บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดตัว BMW ซีรีส์ 7 ใหม่ สองรุ่นได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู 745Le xDrive M Sport เป็นระบบปลั๊กอินไฮบริด  และบีเอ็มดับเบิลยู 730Ld sDrive M Sport เป็นเครื่องยนต์ดีเซล 

ซึ่งได้รับการออกแบบใหม่หมดทั้งภายในและภายนอก พร้อมกับเครื่องยนต์แบบปลั๊กอินไฮบริดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ประหยัดพลังงานมากขึ้น ในราคาเริ่มต้นที่ 6,139,000 บาท พร้อมแพ็กเกจ BSI Standard ประกอบด้วยการบริการบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม. และการรับประกัน 3 ปีไม่จำกัดระยะทาง

มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า  BMW ซีรีส์ 7 ใหม่นี้ ถือเป็นรถยนต์รุ่นเรือธงของบีเอ็มดับเบิลยู ที่ประกอบจากโรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ที่จังหวัดระยอง ที่มีการออกแบบใหม่ให้สวยงามสะดุดตามากยิ่งขึ้น มีความสง่างามที่สะท้อนถึงความหรูหราร่วมสมัย และมากไปด้วยประสิทธิภาพของเครื่องยนต์แบบปลั๊กอินไฮบริดที่ทำให้ประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ด้านมร. คริสเตียน เมทซเกอร์ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ บีเอ็มดับเบิลบู ซีรีส์ 7 และ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 8 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 40 ปีของ BMW ซีรีส์ 7 ทำยอดขายไปแล้วกว่า 1.8 ล้านคัน โดยเฉพาะช่วงปี 2015-2019 สร้างยอดขายไปแล้วถึง 230,000 คัน โดยมีตลาดเอเชียเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ

 “ปีนี้เราเปิดตัวรถรุ่นใหม่กันตั้งแต่ต้นปี โดยไม่ต้องรอเทรนด์หรือดูทิศทางของตลาดรถ แต่เราจะเป็นผู้กำหนดเทรนด์ของรถยนต์เอง โดยเฉพาะตลาดเอเชียที่มีการเติบโตมากในกลุ่มรถหรู สูงขึ้นถึงตัวเลขสองหลัก”

มร. คริสเตียน ยังเปิดเผยอีกว่า BMW ซีรีส์ 7 ถือเป็นรุ่นที่ขายดีอย่างมากในตลาดเอเชีย โดยเฉพาะประเทศจีนที่สามารถทำยอดขายคิดเป็น 45% ของยอดขายซีรีส์ 7 ในเอเชีย และถ้ารวมตลาดญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในภาพรวมคิดเป็น 60% ของยอดขายซีรีส์ 7 ทั่วโลก

“ตลาดเอเชียเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ แสดงให้เห็นถึงกำลังซื้อที่มากขึ้น ซึ่งเราก็คาดหวังว่า BMW ซีรีส์ 7 ใหม่จะยังคงไปได้ดีในตลาดเอเชีย”

ผู้บริหาร BMW สรุปจุดเด่นของ BMW ซีรีส์ 7 ใหม่ ว่าประกอบด้วย การออกแบบใหม่ที่ดูปราดเปรียว แต่ยังสง่างาม กระจังหน้าคู่ที่ใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า 30% เส้นสายบนกระโปรงหน้ารถก็ดูเฉียมคมและทรงพลัง ส่วนท้ายรถออกแบบใหม่ให้ดูทันสมัย และอีกจุดเด่นก็คือ ระบบแบตเตอรีลิเธียม-ไอออนรุ่นใหม่ล่าสุดที่ติดตั้งไว้ใต้เบาะที่นั่งหลัง เพิ่มความจุเป็น 12 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ทำให้วิ่งด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวเป็นระยะทาง 50-58 กิโลเมตร

สำหรับแผนธุรกิจเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าของบีเอ็มดับเบิลยูในประเทศไทย ทางผู้บริหารบอกว่ายังต้องรอดูทิศทางของตลาด ซึ่งเป็นเรื่องของอนาคต แต่ว่าตอนนี้ยังไม่มีแผนการทำรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย

Tags: