือต้องการระบายอารมณ์ ถึงจะปราศจากส่วนผสมนี้ไป แต่เนื้อเพลงที่ตรงไปตรงมาและจริงใจก็ช่วยให้เพลงของเขาดึงดูดผู้ฟังจำนวนมาก หลายๆ คนถึงกับกล่าวว่าตนเองต้องเสียน้ำตาหลังจากฟังเพลงนี้เลยทีเดียว
นอกจากการถ่ายทอดชีวิตที่ตรงไปตรงมา NF ยังพูดถึงความเชื่อของเขาในบทเพลงอีกด้วย
I’ve been through hell all my life though
But I know where heaven is
Father forgive me, for I am a sinner
But you gave me music as medicine
แม้ผมจะผ่านนรกมาทั้งชีวิต
แต่ผมรู้ว่าสวรรค์อยู่ที่ไหน
พระบิดาได้อภัยข้าพเจ้าที่เป็นคนบาป
แต่ท่านยังมอบบทเพลงเป็นยารักษาให้แก่ข้าพเจ้า
(Real – NF)
แม้ NF จะไม่ใส่คำสบถลงในบทเพลง แต่ตอนที่แฟนคลับไล่ตำหนิคนที่ใช้คำสบถ NF โพสต์สเตตัสในเฟซบุ๊กของตัวเองว่า ‘หยุดเข้ามาในเพจของผมเพื่อต่อว่าคนใช้คำหยาบเสียที ผมเหนื่อยกับเรื่องนี้มาก พอได้แล้ว ผมอยู่ที่นี่เพื่อทำเพลงเกี่ยวกับชีวิตให้กับทุกคนฟัง!! หนึ่งในสิ่งที่น่ารำคาญที่สุดสำหรับผมคือการอ่านคอมเม้นต์ในเพจแล้วเจอคนไล่ตำหนิการกระทำของคนอื่น หรือตำหนิคนอื่นเพราะเขาไม่เชื่อในบางสิ่งบางอย่าง จะเป็นแฟนเพลงผมหรือไม่ก็ตาม หยุดทำให้ช่องคอมเม้นต์มีแต่ขยะแบบนั้นเสียที ผมทำเพลงทั้งอัลบั้มพูดถึงเรื่องราวบางส่วนเหล่านั้น แต่คุณก็ยังไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมจะสื่อ สงสัยผมคงต้องขวานผ่าซากกว่านี้ ถึงจะส่งสารถึงพวกคุณได้ใช่ไหม?’
โพสต์นี้ของ NF แสดงให้เห็นว่าแม้เขาจะทำเพลงโดยดำเนินอยู่บนความเชื่อและตัวตนของตัวเอง แต่ก็คาดหวังว่าบทเพลงของเขาจะเป็นเพลงสำหรับทุกคน ไม่ใช่เฉพาะคนที่เชื่อแบบเขา หรือทำแบบเขาเท่านั้น
NF ยังเคยกล่าวไว้ว่าเขาทำเพลงเพื่อจัดการกับความรู้สึกของตัวเอง ความกดดัน ซึมเศร้า เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกที่เพลงของเขาจะเข้าถึงคนที่เป็นทั้งชาวคริสเตียน และไม่ได้เป็นชาวคริสเตียนอีกด้วย เพราะความรู้สึกที่ NF ถ่ายทอดผ่านบทเพลง เป็นความรู้สึกที่ทุกคนล้วนต้องเผชิญในชีวิตด้วยกันทั้งนั้นไม่ว่าคุณจะยึดถือศาสนาใด หรือไม่ยึดถือศาสนาใดๆ เลยก็ตาม
NF ได้ทำให้เราเห็นแนวทางใหม่ๆ ในการทำเพลงแร็ป รวมถึงพิสูจน์ว่าการยอมรับความแตกต่างคือหนทางในการเข้าถึงใจคนจำนวนมากด้วยเช่นกัน
อ้างอิง:
https://www.thefamouspeople.com/profiles/nf-nathan-john-feuerstein-41984.php
https://jamthehype.com/rapper-nf-face-relevant-christian-rap/
Tags: แรปเปอร์, TheMoJu, เพลงแร็ป
